Amy Lou Adams เกิดที่เมือง Vicenza แคว้น  Veneto ประเทศ  Italy เธอมีพ่อแม่เป็นชาวอเมริกัน คือ Kathryn (Hicken) และ Richard Kent Adams ทหารช่างที่ประจำการอยู่ที่ Caserma Ederle ใน Italy ในช่วงเวลานั้น Amy เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่นับถือนิกาย  Mormon family of seven children in Castle Rock, รัฐ Colorado บรรพบุรุษของเธอมีทั้งผู้ดีอังกฤษ เข่นเดียวกับเดนมาร์ก และยังมีเชื้อของชาวสวิส-เยอรมัน และนอร์เวย์อีกด้วย

Amy ได้เข้าร่วมคณะนักร้องประสานเสียงของโรงเรียน Douglas County High School ด้วยความทะเยอทะยานที่อยากจะเป็นนักบัลเลต์ทำให้ในตอนนั้นเธอก็ได้เข้าเป็นนักเต้นฝึกหัดของคณะบัลเลต์ท้องถิ่นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามเธอได้ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่ร้าน The Gap และเป็นแม่บ้านที่ร้าน Hooters เพื่อหาทุนสนับสนุนตนเองก่อนที่จะสามารถหางานเป็นนักเต้นได้ที่โรงละคร Boulder's Dinner Theatre และ Country Dinner Playhouse ในโปรดักชั่นอย่างเรื่อง "Brigadoon" และ "A Chorus Line" และที่นั่นเองที่เธอเป็นที่สะดุดตาของผู้กำกับของโรงละครและภัตตาคาร Minneapolis ซึ่งเขาได้ขอให้เธอย้ายไปอยู่ที่เมือง Chanhassen รัฐ  Minnesota สำหรับงานแสดงในงานเลี้ยงอาหารค่ำ และการแสดงในโรงละครที่มากขึ้น

ในช่วงหนึ่งที่เธอมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อตึง ทำให้ไม่สามารถเต้นได้ในช่วงนั้น เปิดโอกาสให้เธอได้เข้าร่วมออดิชั่นในส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Drop Dead Gorgeous (1999) ซึ่งในขณะนั้นกำลังถ่ายทำใกล้ ๆ Minnesota และระหว่างการถ่ายทำนั้น Kirstie Alley หนึ่งในทีมนักแสดงนำได้ชักชวนเธอและหนุนใจให้ย้ายไปที่ Los Angeles ซึ่งทำให้ในเวลาต่อมานั้นเธอก็ได้ชนะผู้เข้าร่วมออดิชั่นหลายคนจนเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Cruel Intentions (1999) เวอร์ชั่นโทรทัศน์ของ ของ Fox television ซึ่งในฉบับหนังใหญ่  Sarah Michelle Gellar รับบทเป็น  "Kathryn Merteuil" และในฉบับโทรทัศน์  Amy ก็ได้รับบทเดียวกันกับ Sarah 
อย่างไรก็ตามแม้เรื่องนี้ในฉบับโทรทัศน์จะถูกถ่ายทำไป 3 ตอนเรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาคือเรื่องนี้ไม่เคยได้ออนแอร์ และส่วนต่าง ๆ ของแต่ละตอนก็ถูกรวบเข้าด้วยกัน ตัดต่อ และส่งตรงไปยังม้วนวิดิโอจนเป็นเรื่อง Cruel Intentions 2 (2000). หลังจากความผิดหวังจากงานโทรทัศน์ ในที่สุด Amy ก็ได้รับบทสมทบที่เป็นบทหลักของเรื่องใน Catch Me If You Can (2002) ซึ่งบทของเธออยู่ฝั่งตรงข้ามกับ  Leonardo DiCaprio แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้นั้นไม่ได้ส่งให้เธอโด่งดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาอย่างที่เธอเคยหวังเอาไว้ และในช่วงนั้นก็ไม่มีงานเข้ามาหาเธอเลยอยู่เกือบปี และในที่สุดเธอก็หวนคืนกลับอยู่งานทางโทรทัศน์ และร่วมแสดงกับ Live Series ขนาดสั้นเรื่อง Dr. Vegas (2004)

จากนั้นเธอก็มีโอกาสร่วมแสดงในหนังอินดี้ทุนต่ำอย่าง Junebug (2005) (ที่ถ่ายทำกันเพียงแค่ 21 วัน) และจากเรื่องนี้เองที่ทำให้เธอได้รับความสนใจอย่างแท้จริง นั่นรวมถึงการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมและยังได้เข้าชิงรางวัลในเวทีอื่น ๆ อีกด้วย ทำให้ในปีต่อมาความสามารถของเธอได้ก็ได้ถูกหมายตาโดย Disney ที่ชักชวนเธอมาร่วมออดิชั่นและในที่สุดเธอก็ชนะนักแสดงหญิงกว่า 300 คนในการออดิชั่นบท "Giselle" ในหนัง อนิเมชั่นผสม live-action อย่าง Enchanted (2007) ที่ถือได้ว่าเป็นบทที่ทำให้เธอโด่งดังขึ้นมาแบบเปรี้ยงปร้าง และเป็นสิ่งที่พิสูจน์ฝีมือของเธอว่าไม่เพียงเก่งกาจในการแสดงโดยนำเสนอบทเจ้าหญิงที่สดใสมีชีวิตชีวาเปี่ยมด้วยจริตที่ไร้เดียงสาราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูนดิสนีย์จริง ๆ เท่านั้น แต่ความสามารถในการเต้นและร้องเพลงของเธอก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน การแสดงของเธอในเรื่องนี้ทำให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าขิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในสาขาภาพยนต์เพลง/ตลก อีกด้วย

จากนั้นมา Amy เริ่มได้รับบทบาทที่แสดงถึงความสามารถทางการแสดงของเธอในบทบาทที่หลากหลายมากขึ้น เรื่องต่อมาที่เธอได้แสดงคือภาพยนตร์ฟอร์มดีอย่าง Charlie Wilson's War (2007) และยังคงร่วมแสดงในหนังอินดี้อย่าง Sunshine Cleaning (2008) ซึ่งเปิดตัวรอบ premiered ในปี 2008 ที่เทศกาลหนัง Sundance Film Festival และในเวลาต่อมาบท "Sister James" ของเธอในภาพยนตร์เรื่อง Doubt (2008) ก็ได้นำเธอให้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่ 2 ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ รางวัล Screen Actors Guild award และรางวัล British Academy Film award

หลังจากนั้นเธอก็รับบทที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบทนักบินหญิง  Amelia Earhart ในเรื่อง Night at the Museum: Battle of the Smithsonian (2009) และบทนักผู้ให้คำปรึกษาและเยียวยาจิตใจทางโทรศัพท์จากเหตุการณ์ 9/11 นักเขียนผู้ทะเยอทะยาน นักทำอาหารมือสมัครเล่นและบล้อคเกอร์ ใน  Julie & Julia (2009) ในช่วงต้นปี 2010 เธอได้รับบทคู่กับ Jason Segel ในเรื่อง The Muppets (2011) และยังได้ร่วมงานกับ  Philip Seymour Hoffman ในภาพยนตร์ของ Paul Thomas Anderson เรื่อง The Master (2012) อีกทั้งยังได้ร่วมกระทบไหล่กับ  Clint Eastwood และ Justin Timberlake ในเรื่อง Trouble with the Curve (2012) จากนั้นเธอก็รับบท  Lois Lane ใน Man of Steel (2013) และรับบทที่ท้าทายความสามารถจากคนที่มีตัวตนอยู่จริงใน  American Hustle (2013) และก็มารับบทศิลปินที่มีตัวตนอยู่จริงอีกครั้งกับบท  Margaret Keane ในหนังชีวประวัติที่กำกับโดย Tim Burton อย่าง Big Eyes (2014).

          ในปี 2016 เธอกลับมารับบท Lois Lane อีกครั้งใน Batman v Superman: Dawn of Justice (2016)ต่อด้วยบทของผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและการสื่อสารใน หนังดราม่าไซไฟของ Denis Villeneuve เรื่อง Arrival(2016) โดยประกบคู่กับ Jeremy Renner และ Forest Whitaker อีกทั้งยังได้ร่วมจอกับยอดฝีมืออย่าง Jake Gyllenhaal และรุ่นใหญ่อย่าง Michael Shannon ในหนังดราม่าระทึกขวัญสุดดาร์กเรื่อง Nocturnal Animals ของดีไซน์เนอร์ที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับฝีมือดีอย่าง Tom Ford
 

และในปีนี้ เธอกลับมารับบท Lois Lane เป็นครั้งที่ 3 กับครั้งแรกของการรวมตัว Superhero ระดับตัวท้อปบนจอภาพยนตร์ของค่าย DC Comics  อย่าง Justice League เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างซับไทย