เผย 20 อีสเตอร์เอ้กจาก Aquaman
กลายเป็นหนังดีซีเรื่องล่าที่ทำเงินถล่มทลาย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อย ที่บ้านเราเพียงสัปดาห์เดียวก็ทะลุ 200 ล้านบาท แต่รายได้หลักของหนังคือประเทศจีน หนังเปิดตัวที่จีนไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปัจจุบันทำรายได้เฉพาะที่จีนถึง 189 ล้าน จากทุนสร้างที่ 200 ล้านเหรียญ ถึงตอนนี้หนังทำรายได้ไปแล้ว 332 ล้านเหรียญ เรียกได้ว่า Aquaman เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นความหวังใหม่ของจักรวาลดีซีเลยก็ว่าได้ ด้วยความสนุก สุดมันส์ แอ็คชั่นและซีจีตระการตา ตลอด 2 ชั่วโมง 14 นาที แต่ภายใต้ความสนุกนี้ ผู้กำกับเจมส์ วาน และทีมงานก็แอบหยอดอีสเตอร์เอ้กไว้ตรงนั้นตรงนี้มากมาย และนี่คือ 20 อีสเตอร์เอ้กจาก Aquaman ใครเห็นตรงไหนตรงกันบ้างครับ
1. เชื่อมโยงกับ Justice League
ด้วยความล้มเหลวครั้งใหญ่ของ Justice League ทำให้แฟนๆ ดีซี หวังให้ Aquaman เป็นประตูใบใหม่ที่เปิดโอกาสให้กับอนาคตของหนังดีซีแล้วลืมความล้มเหลวในอดีตไปซะ แต่ Aquaman ก็ยังคงอ้างอิงเรื่องราวบางส่วนถึง Justice League อย่างแรกคือ เมร่า ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่ อควาแมนเคยต่อสู้กับสเตพเพนวูล์ฟซึ่งเป็นเหตุการณ์ใน Justice league และอีกตอนหนึ่ง เป็นฉากสั้น ๆ ตอนต้นเรื่องหลาย ๆ คนได้สังเกตเห็นกล่องสี่เหลี่ยมที่เป็นกล่องประดิษฐ์ด้วยฝีมือของเจ้าหญิงแอตแลนนาวางอยู่บนโต๊ะข้างกรอบรูป เป็นกล่องสีขาวทำจากเปลือกหอย แต่รูปทรงละม้ายกับกล่อง มาเธอร์บ็อกซ์ ที่เป็นเป้าหมายสำคัญของสเตพเพนวูล์ฟในเรื่อง Justice League แสดงให้เห็นถึงรูปแบบทางศิลปะที่ถ่ายทอดอยู่ในสายเลือดชาวแอตแลนติส แม้แต่เจ้าหญิงแอตแลนนาก็ได้รับการถ่ายทอดมาเช่นกัน
2. เชื่อมโยงกับ Man Of Steel
ในหนัง Man Of Steel ฉากที่คลาร์ก เคนต์ ช่วยชีวิตคนจากเหตุแท่นขุดเจาะระเบิดกลางทะเล แล้วตัวเขาก็เสียท่าจมลงสู่ก้นทะเล ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือฝูงวาฬมาช่วยเหลือเขา ในฉากนี้แฟนๆ ดีซีต่างเชื่อกันว่าฝูงวาฬนี้ถูกอควาแมนส่งมาช่วยคลาร์ก เคนต์ แล้วฉากนี้ก็ถูกอ้างอิงอีกครั้งใน Aquaman เมื่อคิงออร์มบอกถึงเหตุผลที่อยากยกทัพชาวแอตแลนติสไปเอาคืนชาวโลก เหตุเพราะมนุษย์ทำลายทรัพยากรมากมายบนโลก ฉากนี้ได้มีภาพฟุตเตจเชิงสารคดีถึงมลภาวะมากมายที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ และภาพแรกๆ ในฟุตเตจนี้ก็เป็นภาพแท่นขุดเจาะน้ำมันระเบิด ซึ่งเป็นฉากจากหนัง Man Of Steel (2013) นั่นเอง
3. Green Lantern จะกลับมารึเปล่า
หนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่จากฝั่งดีซีที่ล้มเหลวที่สุด ถึงขั้นว่าไรอัน เรย์โนลด์ ยังเอามาล้อตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยสวมชุดเขียวเป็นซูเปอร์ฮีโร่รายนี้ในหนัง Green Lantern (2011) จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่า กรีน แลนเทิร์น จะได้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในจักรวาลดีซี แม้แต่ใน Justice League
ซึ่งถ้าอิงตามเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนแล้ว กรีน แลนเทิร์น คือสมาชิกในยุคบุกเบิกของกลุ่ม Justice League เลย แต่เมื่อมาถึง Aquaman ก็มีแย้ม ๆ จุดเกี่ยวข้องกับ Green Lantern โผล่มาให้เห็นเล็กน้อย ในฉากโพสต์ เครดิต ที่โชว์ให้เห็นผนังห้องทำงานของ ดร.ชิน ที่เขารวบรวมข่าวมากมายของอควาแมนตัดมาแปะผนังไว้เต็มไปหมด และหนึ่งในหนังสือพิมพ์ที่เขาตัดมานั้นคือหนังสือพิมพ์ daily news for Coast City ซึ่งเมือง โคสต์ ซิตี้ นี้ก็คือเมืองที่ ฮาล จอร์แดน ร่างมนุษย์ของ กรีน แลนเทิร์น อาศัยอยู่ ซึ่งอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกลับมาของ Green Lantern ก็ได้ แต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องโผล่มาหน่อยนึงล่ะ
4. ตุ๊กตาผีแอนนาเบลล์ก็แอบมาโผล่ในหนังด้วย
เป็นอีสเตอร์เอ้กที่ถูกพูดถึงมากที่สุดจาก Aquaman เพราะผู้กำกับเจมส์ วาน คือเจ้าพ่อหนังสยองขวัญ เขาเป็นผู้กำกับชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนที่เป็นที่รู้จักจาก Saw (2004) แล้วก็สานต่อจักรวาลหนังสยองขวัญด้วย Insidious , The Conuring จนก้าวออกจากโลกหนังสยองขวัญมากำกับ Furious Seven แล้วก็มาประเดิมหนังซูเปอร์ฮีโร่กับ Aquaman แต่ก็ยังไม่ลืมที่เขาจะแอบเอา แอนนาเบลล์ หนึ่งในคาแรกเตอร์สยองขวัญที่เป็นผลผลิตของเขามาใส่ไว้ใน Aquaman ด้วย ซึ่งหลายๆ คนน่าจะพลาดเห็นกันไป ในฉากที่เมร่าและอควาแมนหลบหนีจากแอตแลนติสด้วยการขโมยเรือจากตู้คอนเทนเนอร์ วินาทีที่เรือโผล่พ้นผิวน้ำมีขยะและปลาเน่าลอยบนผิวน้ำมากมาย และหนึ่งในขยะที่ลอยอยู่บนฉากหลัง ก็มีเจ้าตุ๊กตาผีแอนนาเบลล์รวมอยู่ด้วย
5. โทโปเจ้าปลาหมึกผู้รักเสียงเพลง
ในหนังสือการ์ตูน Aquaman นั้น เขามีผู้ช่วยตัวสำคัญคือเจ้าปลาหมึกยักษ์โทโป ผู้มีความสามารถมากมาย เชี่ยวชาญในการยิงธนู แต่โทโปเป็นปลาหมึกที่มีความสุนทรีย์ทางอารมณ์สูง มันจึงชอบเล่นเครื่องดนตรีมากกว่า และเล่นเครื่องดนตรี หลายชนิด โทโป มีประวัติยาวนานในเรื่องราวของอควาแมน ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือ Adventure Comics #229 (ตุลาคม, 1956) และในหนัง Aquaman โทโปก็โผล่มาให้เห็นด้วย แต่ไม่ได้มาในฐานะผู้ช่วยของอควาแมน แต่มาในฐานะตัวประกอบ เป็นปลาหมึกที่ออกมาตีกลอง ในฉากประลองระหว่างอควาแมนกับคิงออร์ม
6. ทีวีซีรีส์ "Stingray"
ในตอนต้นเรื่อง หลังจากแอตแลนนาผวาตื่นขึ้นมาที่บ้านของทอมด้วยเสียงจากทีวี เธอตกใจกับภาพลักษณ์ของทีวีที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมมีภาพเคลื่อนไหวและมีเสียงดัง เธอเลยเขวี้ยงตรีศูลเข้าใส่ทีวีจนพัง แต่แว่บหนึ่งก่อนที่ทีวีจะพัง รายการที่โชว์บนทีวีนั้นเป็นทีวีซีรีส์ที่ชื่อ "stingray" เป็นละครหุ่นชักที่ดังมากในยุค 1960s เหตุที่ทีมงานเลือก stingray มาใช้ใน aquaman ก็เพราะเรื่องราวของ stingray นั้นเป็นเรื่องราวของเมืองใต้ทะเลลึก แล้วก็ถูกปกครองโดยกษัตริย์ทรราชย์ ซึ่งใกล้เคียงกับเรื่องราวของ aquaman อยู่พอควร
7. คิงออร์มคือภาพลักษณ์ที่ถูกต้องของอควาแมน
ภาพลักษณ์ของอควาแมนที่ตรงตามภาพในหนังสือการ์ตูน จะเป็นหนุ่มผมทองร่างสะโอดสะอง ผิวขาวซีด ซึ่งถ้าพิจารณาตามภาพลักษณ์นี้ จะเห็นได้ว่าการเลือก เจสัน โมมา มารับบทนี้นั้น เป็นการหักล้างภาพลักษณ์ทั้งหมดของอควาแมนที่เคยมีมาแต่ในอดีต แต่ถ้าพิจารณาตามภาพลักษณ์ที่กล่าวแล้ว จะเห็นได้ว่าคิงออร์มนั้นกลับมีบุคลิกลักษณะตรงตามภาพลักษณ์ของอควาแมนในหนังสือการ์ตูนเป๊ะ ซึ่งแพททริค วิลสัน ผู้รับบทคิงออร์มก็เล่าให้ฟังในหลาย ๆ บทสัมภาษณ์ว่าผู้กำกับเจมส์ วาน ก็หยอกเขาเล่นบ่อยๆ ในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
8. จูลี่ แอนดรูส์ พากย์เสียง คาราเธน
ในหนัง Aquaman นั้น ได้นักแสดงรุ่นใหญ่หลายรายมาร่วมงานด้วย แต่นักแสดงผู้ยิ่งใหญ่สุด ที่ทีมงานรู้สึกเป็นเกียรติและประหลาดใจมากสุดที่เธอยอมตกลงมาร่วมงานด้วยก็คือ จูลี่ แอนดรูส์ ชื่อนี้ผู้ชมรุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้น แต่ผู้ชมในวัย 40 ขึ้นไป จะรู้ดีถึงความยิ่งใหญ่ของดาราหญิงระดับตำนานผู้นี้
จูลี่ แอนดรูส์ เป็นนักแสดงอาวุโสวัย 83 ปี เธอคือนักแสดงระดับตำนาน เป็นเจ้าของบทนำจาก The Sound Of Music ที่ส่งให้เธอได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และยังเป็นที่รู้จักจากบทพี่เลี้ยงมหัศจรรย์จากหนัง Mary Poppins ซึ่งในหนัง Aquaman นั้นจูลี่มาพากย์เสียงเป็น "คาราเธน" สัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึก ที่ออกมาพูดขู่อควาแมนว่า "ถ้าแกพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ว่าแกคู่ควร ฉันจะกินแกซะ"
ซึ่งนับเป็นเกียรติกับทีมงาน Aquaman มากที่เธอมาร่วมงานด้วย เพราะจูลี่ นั้นเป็นที่ยอมรับนับถือจากบุคคลในวงการบันเทิง แล้วก่อนหน้านี้เธอก็เพิ่งปฏิเสธที่จะไปแสดงรับเชิญในหนัง Mary Poppins Returns หนังภาคต่อจาก Mary Poppins (1964) หนึ่งในหนังทีสร้างชื่อเสียงให้กับเธอ ด้วยเหตุผลที่ว่า "เรื่องนั้นมันเป็นโชว์ของเอมิลี่ บลันต์"
9. เสียงของ ไบรน์ คิง คือ "กิมลี"
นอกจากจูลี่ แอนดรูส์ ที่เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่มากพากย์เสียงใน Aquaman แล้ว ยังมีอีกหนึ่งบทคือ ไบรน์ คิง ราชันย์ของดินแดนสุดท้ายของอาณาจักรแอตแลนติส ที่ยังไม่ยอมศิโรราบให้กับคิงออร์ม ในหนังเราจะเห็นไบรน์ คิง เป็นภาพตัวละครที่สร้างจากซีจี มองเห็นแค่ดวงตาผ่านหมวกเกราะ แต่เสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงพากย์ของ "จอห์น รีส เดวีส์" บอกชื่อนี้ทุกคนอาจจะงง แต่ถ้าเอ่ยถึงว่าเขาคือ "กิมลี" หนึ่งในตัวละครสำคัญจากหนังไตรภาค Lord of the Rings ทุกคนก็น่าจะร้อง "อ๋อ"
10. คนพากย์เสียงการ์ตูน Aquaman ก็มีบทในหนัง
ไมเคิล บีช คือนักแสดงผู้รับบทเป็นพ่อของแบล็ค แมนต้า หนึ่งในศัตรูของอควาแมน ในอดีตนั้นไมเคิล บีช เป็นทั้งนักแสดงและนักพากย์เสียงการ์ตูน เขาเคยพากย์เสียง มิสเตอร์ เทอริฟิค ในการ์ตูนซีรีส์ the Justice League Unlimited แล้วยังเคยพากย์เสียงเป็นวายร้าย เดวิล เรย์ และตัวเดวิล เรย์ นี่ล่ะก็เป็นตัวการ์ตูนที่เคยเป็นแบล็ค แมนต้า แต่ต้องเปลี่ยนชื่ออยู่ช่วงหนึ่งก็เพราะปัญหาทางด้านลิขสิทธิ์ และเมื่อ Aquaman ถูกสร้างเป็นหนัง แม้ไมเคิล บีช จะไม่ได้มาเล่นเป็นแบล็ค แมนต้า ในบทที่เขาเคยพากย์เสียงในอดีต แต่อย่างน้อยเขาก็ได้เล่นเป็นพ่อของแบล็ค แมนต้า ล่ะน่า
11. สดุดีให้กับ เอช.พี. เลิฟคราฟต์
เอช.พี. เลิฟคราฟต์ อาจจะเป็นนักประพันธ์ที่ชื่อไม่คุ้นหูคอหนังรุ่นใหม่สักเท่าใดนัก เพราะ เอช.พี. เลิฟคราฟต์ เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1937 นู่นแล้ว งานประพันธ์ของเขาจะเป็นแนวสยองขวัญ ปนแฟนตาซี และวิทยาศาสตร์ และเป็นที่นิยมในวงแคบ ๆ แล้วชื่อของเอช.พี. เลิฟคราฟต์ ก็เป็นที่รู้จักขึ้นมาเหตุเพราะ สตีเฟน คิง เจ้าพ่อนิยายสยองขวัญเป็นผู้กล่าวยกย่องสรรเสริญว่า เอช.พี. เลิฟคราฟต์ คือนักประพันธ์นิยายสยองขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20
และแน่นอนว่าผู้กำกับ Aquaman ก็มาจากสายหนังสยองขวัญจะต้องเป็นผู้ที่ยอมรับนับถือผลงานของ เอช.พี. เลิฟคราฟต์ เช่นกัน ซึ่งเจมส์ วาน ก็ต้องมีอะไรอ้างอิงถึงนักเขียนชื่อดังผู้นี้ ในฉากที่ทอม กับ แอตแลนนา นั่งจิบกาแฟด้วยกัน กล้องจะจับภาพไปที่ลูกบอลแก้วหิมะที่วางทับอยู่บนหนังสือ The Dunwich Horror หนังสือเรื่องดังของ เอช.พี. เลิฟคราฟต์ และเนื้อหาในหนังสือนี้ก็เป็นเรื่องราวของคธูลู สัตว์ประหลาดที่แอบอยู่ในเมืองลึกลับใต้มหาสมุทร ก็ยังคงเป็นเรื่องราวที่พูดถึงโลกใต้ทะเลเช่นเดียวกับ Aquaman
12. จิมอนด์ ฮอนซู นักแสดงงานชุกในหนังซูเปอร์ฮีโร่
แม้จะไม่ใช่ดาราขายชื่อในวันนี้ แต่ในฮอลลีวู้ดก็ต้องยกให้จิมอนด์ ฮอนซู เป็นนักแสดงที่มากฝีมือและอยู่ในวงการมาตั้งแต่ยุค 1990s เขาได้เข้าชิงออสการ์มาแล้วถึง 2 ครั้ง จนถึงวันนี้จิมอนด์ ก็ยังมีงานแสดงไม่ได้ว่างเว้น โดยเฉพาะปีนี้ถึงต้นปี
หน้า จิมอนด์ มีชื่อเกี่ยวข้องในหนังซูเปอร์ฮีโร่ถึง 3 เรื่อง เล่นทั้งดีซีและมาร์เวลเลยดว้ย
เริ่มจากใน Aquaman หลายคนอาจจะงงว่าเล่นเป็นใครเพราะไม่เห็นหน้าตาเขาในเรื่องเลย จิมอนด์ ไม่ได้แสดงแต่พากย์เสียงเป็น คิงริโค หรือ ฟิชเชอร์แมน คิง ผู้ครองหนึ่งใน 7 อาณาจักรของแอตแลนติส และผลงานต่อจากนี้คือบท "โคราธ" บทจากหนัง Guardians of the galaxy ที่จะมาปรากฏตัวในหนัง Captain Marvel เดือนมีนาคม หน้านี้ และต่อด้วย บทพ่อมด ในหนัง Shazam! ซูเปอร์ฮีโร่รายใหม่จากจักรวาลดีซี เดือนเมษายนนี้ ดูแล้วแต่ละบทที่จิมอนด์ได้รับนี่ มีภาคต่อยาวๆ ทั้งนั้น แบบนี้มีงานแสดงไปอีกยาวนานเลย
13. เกาะไดโนเสาร์
คงไม่มีใครคาดคิดว่ามาดู Aquaman แล้วจะได้เห็นเกาะไดโนเสาร์ด้วย แม้จะเห็นไดโนเสาร์แค่แวบๆ แต่ก็เชื่อว่าฉากเกาะไดโนเสาร์นี้ถูกใส่เข้ามาเพื่อเป็นการรำลึกถึง "Journey to the Center of the Earth" นิยายชื่อดังของ จูลส์ เวิร์น รวมไปถึง "The Lost World" ของ เซอร์ อาร์เธอร์ โคแนน ดอยล์ ซึ่งในหนังสือการ์ตูนของดีซีก็ยังเคยมีเรื่องราวเกี่ยวกับโลกล้านปีมาแล้ว ในตอน "Dinosaur Island" เป็นเรื่องราวของเกาะลึกลับห่างไกลในโพ้นทะเล ที่มนุษย์ไม่เคยย่างกรายไปถึง แล้วเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของดีซีก็ต้องไปผจญกับเหล่าไดโนเสาร์ แต่สำหรับฉากนี้ใน Aquaman ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เกาะไดโนเสาร์ได้โผล่ขึ้นมาในจักรวาลหนังดีซี ก็เป็นไปได้ว่าเกาะนี้อาจจะกลับมามีบทบาทอีกครั้งในอนาคต
14. ความละเอียดของทีมงานในเรื่องการหายใจของชาวแอตแลนเธียน
ทฤษฎีเรื่องปอดของชาวแอตแลนเธียนนั้นถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ในหนังสือการ์ตูน ว่าเมื่อชาวแอตแลนเธียนขึ้นมาบนบก พวกเขาจะอาเจียนน้ำออกจากปอดเพื่อให้อากาศเข้าไปแทนที่ ตรงจุดเล็กๆ นี้ กลับถูกนำมาใช้เป็นประเด็นสำคัญในการต่อสู้ ระหว่างเมร่า กับ คิงออร์ม เมื่อชาวแอตแลนเธียนต้องแทนที่น้ำกับอากาศในปอดเมื่ออยู่ต่างสภาวะ ก็เปรียบเสมือนจุดอ่อนหนึ่งของชาวแอตแลนเธียนผู้แข็งแกร่ง
แล้วเมร่าก็เลือกโจมตีที่จุดอ่อนนี้ของคิงออร์ม เมื่อเธอสร้างฟองอากาศยักษ์ห่อหุ้มคิงออร์ม บังคับให้คิงออร์มต้องอาเจียนน้ำออกจากปอดเพื่อหายใจในฟองอากาศที่เมร่าสร้างขึ้น ทันใดนั้นเธอก็ทำลายฟองอากาศนั้นเสีย ทำให้คิงออร์มต้องพ่นอากาศออกจากปอดอีกครั้ง คิงออร์มคำรามด้วยความโกรธพร้อมกับมีฟองอากาศพรั่งพรูออกจากปาก ฉากนี้เป็นการถอดแบบมาจากการ์ตูนต้นฉบับด้วยความเคารพ เพราะผู้เขียนการ์ตูนได้กำหนดไว้ว่าถ้าชาวแอตแลนเธียนพูดคุยในน้ำ ควรที่จะมีฟองอากาศลอยออกจากปาก
15. ตรีศูลเบื้องหน้าอควาแมน
ในหนังจะมี 2 ฉากที่อาร์เธอร์ เอาตรีศูลมาวางอยู่เบื้องหน้าใบหน้า ครั้งแรกตอนที่เขาไปพิสูจน์ตัวตนกับคาราเธ็น และกษัตริย์แอตแลนว่าเขาคือผู้สืบทอดที่สมควร แล้วเขาก็ดึงตรีศูลมาชูขึ้น แล้วก็วางลงเบื้องหน้า กล้องโคลสอัปใบหน้าของอาร์เธอร์ผ่านตรีศูล อีกครั้งหนึ่งเมื่อเขาออกรบในฉากสุดท้าย เขาเอาตรีศูลมาวางเบื้องหน้าใบหน้าอีกครั้งเพื่อรวบรวมพลังในการต่อสู้ ภาพที่เราเห็นตรีศูลวางอยู่ด้านหน้าใบหน้าของอควาแมนนั้น เปรียบได้กับเป็นภาพลักษณ์ประจำตัวของอควาแมน ที่ปรากฏอยู่บ่อยครั้งในหนังสือการ์ตูน และครั้งหนึ่งก็เคยมีภาพมุมนี้ขึ้นบนปกหนังสือ Aquaman #30 เขียนโดย สเตพัน เซจิค
16. คารวะต่อ Man of Steel
ภาพด้านบนนี้คือฉากหนึ่งใน Aquaman ตอนที่อควาแมนถือตรีศูลไว้เหนือศีรษะแล้วพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงจากใต้ทะเลลึกสู่ผิวน้ำ เป็นภาพที่เห็นแล้วชวนให้นึกถึงภาพของ ซูเปอร์แมนที่ทะยานสู่ท้องฟ้าแล้วพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงทะลุเพดานเสียง ทำให้รู้สึกได้ว่า แซค ชไนเดอร์ และ เจมส์ วาน ต่างก็มีวิสัยทัศน์ต่อซูเปอร์ฮีโร่ของเขาได้คล้ายกัน หรือจะเป็นไปได้ว่าเจมส์ วาน ได้คลุกคลีกับแซค ชไนเดอร์ มาพอประมาณในช่วงที่สร้าง Batman V Superman และ Justice League ที่มีอควาแมนไปร่วมปรากฏตัว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่อควาแมนจะมีหนังเดี่ยวของตัวเอง แล้วเจมส์ วานก็รับทอดวิสัยทัศน์ของแซค มาด้วย
17. ลี แวนเนลล์ ในบทรับเชิญ
หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อลี แวนเนลล์ นัก เพราะเขาไม่ได้โด่งดังในฐานะผู้กำกับแถวหน้าเหมือนเจมส์ วาน แต่ก็ต้องเท้าความว่าลี แวนเนลล์ คือเพื่อนสนิทของเจมส์ วาน และก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์พร้อมกัน ตั้งแต่หนัง Saw (2004) เจมส์ วาน รับหน้าที่ผู้กำกับ ส่วน ลี แวนเนลล์ เป็นคนเขียนบทและแสดงนำเป็นชายหนุ่มที่ติดอยู่ในห้องน้ำ หลังจากนั้นเขาก็เป็นผู้เขียนบท Saw และ Insidious รวมถึงเป็นผู้กำกับ Insidious: Chapter 3 ด้วย เมื่อเพื่อนสนิทก้าวมาถึงระดับเป็นผู้กำกับหนังระดับบล็อคบัสเตอร์ เจมส์ วานก็เลยถือโอกาสเอาเพื่อนสนิทมาร่วมแจมด้วย ใน Aquaman ลี แวนเนลล์ แอบมาเล่นเป็นนักบินที่พาอควาแมน และ เมร่า มาส่งที่ทะเลทราย
18. คำคมจาก จูลส์ เวิร์น
ในตอนต้นของหนัง ที่เปิดด้วยเสียงบรรยายของ อาร์เธอร์ เคอร์รี่ เขาได้หยิบยกคำคมของจูลส์ เวิร์น มากล่าว ""Put two ships in the open sea, without wind or tide, and, at last, they will come together" ถ้าปล่อยเรือสองคำออกสู่ทะเลกว้าง แม้จะปราศจากสายลมและกระแสคลื่น สุดท้ายเรือสองลำก็ต้องแล่นมาบรรจบกันอยู่ดี" แน่นอนว่าประโยคนี้จะต้องอ้างอิงถึงบุพเพสันนิวาส ของทอม เคอร์รี่ ผู้พ่อ และราชินีแอตแลนนา ผู้เป็นแม่ ซึ่งทั้งคู่ก็คือจุดกำเนิดของอควาแมน หรือสุดท้ายอาจจะรวมถึงตัวอาร์เธอร์ และ เมร่า ด้วยก็เป็นได้ คาดเดาว่าการที่ผู้เขียนบทเลือกหยิบยกคำคมมาจากจูลส์ เวิร์น ก็เพราะนิยายเรื่องดังของจูลส์ เวิร์น ก็คือ "ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์" (Twenty Thousand Leagues Under the Sea) ซึ่งก็เป็นเรื่องราวของโลกลึกลับใต้ท้องทะเลลึกเช่นเดียวกับอควาแมน
19. ฟองอากาศยักษ์หายไป
ย้อนไปในฉากหนึ่งใน Justice League ในฉากใต้ท้องทะเลลึก เมื่อเมร่าต้องการจะสนทนากับอาร์เธอร์ เธอได้สร้างฟองอากาศยักษ์ขึ้นมาโอบล้อมตัวเธอและอาร์เธอร์ ซึ่งทั้งคู่สามารถสนทนากันได้ปกติเหมือนบนบก แต่เมื่อมาถึงหนังเดี่ยว ของ Aquaman ทางผู้สร้างคงคิดแล้วว่าคงจะยุ่งยากไม่น้อยถ้าตัวละครใต้ทะเลจะคุยกันที ก็ต้องสร้างฟองอากาศยักษ์ที แล้วยิ่งเป็นหนังที่เรื่องราวเกิดขึ้นใต้ทะเลเป็นหลัก มีบทสนทนาใต้น้ำเยอะแยะไปหมด สุดท้ายเจมส์ วาน จึงต้องยกเลิกข้อ จำกัดนี้ทิ้งเสีย แล้วให้ชาวแอตแลนเธียนสนทนากันใต้น้ำได้ปกติ แล้วค่อยเพิ่มเสียงเอฟเฟกต์เป็นเสียงใต้น้ำเข้ามาเล็กน้อย
20. ดร.สตีเฟน ชิน อาจจะมีบทบาทมากขึ้นในภาค 2
ในหนังเราได้เห็น ดร.ชิน ปรากฏตัวออกมา 2 ฉาก ครั้งแรกเขาออกมาบนจอทีวีพูดถึงเรื่องทฤษฎีที่เขาเชื่อมั่นว่าเมืองแอตแลนติสมีอยู่จริง และโผล่มาอีกครั้งในฉากหลังเอนด์เครดิต เมื่อเขาเป็นผู้ปฐมพยาบาลบาดแผลรุนแรงให้กับแบล็คแมนต้า และมีข้อตกลงระหว่างกัน ถ้า ดร.ชิน จะช่วยอัปเกรดชุดรบให้แบล็คแมนต้ากลับไปแก้แค้นอควาแมน เขาก็จะพา ดร.ชิน ไปให้เห็นว่าเมืองแอตแลนติสมีอยู่จริง ซึ่งเป็นไปได้สูงว่า ดร.ชิน จะมีบทบาทมากขึ้นในภาคต่อ ๆ ไป เพราะในหนังสือการ์ตูนนั้น ดร.ชิน เป็นเพื่อนของทอม และ อาร์เธอร์ เคอร์รี่ แต่แล้วก็เกิดบางหมางกันเมื่ออาร์เธอร์ เคอร์รี่ ไม่ยอมเปิดเผยที่ตั้งของแอตแลนติสให้ ดร.ชิน รับรู้
ตัวอย่างภาพยนตร์