ไม่เพียงแต่จอห์น คาร์เพนเตอร์จะรับหน้าที่ที่ปรึกษาฝ่ายครีเอทีฟให้กับทีมงานเท่านั้น แต่เขายังใช้ทักษะที่โด่งดังของเขาในฐานะนักประพันธ์ใน Halloween ภาคใหม่นี้อีกด้วย เขาได้ร่วมมือกับโคดี้ คาร์เพนเตอร์และแดเนียล เดวีส์ โดยทั้งสามไม่เพียงแต่แสดงความเคารพต่องานที่นักประพันธ์ผู้นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสี่ทศวรรษก่อน แต่พวกเขายังได้อัพเดทซาวน์นั้นให้รับใช้วิสัยทัศน์ของกรีนอีกด้วย

ผู้อำนวยการสร้างบลูมอธิบายว่าสิ่งที่ทำให้ธีมออริจินอลของคาร์เพนเตอร์เป็นอมตะและชวนหลอนคือมันยังคงคาดไม่ถึงเหมือนเดิม "คุณจะไม่คิดเชื่อมโยงดนตรีคีย์บอร์ดแบบนั้นกับหนังสยองขวัญ เหมือนอย่างที่คุณไม่คิดเชื่อมโยงเครื่องสายกับหนังสยองขวัญ ซึ่งฮิทช์ค็อกทำใน Psycho ครับ" เขากล่าว

         เพื่อนผู้อำนวยการสร้างของเขาชื่นชมการอ้างอิงถึงอีกยุคสมัยหนึ่งและความรู้สึกกลัวและสยดสยองอย่างฝังรากลึกที่เกิดจากการกระตุ้นของธีมหลัก บล็อกกล่าวว่า "ซินธีไซเซอร์ช่วงปลายยุค 70s เป็นเครื่องดนตรีที่ตอนนี้ไม่ได้ถูกใช้มากนัก มู้กซินธีไซเซอร์เป็นเครื่องดนตรีหลักในสมัยนั้น เมื่อมีเครื่องดนตรีจากเทคโนโลยีอื่นๆ มันก็เลยถูกลืมเลือนไปนิดๆ แต่เมื่อมันถูกนับมาใช้ใหม่ แง่มุมคลาสสิกของมันก็มีประสิทธิภาพจริงๆ ครับ"

คาร์เพนเตอร์อธิบายว่า แรงบันดาลใจของเขาที่มีต่อเพลงธีมนี้ย้อนไปไกลตั้งแต่วัยเด็กของเขาเอง "ในปี 1963 พ่อผมสอนให้ผมเล่นบองโก เขาสอนผมถึงจังหวะ 5/4: บา, บา, บา, บา, บ็อป, บ็อป ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมก็นึกถึงจังหวะนั้นในหัวมาโดยตลอด ผมก็เลยเล่นจังหวะนั้นด้วยเปียโนและปรับอ็อกเตฟบางที่ แล้วก็ได้เพลงนี้ออกมา มันเรียบง่ายจริงๆ ครับ แต่มันก็จะติดอยู่ในความคิดคุณ ผมคิดว่ามันน่าจะเพอร์เฟ็กต์สำหรับหนังเรื่องนี้"

กรีนเห็นด้วยกับเพื่อนผู้อำนวยการสร้างของเขาในเรื่องของการสั่นสะเทือนความเรียบง่าย "ธีมออริจินอลที่จอห์นได้สร้างเหมาะกับหนังเรื่องนี้อย่างยิ่ง" เขากล่าว "มันเป็นเหมือนชุดโน้ตดนตรีขนาดย่อม คุณไม่จำเป็นต้องมีซิมโฟนีที่จะบอกคุณว่าต้องรู้สึกอย่างไร มันเหมือน Jaws ครับ แค่โน้ตดนตรีที่เรียบง่ายกลับไปกลับมา เป็นดนตรีที่ทำเสียงซ้ำเดิม คุณไม่จำเป็นต้องมีเสียง สำเนียงหรือองค์ประกอบอะไรมากมายในเมื่อคุณมีสิ่งที่ดิบเถื่อนและเปล่าเปลือยแบบนี้ หัวใจสำคัญทางดนตรีของมันคือมันจะทำให้คุณกลัวจนหัวหดเลยครับ"

           ผู้กำกับเล่าถึงสิ่งที่คาร์เพนเตอร์นำมาสู่ภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ในฐานะนักประพันธ์ "มันเป็นเรื่องหนึ่งในการทำในสิ่งที่แตกแขนงมาจากเพลงธีม Halloween ที่โด่งดังนั่นและหานักประพันธ์เพลงออร์เคสตราชื่อดัง มาให้เขาใส่มุมมองของเขาหรือเธอลงไปในการกำหนดแนวทางของตัวเองและใช้อภิสิทธิที่เกิดจากการทำงานสร้างสรรค์ แต่การได้จอห์นมาเป็นเพื่อนร่วมงานในการสรรค์สร้างการดำเนินเรื่อง บวกกับการคัดเลือกนักแสดงและการวางโครงสร้างของการถ่ายทำ สิ่งที่เป็นทีเด็ดคือดนตรีประกอบหนังเรื่องนี้ เขาเล่นดนตรีแบบไลฟ์มาตลอด แต่เมื่อเร็วๆ นี้ เขาก็เพิ่งได้ออกทัวร์กับโคดี้ ลูกชายของเขาและแดเนียล เดวีส์ พวกเขาทั้งสามคนรวมตัวกันเพื่อสร้างโอกาสทองครั้งหนึ่งในชีวิตของการที่ได้คาร์เพนเตอร์มาแต่งดนตรีประกอบให้เราครับ"

คาร์เพนเตอร์ยินดีกับโอกาสในการ "ล้วงลึกเข้าไปในความคิดของผู้กำกับ" และเนรมิตชีวิตให้กับบทสนทนาของพวกเขาเกี่ยวกับเพลงที่ใช้กีตาร์ เพอร์คัสชันไฟฟ้าและเสียงเปียโนน่าขนลุก เขาอธิบายถึงกระบวนการแต่งดนตรีสำหรับ Halloween ปี 2018 ว่า "ขั้นตอนแรกที่ลูกชายผม, ลูกทูนหัวผมและผมทำกับดนตรีคือมีดี เราได้มีดีของดนตรีประกอบดั้งเดิมมา เพื่อที่เราจะเอามันมาทำงานกับตัวโน้ตและอารมณ์เพลงได้ เราได้ใช้ซาวน์ซินธ์ใหม่ๆ ทั้งหมดเข้าไปอัพเดทมันและทำให้มันฟังดูแตกต่างจากเดิม จากนั้น เราก็เริ่มต้นที่โลโก้ยูนิเวอร์แซลแล้วก็ใส่ดนตรีเข้าไป" เขาหยุด "สำหรับผมแล้ว ดนตรีเป็นเรื่องของการอิมโพรไวส์ครับ หลายสิ่งหลายอย่างที่เราทำเป็นเรื่องที่เราตั้งใจวางแผนเอาไว้ แต่สิ่งที่คุณเห็นบนหน้าจอส่วนใหญ่เป็นการอิมโพรไวส์ครับ"

         สำหรับคาร์เพนเตอร์ การได้เพื่อนร่วมวงของเขามาแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องแรกของพวกเขาร่วมกันกับเขาเป็นโอกาสที่เปี่ยมสุข "แดเนียล, โคดี้กับผมทำอัลบัมสามอัลบัมด้วยกัน เราก็เลยคิดไอเดียใหม่ๆ และวิธีการใหม่ๆ ในการทำสิ่งต่างๆ เสมอ นั่นเป็นความตื่นเต้นสำหรับผมครับ" คาร์เพนเตอร์กล่าวปิดท้าย "ผมได้ทำงานกับครอบครัว ซึ่งเป็นความสุขอย่างยิ่งในชีวิตผมด้วยวัยขนาดนี้ แล้วผมก็ได้เล่นกับเพลงธีมออริจินอลของ Halloween ด้วย เพียงแค่รีเมกมันในแบบใหม่ ซึ่งนั่นก็สนุกมากครับ"

เตรียมพบกับชายสวมหน้ากากที่มาสร้างความหลอกหลอนอีกครั้งในคืนวันฮัลโลวีน "Halloween ฮาโลวีน" 31 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์