Pacific Rim Uprising เป็นการตีความใหม่อย่างหาญกล้า แต่ยังคงให้เกียรติภาพยนตร์ภาคแรก
ในการสร้างเรื่องราวบทที่ 2 ของ Pacific Rim Uprising ทางค่ายลีเจนดารี่อยากแน่ใจว่าพวกเขาได้สร้างจินตนาการที่มีความสร้างสรรค์ใหม่ เป็นภาพที่ให้เกียรติภาพยนตร์ภาคแรก และเป็นการตีความใหม่ได้อย่างหาญกล้าต่อโลกของ Pacific Rim ผู้อำนวยการสร้าง เคล บอยเตอร์ กล่าวว่า "ลีเจนดารี่มีแนวคิดที่เป็นสัญลักษณ์อยู่ในงานทุกชิ้นที่เราทำ นี่คือโอกาสที่จะสร้างภาพอันสมบูรณ์แบบว่าผลงานของบริษัทนี้เป็นยังไง และเราต้องการให้มันพัฒนาไปอย่างไร" ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับทีมผู้สร้าง ซึ่งถ้าไม่มีเรื่องที่ลงตัวที่สุด ก็จะไม่มีการสร้างภาพยนตร์ออกมา "ภาพยนตร์ภาคต่อมักมาพร้อมความคิดเย้ยหยัน" บอยเตอร์ยอมรับ "เราคำนึงถึงเรื่องนั้น เราต้องถามตัวเองว่า 'เราจะสร้างเรื่องที่ทำให้คนดูแปลกใจได้ยังไง' "
ภายในโลกของอสูรกายและหุ่นยนต์ยักษ์ ก็คือแนวคิดเกี่ยวกับมนุษย์และเรื่องราวที่ให้อารมณ์ "สตีเว่นเป็นผู้ผสมผสานเรื่องราวหลากหลายแนว" บอยเตอร์ให้ความเห็น "ในแนวคิดที่เขามี เรื่องนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่ภาคต่อของ Pacific Rim เท่านั้น ไอเดียสำคัญที่เขาเริ่มต้น ก็คือ ทุกคนสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ การยึดแนวคิดหลักนั้นเอาไว้ ทำให้เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่ลูกชายเจ้าปัญหาของ สแต็คเกอร์ เพนเตคอสต์ ที่ชื่อ เจก และอามาร่า เด็กกำพร้าที่เป็นอัจฉริยะด้านเครื่องยนต์ มนุษย์ที่มีปัญหาสองคนที่เอาชนะปัญหาและความผิดพลาดของตัวเองได้ และลงเอยด้วยการสร้างความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่"
เรื่องราวนี้ยังเปิดตัวนักขับเยเกอร์รุ่นใหม่ เหล่านักขับฝึกหัดที่ถูกเรียกว่าพวกคาเด็ทส์ เป็นเหล่าวัยรุ่นที่ถูกฝึกมาเพื่อให้เป็นนักขับเยเกอร์ตั้งแต่พวกเขายังเด็ก และมันยังสร้างความสงสัยเกี่ยวกับการกลับมาของไคจู ถ้าการกลับมาครั้งนี้ถูกทำให้เกิดขึ้นโดยสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ผู้ชั่วร้าย บอยเตอร์บอกว่า "บทภาพยนตร์ที่เราพัฒนาขึ้นมามีองค์ประกอบในส่วนงานแอ็กชั่นที่ยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ และมีเรื่องราวของมนุษย์ที่เกิดขึ้นกับเจกและอามาร่า แต่ก็เป็นเรื่องราวการผจญภัยที่มีความลึกลับด้วย จนหนังต้องเล่นไปแล้ว 10 หรือ 15 นาทีกว่าที่คุณจะรู้ว่าคุณได้อยู่ในโลกของ Pacific Rim โทนและจังหวะของเรื่องไม่ใช่แค่กระชากอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเดินเรื่องเร็วขึ้นด้วย"
ลีเจนดารี่ ที่ได้ทีมผู้อำนวยการสร้างชุดเดิมอย่าง เดล โตโร, โธมัส ทัลล์ และจอน แจชนี่ ร่วมทีมกับยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส และร่วมงานกันตั้งแต่กระบวนการสร้างสรรค์ในช่วงแรก บอยเตอร์อธิบายว่า "เราอธิบายให้ยูนิเวอร์แซลฟังว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราได้สร้างงานจากคอมพิวเตอร์ เพื่อนำเสนอแนวคิดให้พวกเขาได้เห็น และองค์ประกอบสำคัญๆ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย พวกเขาชอบมันมาก ทำให้พวกเขารู้สึกกระตือรือร้นในสิ่งที่เราจะสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยกัน"
ตัวอย่างซับไทย