เผยปมดราม่า Justice League : Warner Bros. ต้องการไล่ Zack Snyder ออกจากโปรเจคต์ และเหตุผลของการไม่เลื่อนฉายทั้งที่มีการถ่ายซ่อม

Movie News7 ธันวาคม 2560

        เป็นที่ฮือฮามากถึงมากที่สุดกับการเปลี่ยนตัวผู้กำกับของ Justice League จาก Zack Snyder ไปเป็น Joss Whedon ซึ่งถือว่าอาจเป็นช่วงโชคร้ายที่โศกนาฏกรรมในครอบครัวของ Zack ก็ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เริ่มระส่ำระส่ายทำให้ Zack ตัดสินใจถอนตัว แต่ความจริงเบืองหลังนั้นมีความดราม่ามากกว่าที่หลายๆ คนนึกถึง จากรายละเอียดเรื่องราวต่างๆ ของสื่อหลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็น The Hollywood Reporter, Variety, Deadline หรือ The Wrap เกี่ยวกับดราม่าของเรื่องนี้ ล่าสุด The Wrap ก็ได้ออกมาเปิดเผยข่าวจากวงในที่น่าตกตะลึก



       อย่างที่หลายๆ คนได้รู้ว่า Justice League นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมากมายหลังจากกระแสวิจารณ์ที่ไม่ค่อยดีนักของ Batman v Superman ซึ่งโปรดักชั่นได้เริ่มต้นตั้งแต่เมษายน 2016 หลังจาก Batman v Superman ลงโรงเพียงไม่กี่สัปดาห์ ซึ่ง  The Wrap ได้เผยว่าผู้อำนวยการสร้างบริหารบางคนได้เข้าไปหา Greg Silverman ประธานฝ่ายพัฒนาและสร้างสรรค์ของ Warner Bros. และร้องขอให้ปลด Zack Snyder ออกจากโปรเจคต์ Justice League ซึ่ง Silverman นั้นก็มีแนวโน้มที่ “ไม่พึงพอใจอย่างรุนแรง” ต่อ Zack เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากโปรดักชั่นนั้นเดินทางมาไกลมากแล้ว และใกล้จะขมวดทุกอย่างแล้วด้วย สุดท้ายทาง Warner Bros. ก็ตกลงที่จะให้ Snyder ได้ดูแล Justice League ต่อไป แต่อย่างไรก็ตามทาง Warner ก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ส่ง Kevin Tsujihara CEO ของ Warner Bros. และ Jon Berg ประธานฝ่ายภาพยนตร์ของ DC ไปยัง London เพื่อดูแลภาพรวมของโปรดักชั่น



         เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Joss Whedon ได้ถูกนำเข้ามาสู่ Justice League เพื่อที่จะทำให้หนังดู "เบาและสนุกขึ้น" ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ลูกสาวของ Snyder เสียชีวิตจากจากฆ่าตัวตาย ถึงแม้ว่าจะมีโศกนาฎกรรมที่รุนแรงและน่าเศร้า แต่ Snyder ก็ยังคงพยายามอย่างดีที่สุดในการผลักดันโปรเจคต์นี้ให้ไปต่อจนจบอย่างเต็มกำลัง แม้ในที่สุดแล้วเขาตัดสินใจถอนตัวออกในฐานะผู้กำกับก็ตาม แรงกดดันจากทาง Warner Bros. ที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงในหลายๆ อย่างนั้นอาจมาในเวลาที่ผิดที่ผิดทาง แหล่งข่าวของ The Wrap ให้ความเห็นว่า "มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะในระดับไหนก็ตาม"



        จากนั้นก็อย่างที่เรารู้กันว่าหนังมีการถ่ายซ่อม ซึ่งรวมถึงหลายๆ ฉากของ Henry Cavill ในบท Superman ที่ใส่เข้ามา แต่นั่นก็คือหนึ่งในปัญหาหนักสุดของหนัง Cavill มีหนวดเฟิ้มในการรับบทตัวละครสำคัญใน Mission Impossible 6 ซึ่งกำลังถ่ายทำอยู่ในช่วงนั้น และตามสัญญาที่ให้กับทาง Paramount คือเขาห้ามโกนหนวดเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใด ๆ ซึ่งทำให้ทาง Warner Bros. ต้องทำการลบหนวดของเขาออกด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล และกำหนดการฉายในวันที่ 17 พฤศจิกายน ก็อยู่ไม่ไกลแล้ว การเลื่อนฉายก็ดูจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีสักเท่าไหร่ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมหนังถึงออกมาเป็นแบบนี้



         และหากพิจารณาในอีกมุมถึงการเร่งเร้าให้หนังฉายตามกำหนดการเดิมทั้งที่มีการถ่ายซ่อม เป็นเพราะเนื่องจากการใกล้กำหนดการควบรวมกิจการของ AT&T และ Time Warner ที่มีจำนวนเงินเกี่ยวข้องถึง 85 พันล้านเหรียญสหรัฐ ที่พวกเขาหวังว่าจะปิดดีลได้ก่อนสิ้นปี แหล่งข่าวหนึ่งของ The Wrap ได้เผยว่าทั้ง CEO อย่าง Kevin Tsujihara และ Toby Emmerich ประธานและหัวหน้าฝ่าย Content ต้องการที่จะรักษาโบนัสของพวกเขาที่จะได้รับก่อนการควบรวมกิจการ และเป็นกังวลว่า หากเลื่อนฉายหนังออกไป โบนัสของพวกเขาจะต้องถูกเลื่อนจ่ายออกไปปีหน้าและพวกเขาก็อาจจะไม่ได้ทำงานอยู่ในสตูดิโอแล้ว
จากทั้งหมด เราได้เห็นกันแล้วว่าผลลัพธ์ที่ออกมาของ Justice League นั้นเกิดจากอะไรกันบ้าง