ชวนอ่านก่อนดู หลากหลายเกร็ดน่ารู้ของ Halloween 2018
ขึ้นแท่นแฟรนไชส์หนังสยองขวัญที่มีอายุกว่า 40 ปีไปแล้ว และสานภาคต่อมาได้ถึง 11 ภาค แล้วภาคนี้ยังทำเงินถล่มทลายเกินคาด แค่สัปดาห์แรกก็กวาดรายได้เฉพาะในสหรัฐฯไปมากถึง 80 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 1 ล้านเหรียญเท่านั้น เรามาอ่านเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่าสนใจ ของ Halloween ภาคนี้ หนังที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการหนังสยองขวัญเรื่องล่าสุดกัน เชื่อว่าหลายๆ ข้อมูลเอาไปคุยกะเพื่อน ทำให้ดูหนังสนุกขึ้นได้แน่นอนครับ
1. วันที่หนังเข้าฉายในสหรัฐฯ และอังกฤษ คือวันที่ 19 ตุลาคม และวันนี้ก็เป็นวันเกิดของ ไมเคิล ไมเยอร์ส ฆาตกรสวมหน้ากากประจำแฟรนไชส์นี้ด้วยเช่นกัน
2. ในภาคนี้ หนังเพิ่มบทสำคัญเข้ามาคือ "อลิสัน" หลานสาวของ ลอรี่ สโตรด บทของเจมี่ ลี เคอร์ติส , และบทอลิสันกลายเป็นบทที่ดาราหญิงในฮอลลีวู้ดหลาย ๆ คนหมายปอง อย่างเช่น ลูซี่ เฮล (Scream 4,Truth or Dare) และ เอ็มม่า โรเบิร์ต (Nerve , Scream4) ต่างก็มาขอออดิชั่นบท แต่ทีมผู้สร้างตัดสินใจเลือกดาราหน้าใหม่มารับบทนี้ ตามแนวทางที่เขาเคยใช้กับบท ลอรี่ สโตรด ที่เลือกเอาเจมี่ ลี เคอร์ติส ดาราโนเนมในวันนั้นมารับบท
3. เจค กิลเลนฮาล เป็นเพื่อนสนิทกับครอบครัวของ เจมี่ ลี เคอร์ติส และเขาคือคนสำคัญที่หว่านล้อมให้เจมี่ ลี เคอร์ติส กลับมารับบท ลอรี่ สโตรด อีกครั้ง
โปสเตอร์ Halloween (1978)
4. Halloween (2018) ภาคนี้ไม่ได้เป็นทั้งหนัง "รีเมค" หรือ "รีบู๊ต" แต่อย่างใด แต่เป็นภาคต่อที่เนื้อหาเชื่อมตรงกับ Halloween (1978) ภาคแรก และไม่เกียวข้องใดๆ กับภาคต่ออื่นๆ เลย และในปีนี้ที่หนังเข้าฉาย ก็เท่ากับโอกาสครอบรอบ 40 ปีของหนัง Halloween (1978) พอดี
ผู้กำกับ เดวิด กอร์ดอน กรีน
5. หลังจากเจมี่ ลี เคอร์ติส ได้ร่วมงานกับผู้กำกับ เดวิด กอร์ดอน กรีน เธอประทับใจในตัวเดวิด มาก ถึงกับเอ่ยปากชื่นชมว่า เดวิดทำให้เธอหวนไปนึกถึง จอห์น คาร์เพนเตอร์ ปรมาจารย์หนังสยองขวัญผู้ให้กำเนิด Halloween ในปี 1978 และภาคนี้เหมือนกับได้ต่ออายุให้กับหนังต้นฉบับ ให้ได้มีการพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง
โปสเตอร์ Halloween ทั้ง 10 ภาคก่อนหน้านี้
6. ถ้านับรวมภาคแรก จนถึงภาคล่าสุดนี้ แฟรนไชส์ Halloween มีหนังรวมกันถึง 11 ภาค เจมี่ ลี เคอร์ติส รับบทนำทั้งหมด 5 ภาคคือ Halloween (1978), Halloween II (1981), Halloween H20: 20 Years Later (1998), Halloween: Resurrection (2002) และภาคนี้ Halloween (2018) ส่วนภาค 3 Halloween III: Season of the Witch (1982) เจมี่ ลี เคอร์ติส ไปให้เสียงประกอบเป็น พนักงานรับโทรศัพท์ในโดยไม่ได้รับเครดิต
จอห์น คาร์เพนเตอร์ ปรมาจารย์หนังสยองขวัญผู้ให้กำเนิด Halloween
7. จอห์น คาร์เพนเตอร์ ผู้ให้กำเนิด Halloween ยังคงได้มีสิทธิ์ร่วมในหนังในฐานะ ผู้อำนวยการสร้าง จอห์น ได้บอกกับสื่อว่าภาคนี้จะเป็นภาคสุดท้ายของ Halloween ทั้งๆ ที่ทางสตูดิโอยังมีสัญญาที่จะสร้างภาคต่อได้อีก 1 ภาค และทางผู้เขียนบทก็กำลังเตรียมเขียนบทภาคต่อแล้วด้วย
แดนนี่ แม็คไบรด์ ดาราตลก ที่หันมาจับงานเขียนบท
8. ก่อนที่จะเริ่มสร้าง Halloween (2018) แดนนี่ แม็คไบรด์ ผู้เขียนบทได้บอกกับสื่อว่า ภาคนี้จะสร้างต่อเนื่องกันไปเลย 2 ภาคต่อกัน แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่สร้างภาคเดียวก่อน แต่แดนนี่ ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ "เราตกลงกันว่า ลองดูภาคนี้ก่อน ว่ามันได้ดีไหม ถึงตอนนี้เรามีไอเดียสำหรับภาคต่อไปแล้ว เราหวังอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสทำภาคต่อไป"
9. ผู้กำกับเดวิด กอร์ดอน กรีน เผยกับสื่อว่าเวอร์ชั่นแรกของหนังที่ตัดต่อเสร็จ มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งยาวเกินไปสำหรับหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่ง เวอร์ชั่นที่ออกฉายโดนตัดต่อใหม่ เหลือความยาวที่ 1 ชั่วโมง 46 นาที
10. ค่ายยูนิเวอร์แซล ได้กลับมาจัดจำหน่ายหนังเรื่องนี้อีกครั้ง จากที่เคยได้จัดจำหน่ายมาแล้วใน Halloween II (1981) และ Halloween III: Season of the Witch (1982)
นิค คาสเซิล ผู้รับบทไมเคิล ไมเยอร์ส ในภาคแรก กลับมารับหน้าที่ในภาคนี้
11. นิค คาสเซิล ผู้รับบทไมเคิล ไมเยอร์ส ในภาคแรกปี 1978 กลับมารับบทไมเคิล ไมเยอร์ส อีกครั้งในภาคนี้ ในวันนี้เขาอายุกว่า 70 ปีแล้ว แต่ตามบทแล้วไมเคิล ไมเยอร์สจะอายุ 46 ปี
12. ในขณะที่ จอห์น คาร์เพนเตอร์ ยืนยันว่านี่คือ Halloween ภาคสุดท้าย อย่างน้อยก็จะเป็นภาคสุดท้ายที่มีไมเคิล ไมเยอร์ส เป็นฆาตกรร้ายขาประจำของแฟรนไชส์ ส่วนผู้กำกับเดวิด กอร์ดอน กรีน และแดนนี่ แม็คไบรด์ ผู้ร่วมเขียนบทยังมีความตั้งใจที่จะให้มีภาคต่อและอาจจะเป็นไตรภาคด้วย
13. ในภาคนี้ ถ้าตั้งใจฟังจะได้ยินเสียงผู้อ่านข่าวในทีวีพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดในภาคแรกว่า "the babysitter murders" ฆาตกรฆ่าพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งประโยคนี้ ครั้งหนึ่ง จอห์น คาร์เพนเตอร์ ผู้กำกับภาคแรกเคยคิดจะใช้เป็นชื่อหนัง
ฉากเปิดตัว ไมเคิล ไมเยอร์ส ใน Halloween (1978)
14. มีอีสเตอร์เอ้กแอบซ่อนอยู่ในภาคนี้ ในฉากห้องนอนเด็ก ถ้าสังเกตจะเห็นโคมไฟหมุนได้ บนโคมไฟมีภาพตัวตลกถือมีดอยู่ อิงถึงเหตุการณ์จุดกำเนิดการฆ่าครั้งแรกของ ไมเคิล ไมเยอร์ส ภาพนี้ใส่เข้ามาเพื่อเป็นการคารวะหนังภาคแรก
15. การถือกำเนิดของภาคนี้ เท่ากับเป็นการสร้างไทม์ไลน์เส้นที่ 5 ของแฟรนไชส์หนัง ที่ต่อตรงกับภาคแรก , ส่วนไทม์ไลน์ก่อนหน้านี้มีดังนี้ ภาค 1 -2 , ภาค 3 สร้างไทม์ไลน์ใหม่ของตัวเอง , ภาค 4-6 , Halloween H20: 20 Years Later และ Resurrection อย่าเพิ่งงงกันนะครับ
16. ใช้ชื่อในระหว่างถ่ายทำว่า "Uncle Orange" "Halloween Returns" และ "Halloween H40: 40 Years Later"
เจสัน บลูม เจ้าของค่ายบลูมเฮาส์ โปรดัคชั่น ที่ได้มีส่วนร่วมในภาคนี้
17. เจสัน บลูม เจ้าของค่าย Blumhouse Production ที่ร่วมสร้างภาคนี้ด้วย ได้ออกตัวว่า เขาไม่เคยได้มีส่วนร่วมในหนังเรื่องไหนที่สร้างความคาดหวังเท่าเรื่องนี้มาก่อนเลย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ค่ายหนังของเขาได้มาเกี่ยวข้องกับตัวละครอมตะของฮอลลีวู้ดอย่างไมเคิล ไมเยอร์ส
18. หนังเริ่มเปิดกล้องเมื่อวันที่ 13 มกราคม ปีนี้เอง
19. ลีห์ แวนเนล นักแสดง,นักเขียนบท,ผู้กำกับ เพื่อนสนิทของผู้กำกับ เจมส์ วาน แสดงความสนใจว่าเขาอยากรับบทเป็น ไมเคิล ไมเยอร์ส
20. ในโปสเตอร์แรกๆ ของหนัง โชว์ภาพลอรี่ สโตรด ในลุคผมสั้นเช่นเดียวกับใน Halloween ในทุกๆ ภาคที่ผ่านมา แต่ในหนังภาคนี้เธอกลับไว้ผมยาว
21. Halloween (2018) สร้างสถิติใหม่ในฮอลลีวู้ดมากมาย 1.หนังทำเงินเปิดตัวสูงสุด (ที่มีบทนำเป็นนักแสดงหญิง) , 2.หนังทำเงินเปิดตัวสูงสุด (ที่มีบทนำเป็นนักแสดงหญิงอายุมากกว่า 55 ปี เจมี่ ลี เคอร์ติส อายุ 60 ปี) 3.หนังในแฟรนไชส์ Halloween ที่ทำเงินเปิดตัวสูงสุด 4.หนังสยองขวัญที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดเป็นอันดับ 2 ที่ 77.5 ล้านเหรียญ เป็นรองจาก "IT" ที่ทำรายได้เปิดตัว 123 ล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว 5.หนังเปิดตัวสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในเดือนตุลาคม รองจาก Venom ที่เปิดตัวด้วยตัวเลข 80 ล้านเหรียญ
22. ฉากเครดิตเปิดตัวหนัง ตั้งใจนำเสนอในสไตล์ย้อนยุคในธีมที่ชื่อว่า "zooming in on a jack-o-lantern" เช่นเดียวกับ 2 ภาคแรก แต่ในภาคนี้เริ่มด้วยภาพหัวฟักทองที่โดนทุบจนเละ แล้วค่อยๆ ย้อนหลังกลับคืนสภาพเดิม ในขณะที่กล้องค่อย ๆ เคลื่อนภาพซูมใกล้เข้าไป