พบบทต่อมาของการต่อสู้ที่ครอบคลุมทั่วโลกระหว่างสัตว์ประหลาดจากนอกโลกที่มีพลังทำลายล้างสูงและสุดยอดเครื่องจักรกลที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อกำจัดพวกมัน ภายใต้การควบคุมของมนุษย์ใน "Pacific Rim Uprising - แปซิฟิค ริม ปฏิวัติพลิกโลก"

โดยภาคนี้ยังคงได้ กิเยร์โม เดล โตโร มาร่วมอำนวยการสร้าง ส่วนหน้าที่ผู้กำกับตกเป็นของ สตีเว่น เอส เดอไนท์ (ผลงานของ Netflix เรื่อง Daredevil, Spartacus) พร้อมทุนสร้างระดับ $150 ล้าน เพื่อสร้างฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดและอลังการกว่าภาคแรก พร้อมออกฉายในระบบปกติและสมจริงในระบบ MX4D และนี่คือ 5 เหตุผลที่คุณต้องดู Pacific Rim Uprising ในระบบ MX4D เท่านั้น เพื่อความสมจริงและสัมผัสความมันส์แบบใกล้ชิดที่สุด!

 

1. ตะลึงกับฉากการการโจมตีของ "อ็อบซิเดียน ฟิวรี่" กลางเมืองที่ช็อกคนทั้งโลก

 

         พบกับ "อ็อบซิเดียน ฟิวรี่" เยเกอร์ลึกลับที่ปรากฏตัวพร้อมจุดมุ่งหมายบางอย่างในการสร้างความเสียหายแก่บ้านเมือง รวมถึงบาดแผลในใจแก่ตัวละคร เจก เพนเตคอสต์ ซึ่งการพบเจอกันระหว่างเยเกอร์สุดแข็งแกร่งนี้กับหุ่น "ยิปซี อะเวนเจอร์" นับเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าจดจำในภาคนี้

เมื่อเยเกอร์ทั้งสองเริ่มเปิดฉากโจมตี พร้อมเหวี่ยงหมัดและอาวุธเข้าหากันเอฟเฟ็กต์เก้าอี้ขยับของ MX4D จะช่วยพาคุณเข้าสู่คอนน์-พอด (ห้องนักขับ) ของ "ยิปซี อะเวนเจอร์" เสมือนคุณอยู่ในเยเกอร์ร่วมไปกับตัวละครทั้งคู่ บวกกับเอฟเฟ็กต์สั่นสะเทือนที่จะทำให้คุณเก็บรายละเอียดของฉากการทำลายสิ่งก่อสร้างต่างๆกลางเมืองได้อย่างสมจริง2 หลบหนีการไล่ล่าสุดตื่นเต้นไปกับ "สแคร็ปเปอร์"

 

2. หลบหนีการไล่ล่าสุดตื่นเต้นไปกับ "สแคร็ปเปอร์"

 

          หนึ่งในตัวละครใหม่ในภาคนี้ก็คือ "สแคร็ปเปอร์" เยเกอร์ร่างเล็กที่มาพร้อมระบบนักขับเดี่ยว ฝีมือการประกอบของ อามาร่า แฮ็กเกอร์สาววัย 15 ปี โดยการที่เธอขโมยชิ้นส่วนจากกองทัพมาประกอบเยเกอร์เองทำให้เธอต้องถูกไล่ล่าจากรัฐบาล ซึ่งนำเธอมาพบกับ เจก ลูกชายของวีรบุรุษสงครามระหว่างมนุษย์และไคจูเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทั้งคู่จึงต้องร่วมชะตากรรมหลบหนีด้วยกัน

ฉาก สแคร็ปเปอร์ ถูกไล่ล่าโดยเยเกอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าไปทั่วบริเวณย่านซากเมืองชายฝั่ง เป็นฉากเปิดตัวตัวละคร อามาร่า ที่มาพร้อมความระทึก ซึ่งเมื่อสแคร็ปเปอร์กลิ้งไปบนถนนและเลี้ยวหลบสิ่งกีดขวางไปมา เราก็จะสัมผัสถึงวินาทีอันน่าหวาดเสียวนั้นได้ผ่านเอฟเฟ็กต์ควบคุมทิศทางการเคลื่อนไหวบนเบาะนั่งของระบบ MX4D ที่เข้ามาเติมเต็มความสนุกนี้ให้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น รวมถึงเอฟเฟ็กต์สะกิดหลังในจังหวะที่ตัวละครกระแทกกับวัตถุบางอย่างขณะหลบหนี

 

3. การเผชิญหน้าอันดุเดือดระหว่าง "อ็อบซิเดียน ฟิวรี่" และ "ยิปซี อะเวนเจอร์"

          การพบเจอกันอีกครั้งในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บระหว่าง "อ็อบซิเดียน ฟิวรี่" และ "ยิปซี อะเวนเจอร์" ที่นำไปสู่ฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดเร้าใจ พร้อมงัดอาวุธเด็ดออกมาเพียบ ผู้ชมจะเข้าถึงบรรยากาศอันชวนหนาวของฉากนี้ได้ผ่านเอฟเฟ็กต์ลมปะทะหน้าและความหนาวเย็น เสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง โดยนี่นับเป็นหนึ่งในฉากต่อสู้ระหว่างเยเกอร์ที่มันส์ที่สุดฉากหนึ่งในหนังชุดนี้อีกด้วย

 

4. เหล่าเยเกอร์ผนึกกำลังสู้กับอสูรไคจูเพื่อชี้ชะตาโลก

         นับเป็นฉากที่แฟนๆ ตั้งตารอคอยที่สุดตั้งแต่ปล่อยออกมาในตัวอย่าง สำหรับการเจอกันระหว่างเยเกอร์ทั้ง 4 ตัวกับ 3 ไคจูขนาดยักษ์ใจกลางเมือง เพื่อตัดสินชะตาโลก โดยฉากนี้ไม่เพียงเป็นฉากแอคชั่นที่อลังการที่สุดในภาคนี้ แต่ยังเป็นฉากที่เอฟเฟ็กต์ต่างๆของระบบ MX4D ทำงานประสานกันเพื่อเสริมความสมจริงได้อย่างลงตัวที่สุดอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสการถูกต่อยกระเด็นไปชนตึกพังทลาย ฉากการสั่นสะเทือนจากกระสุนปืนใหญ่ที่เยเกอร์ยิงใส่ไคจู ตลอดจนแรงกระแทกสารพัดเมื่อหุ่นยักษ์วิ่งเข้าปะทะกับเหล่าไคจู ซึ่งไม่มีครั้งไหนอีกแล้ว ที่ผู้ชมผู้หลงใหลในหนังแนวหุ่นยนต์ยักษ์สู้กับสัตว์ประหลาดที่จะได้สัมผัสความสมจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเช่นนี้

 

5. ชัดทุกรายละเอียดของความอลังการด้วย Sony Digital Cinema 4K

          นอกจากเอฟเฟ็กต์ต่างๆของระบบ MX4D ที่พร้อมพาคุณเข้าสู่โลกของ Pacific Rim Uprising จนเหมือนเป็นตัวละครในเรื่องแล้ว ผู้ชมก็จะยังได้เก็บรายละเอียดของงานสร้างที่ทีมงานใส่ใจทุกองค์ประกอบได้อย่างชัดๆ เต็มตา ด้วยการฉายในระบบ Sony Digital Cinema 4K ที่คมชัด ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นตั้งแต่แสงเงาของหุ่นเยเกอร์ที่วิ่งผ่านไปตามเมืองและรายละเอียดรูปร่างของไคจูที่ชวนให้ขนลุก!

ร่วมกอบกู้โลกจากไคจูไปกับนักขับเยเกอร์รุ่นใหม่ใน "Pacific Rim Uprising - แปซิฟิค ริม ปฏิวัติพลิกโลก" วันนี้ในระบบ MX4D ได้ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิดล์ และโรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา

 

ตัวอย่างภาพยนตร์