การที่ Justice League มีความยาวที่สั้นเป็นเรื่องที่ดียังไง
ในที่สุดความยาวของหนังอย่างเป็นทางการก็ออกมาแล้วสำหรับ Justice League และถือว่าสร้างความประหลาดใจให้กับแฟน ๆ พอสมควร จากข่าวลือก่อนหน้านี้ที่วาหนังจะมีความยาวมากกว่า 3 ชั่วโมง แต่ดูเหมือนว่าหนังรวมดาวฮีโร่ DCEU ของ Zack Snyder จะมีความยาวของหนังที่สั้นที่สุดที่เคยมีมาในจักรวาลนี้ โดยความมีความยาวเพียงแค่ 121 นาที ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก
จากข่าวนี้ทำให้บรรดาแฟนๆ บางส่วนค่อนข้างไม่พอใจกับความยาวหนังที่ออกมา ซึ่งสั้นกว่า Batman v Superman: Dawn of Justice - Ultimate Edition ซึ่งนำมาสู่ข้อครหาว่า Joss Whedon เป็นคนที่ตัดต่อและเปลี่ยนแปลงจนสั้นขนาดนี้ แต่ที่จริงแล้ว หนังเรื่องนี้จะแบ่งเรื่องออกเป็นสองส่วน และสำหรับในภาคนี้ความยาวหนังนั้นสั้นกว่าหนังรวมดาวร้ายอย่าง Suicide Squad ด้วย อันที่จริงนี่ถือได้ว่าเป็นการพัฒนาไปทางที่ดี Justice League นั้นถูกคาดหวังไว้อย่างมากมายหลายแบบ แต่ในหลายๆ ด้านของแฟนๆ ที่คาดหวังนั้นน่าจะพอใจกับสิ่งที่ออกมา และสิ่งที่ดีที่สุดส่วนหนึ่งคือ
มันจะหลีกเลี่ยงข้อครหาใหญ่ใน BATMAN V SUPERMAN
เอาเข้าจริง Batman v Superman: Dawn of Justice ก็ไม่ได้เป็นภาพยนตร์ที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ชมนัก เสียงวิจารณ์ค่อนข้างแตกเป็นหลายได้ บทวิจารณ์หลายๆ ที่ค่อนข้างเฉือดเฉือนและโหดร้าย รวมถึงมุก "มาร์ธา" ที่ถูกนำไปล้ออีกไม่รู้เท่าไหร่ แต่มันก็ยังมีแฟนๆ ที่เหนียวแน่นจนทำรายได้ไป 872 ล้านเหรียญสหรัฐ
ประเด็นหลักๆ ก็คงอยู่ที่โครงสร้างของหนัง ซึ่งเป็นมุมมองของ Snyder ที่อาจจะมาถึงจุดอิ่มตัวของเขา เช่นการอ้างอิงในบางจุดของคอมิคที่ไม่มีความจำเป็น โครงสร้างของหนังที่ดูทื่อ ๆ และดูสับสน บท Lex Luthor ของ Jesse Eisenberg ที่ดูสับสนมึนงงมากในภาพรวม ธีมของเรื่องที่ดูไม่ชัดเจน และความเยิ่นเย้ออืดอาดของหนัง ซึ่งบรรดาคนที่ออกมาปกป้องหนังก็ให้เหตุผลว่าหนังแบ่งเป็น 5 องค์ แต่อีกฝั่งก็ไม่ซื้อความเห็นนี้ คือมันเป็นหนังที่ยาว ฉบับฉายโรงมีความยาว 151 นาที และในขณะที่ Ultimate Edition ซึ่งมาเสริมเติมแต่งช่องโหว่ทั้งหลายนั้น ก็บวกเข้ามาอีกราวๆ 30 นาที เอาเข้าจริงมันก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากอยู่ดีสำหรับแฟนๆ หลายคน การมีความยาวที่สั้นลงของ Justice League นั้นดูเหมือนจะเป็นการทำคำแนนในแง่บวกได้ซึ่งมีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาความยืดเยื้ออืดอาดที่อยู่ในทั้ง Batman v Superman และ Man of Steel มาก่อน
ความยาวของหนังก็ดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นใหญ่ไม่เฉพาะกับหนังของ DCEU เท่านั้น แน่นอนว่า หนังที่แย่มันก็ยังคงแย่ไม่ว่าจะเป็นหนัง 40 นาที (ความยาวขั้นต่ำสุดของหนังที่จะฉายในโรง) หรือ 240 นาทีก็ตาม แต่หนังที่สั้นกว่าย่อมที่จะมีโอกาสที่จะทำได้ดีกว่า ซึ่งแม้แต่หนังอันเป็นที่รักสำหรับหลายๆ คน ก็ยังอยู่ในข้อครหานี้ เช่น Blade Runner 2049 ก็ยังมีเสียงบ่นมาจากผู้ชมและนักวิจารณ์ว่ามันยาวเกินไป หรือพูดง่ายๆ ที่สุดก็คือ "น่าเบื่อ" นั่นเอง
จากจุดนี้ Justice League ก็อาจที่จะหลุดพ้นจากปัญหานี้ไปได้ด้วยการเล่าเรื่องราวที่กระชับขึ้น ซึ่งอันที่จริงก็มีเสียงที่เป็นห่วงอยู่ว่ามันจะสั้นเกินไปจนกระท่อนกระแท่นหรือเปล่า และที่สำคัญจากการมีผู้กำกับสองคนที่ทำงานกันคนละช่วงเวลาก็อาจจะมีปัญหาตรงไหนไหม แต่หวังว่ามันคงจะไม่ออกมาเป็นแบบ Fant4stic หรือ The Dark Tower ที่ดูเหมือนทุกอย่างถูกจับยัดมารวมในกันในเวลาที่จำกัด ในกำหนดการถ่ายทำที่สั้นด้วย ยังไงก็ตาม จากทั้งหมดทั้งมวลนี้ การที่ Justice League มีความยาวที่สั้นขนาดนี้ ก็อาจเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล และออกมาดีก็เป็นได้
ตัวอย่างซับไทย