8 หนังห้ามพลาดของผู้กำกับกิลเลอร์โม เดล โตโร
1. Pan's Labyrinth (2006)
หนึ่งในผลงานชิ้นโดดเด่นที่ถูกกล่าวขานว่ายอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของ เดล โทโร่ ที่ทำให้เขาได้รับคำชมทั้งในฐานะผู้กำกับ มือเขียนบท และผู้อำนวยการสร้างในภาพยนตร์ดราม่าแฟนตาซีเรื่องนี้ โดยเขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมอีกด้วย
Pan's Labyrinth ไม่เพียงมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ยังมีโทนที่ผสมเอาความมืดหม่นของโลกแฟนตาซีและความเป็นจริงอันโหดร้ายเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน ผ่านเรื่องราวในช่วงปี 1944 ในสเปนยุคสิ้นสุดสงคราม เมื่อเด็กสาวนามว่าโอฟีเลียได้ย้ายมาอยู่ในบ้านหลังใหม่ ก่อนเธอจะพบว่าใกล้ๆสถานที่แห่งนี้มีดินแดนลึกลับสุดอัศจรรย์รอเธอค้นพบอยู่
2. Mimic (1997)
ผลงานอสูรกายยักษ์ในช่วงยุคแรกๆของ เดล โตโร เมื่อนักวิทยาศาสตร์ทดลองสร้างแมลงพันธุ์ใหม่เพื่อฆ่าแมลงสาบที่เป็นพาหะนำโรคร้ายแรงแก่มนุษย์ ซึ่งตามแผนที่วางไว้คือแมลงชนิดนี้จะตายเองหลังทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่หลายปีต่อมา พวกเขาก็พบความจริงว่าเหล่าแมลงสายพันธุ์ใหม่นั้นยังมีชีวิตรอดและตอนนี้มันได้พัฒนาตัวเองจนมีขนาดใหญ่น่าสยดสยอง พร้อมรอเวลาโจมตีมนุษย์อยู่ใต้เมือง!
แม้ Mimic จะมีภาคต่อตามมาอีก 2 ภาคในรูปแบบหนังทุนต่ำ แต่นั่นก็ไม่สามารถเทียบได้กับความสดใหม่และน่าสยดสยองได้แบบที่ เดล โตโร ได้สร้างไว้ในหนังเรื่องนี้เลย
3. Blade II (2002)
เดล โตโร ได้รับโอกาสสำคัญในการนำ เวสลีย์ สไนปส์ กลับมาสวมบท เบลด นักฆ่าแวมไพร์สุดระห่ำอีกครั้ง ด้วยทุนสร้างสูงราว $54 ล้าน พร้อมจัดเต็มฉากแอคชั่นที่มากขึ้นกว่าภาคแรก ความสำเร็จของหนังภาคต่อนี้ยังทำให้นักแสดงนำอย่างสไนปส์เอง เอ่ยปากชมว่า "นี่คือ Blade ภาคที่เขาชื่นชอบที่สุด!" อีกด้วย
นอกจากนี้นี่ยังเป็นผลงานโกอินเตอร์ของนักแสดงเอเชีย ดอนนี่ เยน ที่ไม่เพียงแสดงฉากแอคชั่นบนจอ แต่ยังช่วยออกแบบฉากแอคชั่นต่างๆในเรื่องอีกด้วย
4. Hellboy (2004)
ผลงานฮีโร่พันธุ์นรกที่คอหนังทั่วโลกคุ้นหน้าคุ้นตา ผ่านฝีมือการกำกับโดย เดล โตโร ซึ่งได้นักแสดงคู่บุญอย่าง รอน เพิร์ลแมน มารับบทฮีโร่ตัวแดงนาม "เฮลล์บอย" ที่ถือกำเนิดในเปลวเพลิงเมื่อราว 60 ปีก่อนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เฮลล์บอยได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพพันธมิตรที่นำทีมโดยศาสตราจารย์บรูม (รับบทโดย จอห์น เฮิร์ต) ผู้ก่อตั้งศูนย์บัญชาการลับเพื่อการค้นคว้า และป้องกันเหตุเหนือธรรมชาติ ผู้เลี้ยงดูเฮลล์บอยมาเสมือนลูกในไส้และได้พัฒนาความสามารถเหนือธรรมชาติของเขาเพื่อใช้ปกป้องโลกใบนี้จากเหล่าผู้ไม่หวังดีและอสูรร้าย
5. Hellboy II: The Golden Army (2008)
ผู้กำกับ เดล โตโร สานต่อตัวละครที่ตนชื่นชอบอีกครั้งในการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกับทุนสร้าง $85 ล้าน ชะตากรรมของมนุษยชาติอยู่บนเส้นด้าย เมื่อเจ้าชายผู้มีความแค้นฝังอกต่อมนุษย์วางแผนปลุกกองทัพอสูรขึ้นมาประกาศศึกกับมนุษย์บนโลก "เฮลล์บอย" จึงต้องร่วมมือกับกลุ่มเพื่อนผู้ไม่เหมือนใครในการยับยั้งสงครามนี้ไม่ให้เกิดขึ้น
The Golden Army มาพร้อมเหล่าตัวประหลาดรูปร่างหน้าตาสุดโดดเด่นมากมาย พร้อมภาพของดินแดนอีกด้านของโลกใบนี้ที่น่าตื่นตา
6. Pacific Rim (2013)
ผู้กำกับ กิลเลอร์โม เดล โตโร พูดถึงผลงานบล็อคบัสเตอร์เกี่ยวกับหุ่นยักษ์และสัตว์ประหลาไคจูเรื่องนี้ว่า "นี่คือโปรเจ็กต์ที่รวมทุกอย่างตามที่ผมต้องการมารวมเข้ากัน ทั้งภาพ บรรยากาศ อารมณ์ความรู้สึก การผจญภัยสุดระทึกใจของสัตว์ประหลาดและหุ่นยนต์ที่ยากจะต้านทาน มันเป็นอะไรที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน"
เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก เดล โตโร มักชอบวาดรูปสัตว์ประหลาดและหุ่นยนต์ไว้ในสมุดโน้ต ภายในเครื่องจักรขนาดยักษ์ เขาวาดแผนผังภาพตัดแสดงให้เห็นว่าคนขับหุ่นยนต์นอนตรงไหน ทำอาหารตรงไหน ติดต่อสื่อสาร และควบคุมหุ่นยนต์ตรงไหน ระบบลำเลียงและกลไกการทำงานของสิ่งมีชีวิตและเครื่องจักรที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้นี้ จะสอบผ่านในสายตาเขาก็ต่อเมื่อมันตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงที่น่าเชื่อถือ เมื่อเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาก็ยังคงวาดรูปหุ่นยนต์และสัตว์ประหลาดในสมุดโน้ตอยู่ และความสนใจที่เขามีมาต่อหุ่นยนต์และสัตว์ประหลาดก็ถูกนำมาพัฒนาเป็น Pacific Rim เรื่องนี้นี่เอง
7. Crimson Peak (2015)
เมื่อหัวใจถูกขโมยไปโดยชายแปลกหน้าเจ้าเสน่ห์ หญิงสาวคนหนึ่งถูกพาตัวไปยังบ้านซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาดินสีเลือด สถานที่ที่เต็มไปด้วยความลับ ซึ่งจะตามหลอกหลอนเธอไปตลอดกาล ระหว่างความปรารถนาและความมืดมิด ระหว่างความลึกลับและความบ้าคลั่ง กลับซุ่มซ่อนความจริงที่อยู่เบื้องหลัง
Crimson Peak เล่าเรื่องราวความรัก ความสยองแนวโกธิคในแบบฉบับของ กิลเลอร์โม เดล โตโร ที่ได้ มีอา วาซิโควสก้า, เจสสิก้า แชสเทน, ทอม ฮิดเดิลสตัน และชาร์ลี ฮันนั่ม มารับบทตัวละครสำคัญ ผ่านเรื่องราวสุดสยองที่พาผู้ชมไปค้นพบพลังความรักที่ทำให้เราทุกคนกลายเป็นสัตว์ร้าย
"Crimson Peak คือเรื่องผีที่คล้ายกับ Pan’'s Labyrinth มันมีการผสมผสานของภาพยนตร์หลากหลายแนว และความจริงที่ว่าเรากำลังอัดเรื่องผีตามแบบขนบลงไปพร้อมกับความมีระดับและความงดงามของภาพยนตร์คลาสสิก" ผู้กำกับคนดังกล่าว
8. The Shape of Water (2018)
ผลงานภาพยนตร์จากนักเล่าเรื่องชั้นยอด กิลเลอร์โม เดล โตโร ที่การันตีด้วยการคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมและดนตรีประกอบยอดเยี่ยม จากเวทีลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 75 พร้อมได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึง 12 สาขา จาก BAFTA AWARDS และเข้าชิง 13 สาขา จาก ACADEMY AWARD
เรื่องราวเทพนิยายอันพิสดารอันมีฉากหลังเป็นอเมริกายุคสงครามเย็นช่วงปี 1962 ในห้องทดลองลับความปลอดภัยสูงของทางรัฐบาล เอไลซา (แซลลี ฮอวค์คินส์) ทำงานอยู่ที่นั่นและใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา แต่ชีวิตของเธอกลับพลิกผันไปโดยสิ้นเชิงเมื่อเธอและเพื่อนร่วมงาน เซลดา (อ็อกเทเวีย สเปนเซอร์) ได้ค้นพบการทดลองที่ถูกปิดเป็นความลับ นักแสดงรายอื่นๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แก่ ไมเคิล แชนนอน, ริชาร์ด เจนคินส์, ดั๊ก โจนส์ และไมเคิล สตัลบาร์ก
พบกับ "The Shape of Water - เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์" ได้แล้ว วันนี้ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างซับไทย