Justice League ไม่ใช่หนังมหากาพย์ ไม่จำเป็นต้องยาว 3 ชั่วโมง

Movie News30 ตุลาคม 2560

หนังแต่ละเรื่องนั้น การมีความยาว 2 ชั่วโมงนั้นคือว่าเป็นหนังที่มีขนาดยาว หนังความยาวที่เหมาะสมที่สุดควรจะมีความยาว 100 นาที แต่ความยาวที่มากกว่านั้นจะต้องแน่ใจว่าหนังมีวัตถุประสงค์ที่เพียงพอและสามารถที่จะทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมและจดจ่อได้มากที่สุด  ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีหนังที่มีความยาวราว ๆ 2 ชั่วโมง 20 นาที (140 นาที) มากขึ้น และหลายเรื่องก็ทำได้แป้กมากกว่าที่จะปัง การเพิ่มมากขึ้นของเวลาไม่ได้รับประกันว่าหนังจะดี เมื่อคุณได้ดูหนังตลกที่มีความยาว 2 ชั่วโมง หรือหนังเกี่ยวกับหุ่นยนต์ตีกันเองที่ยาวเกือบ 3 ชั่วโมง นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดที่คุณต้องฟันฝ่าดูมันจนจบ

ความยาวของหนังควรจะมีความเหมาะสมกับตัวหนังว่าเป็นแบบไหน และจากที่เราได้รู้เกี่ยวกับ Justice League ก็คือ หนังมันจะไม่ได้เล่าเรื่องที่ซับซ้อน ไม่เหมือนกับ BvS ที่ยังคงทำให้หลาย ๆ คนพรั่นพรึ่ง Justice League มันจะเป็นหนังที่อยู่ในมาตรฐาน เป็นหนังผจญภัยที่แบ่งเป็น 3 องค์

 


อาจมีการเปิดเผยโครงสร้างเนื้อหา ใครไม่อยากรู้อ่านข้ามย่อหน้านี้ไปได้) คือการที่ Bruce Wayne รวบรวมทีมขึ้นมาเพื่อต่อกรกับผู้รุกรานจากต่างดาว จากนั้นคือการที่ทีมได้พยายามต่อสู้กับ Steppenwolf และพบเจอกับอุปสรรคจนพ่ายแพ้ และสุดท้ายการกลับมารวมทีมกันของตัวละครอีกครั้งหนึ่งรวมถึงตัวละครที่ทุกคนเฝ้ารอคอยอย่างบุรุษแห่งความหวัง

หนังจะสามารถดึงดูดให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมได้มากขึ้น และจากทุกๆ อย่างที่เราได้เห็นกันไปในตัวอย่างนั้น ซึ่งที่ถูกซ่อนอยู่ก็คือ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเป็นส่วนหลัก ๆ ที่ถูกซ่อนอยู่ ซึ่งนี่ก็เป็นการทำงานในระบบของฮอลลีวู้ด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Warner Bros. เหมือนกับการที่ Superman ได้ซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเขาให้เป็นความลับ

การที่หนังมีความยาว 2 ชั่วโมงถือว่าเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วสำหรับ Justice League การเล่าเรื่องทีสามารถรักษาความสมดุลระหว่างความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง และภูมิหลังของตัวละครนิดหน่อย ซึ่งเราได้เห็นตัวอย่างที่ดีไปแล้วจาก Dunkirk ที่เป็นหนังสงคราม และก็เป็นหนังที่มีความยาวสั้นที่สุดของ Nolan ตั้งแต่ที่เคยทำมาอีกด้วย ซึ่งมีความยาวแค่ 107 นาที ที่ไม่ได้เป็นข้อเสียของหนังเลย และที่สำคัญมันทำให้ประเด็นต่าง ๆ ดูดีขึ้นด้วย ยังมีความเข้าใจผิดที่เปรียบเทียบว่าหนังที่ดีควรจะยาวและมีคุณค่ากว่าอยู่อีกมาก  ซึ่งเป็นความคิดที่ควรจะปรับให้เข้าใจกันเสียใหม่ ถ้าหากหนังสามารถทำให้สมบูรณ์แบบในตัวมันเองได้ภายในระยะเวลาที่สั้นกว่า เราจะยืดมันออกไปทำไม

 


แน่ล่ะว่าคงมีคนเอาไปเปรียบเทียบกับหนังมหากาพย์ที่ยาวมากอย่างไตรภาค The Lord of the Rings แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ Justice League เป็นหรืออยากที่จะเป็น การคาดหวังแบบนั้นเป็นการคาดหวังที่ผิดเพราะเป็นหนังคนละประเภทกันเลย Justice League จะเป็นหนังที่มีควาแตกต่างแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนใน DCEU มันจะเป็นคล้ายๆ ส่วนหนึ่งของไตรภาคSuperman ที่จะคืนชีพกลับมา จะมีความตึงเครียดที่น้อยลง ที่จะมีอะไรที่มากไปกว่าความ จะมีความสว่างมากขึ้น และโทนของหนังจะหลากหลายมากขึ้น ซึ่งความสั้นของหนังหนังก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญน้อยกว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งอย่างไรก็ตามอย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า มันเป็นเรื่องที่ดี

 

ตัวอย่างซับไทย