10 เรื่องน่าทึ่งของ วินสตัน เชอร์ชิล
ในฐานะปูชนียบุคคลที่โลกนับถือ และถูกกล่าวขวัญต่อเนื่องมาตลอดแม้ว่าจะเสียชีวิตมาแล้วตั้งแต่ปี 1965 เรื่องราวของวินสตัน มักถูกฮอลลีวู้ดและสตูดิโอหนังในประเทศอื่นๆ เล่าเรื่องของเขาออกมาบนจอภาพยนตร์และจอทีวีแล้วไม่ต่ำกว่า 70 เรื่อง และล่าสุดใน Darkest Hour ที่ส่งให้ แกรี่ โอลด์แมน ผู้สวมบทบาทเป็นวินสตัน เชอร์ชิล คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาดราม่ามาหมาดๆ จากเวทีลูกโลกทงอคำ นอกเหนือจากวีรกรรมที่นำมาขับขานอีกครั้งในหนัง บทความนี้ยังนำเรื่องราวที่น่าทึ่ง เหลือเชื่อ มาเล่าสู่กันฟังครับ
1. แม่ของวินสตัน เชอร์ชิล เป็นหญิงอเมริกัน
ในปลายศตวรรษที่ 19 เรื่องการแต่งงานระหว่างขุนนางอังกฤษกับหญิงอเมริกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ท่านลอร์ดรูดอล์ฟ เชอร์ชิล บุตรคนที่3 ของ ท่านดุคที่7 แห่งมาร์ลโบโรห์ ได้แต่งงานกับ เจนนี่ เจอโรม ลูกสาวของมหาเศรษฐีเห่งบรู๊คลิน ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน วินสตัน เกิดในปี 1874 และ แจ๊คเกิดในปี 1880 แต่แล้วลอร์ดรูดอล์ฟก็เสียชีวิตไปในปี 1895 เจนนี่ เจอโรม ยังคงพำนักอยู่ในอังกฤษ เธอแต่งงานใหม่อีกครั้งกับ จอร์จ คอร์นวอลลิส ซึ่งอายุน้อยกว่าเธอถึง 20 ปี
2. วินสตัน เชอร์ชิล เกือบไม่ได้เข้าโรงเรียนทหาร
เขาเป็นเด็กที่สติปัญญาแย่มาก ทำคะแนนแย่ในทุกวิชา ยกเว้นวิชาภาษาอังกฤษและวิชาประวัติศาสตร์ วินสตัน สมองทึบขนาดที่ว่าสอบวิชาลาติน 2 ชั่วโมง วินสตันส่งกระดาษข้อสอบเปล่า เพราะทำไม่ได้สักข้อ พอถูกส่งไปสอบเข้า สถาบันการศึกษาวิชาทหาร แซนด์เฮิสต์ วินสตัน ก็สอบตกถึง 2 ครั้ง ต้องกลับมาติวเข้มกับครูทหาร ในที่สุดก็สอบสำเร็จ แต่ได้เข้าในระดับทหารม้า ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าทหารราบด้วยซ้ำ
3. มีชื่อเสียงจากการหนีคุกเชลยได้สำเร็จ
วินสตัน เชอร์ชิล เรียนจนจบแซนด์เฮิสต์ หลังเรียนจบวินสตันก็เดินทางไปทำงานที่คิวบา ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการปฏิวัติ วินสตันเลยจับพลัดจับผลูเป็นผู้รายงานข่าวให้หนังสือพิมพ์อังกฤษ ทำให้เขาได้บรรจุเป็นผู้สื่อข่าวสงครามและรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ทหารไปพร้อมกัน ด้วยสองหน้าที่นี้ ทำให้วินสตันได้เดินทางไปหลายประเทศทั้งซูดาน อินเดีย และ อาฟริกาใต้ เขาอยู่ในอาฟริกาใต้ในปี 1899 รถไฟที่วินสตันโดยสารก็โดนข้าศึกโจมตี วินสตันโดนจับไปขังคุกเชลย โดนขังอยู่ไม่นานวินสตันก็เจาะกำแพงแล้วมุดรอดออกมาพร้อมกับเพื่อนนักโทษอีก 2 คน แต่เพื่อนเกิดปอดแหกหวนกลับไปเข้าคุก วินสตันเดินหน้าหนีต่อ ด้วยความที่ยังดวงดีอยู่ วินสตันโซซัดโซเซไปเจอบ้านผู้จัดการเหมืองชาวอังกฤษที่ใจดีเอาเขาไปซุกซ่อนไว้ในเหมืองถึง 3 วัน ก่อนจะซุกซ่อนตัวเขาไปในรถบรรทุกขนแกะ มุ่งหน้าไปโมซัมบิก ที่นี่วินสตันได้ขึ้นเรือโดยสารกลับมาที่อาฟริกาใต้ วีรกรรมที่เขาแหกคุกมาได้สำเร็จทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
4. วินสตัน พ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่ในสงครามโลกครั้งที่ 1
วินสตัน เชอร์ชิล เข้าสู่การเมืองจริงจังในปี 1900 เขาได้รับคัดเลือกให้เข้าสู่คณะรัฐมนตรีในปี 1900 ซึ่งเขาอยู่ในรัฐสภาถึง 60 ปี ปี 1911 วินสตันได้รับตำแหน่งท่านลอร์ดแห่งกองทัพเรือ ถ้าเทียบกับทางฝั่งสหรัฐอเมริกาก็คือ เลขานุการกองทัพเรือ ระหว่างอยู่ในตำแหน่ง วินสตันได้ออกรับมือการจู่โจมของจักรวรรดิออตโตมัน ในวันนั้นวินสตันได้นำทัพอังกฤษเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย ปี 1915 ทัพพันธมิตรเคลื่อนทัพเรือเข้าสู่ช่องแคบดาร์ดาเนล ซึ่งปัจจุบันอยู่บริเวณประเทศอิสตันบูล แต่แล้วทัพเรือก็โดนทัพของจักรวรรดิออตโตมันยิงเรือล่มไป 3 ลำ ส่วนเรือที่เหลือต้องถอยทัพมาจนมุมในคาบสมุทรกาลิโปลี และต้องยิงต่อสู้กับข้าศึกกินเวลากว่า 1 เดือน มีทหารได้รับบาดเจ็บจากศึกนี้กว่า 250,000 นาย ส่งผลให้วินสตันต้องสูญเสียตำแหน่งในกองทัพเรือ และใช้เวลาในกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนเป็นเวลานาน
5. วินสตัน ไม่ชอบคานธีอย่างมาก
เหตุเพราะคานธี เป็นผู้นำในการเรียกร้องสิทธิ์การปกครองตนเองของอินเดียในยุคนั้น วันที่คานธีประท้วงด้วยการอดอาหาร ก็ไม่ได้รับความสนใจจากวินสตันเขายินดีที่จะปล่อยให้คานธีอดอาหารตายด้วยซ้ำ แนวคิดระบอบจักวรรดินิยมของวินสตันส่งผลให้เห็นในการเข้าปกครองพวกคนป่า คนเถื่อน อย่างเช่นเผ่าซูลู ชาวอัฟกัน และชนชาติอิสลามิก
6. สร้างหลายวาทะจดจำในระยะเวลาไม่กีเดือน
วินสตัน เชอร์ชิล ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษในปี 1940 หลังเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงที่นาซีเยอรมันเข้าปกครองดินแดนส่วนใหญ่ในยุโรปเรียบร้อยแล้ว ,วินสตัน เชอร์ชิล จำต้องขับเคลื่อนประเทศในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน เขากล่าววาทะปลุกใจทหารและประชาชนอังกฤษ วาทะแรกเขากล่าวในรัฐสภาว่า "ผมไม่มีอะไรจะมอบให้ เสียนอกจาก เลือด การทำงานหนัก น้ำตาและหยาดเหงื่อ" และวาทะต่อมาในวันที่ 4 มิถุนายน "เราจะต้องปกป้องเกาะอังกฤษของเรา ไม่ว่ามันจะต้องแลกกับอะไร เราจะสู้ทั้งในทะเล บนชายหาด บนพื้นดิน บนสนามหญ้า หรือแม้แต่บนถนน ในภูเขา แต่อย่างไรก็ตามเราจะไม่ยอมแพ้"
7. สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 วินสตัน เชอร์ชิล แพ้การเลือกตั้ง
ในเดือนมิถุนายน 1945 เยอรมันนียอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษก็จัดการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบทศวรรษ ผลปรากฏว่าพรรคอนุรักษ์นิยมของวินสตัน เชอร์ชิล แพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคแรงงาน เมื่อวินสตัน ได้ยินข่าวความพ่ายแพ้ของเขาก็เปรยว่า "พวกเขามีสิทธิ์เต็มที่ในการขับพวกเราออกมา เพราะนี่คือประชาธิปไตย ที่พวกเราต่างสู้เพื่อต้องการมันมา" พรรคอนุรักษ์นิยมกลับมามีชัยอีกครั้งใปนี 1951 แต่อาการป่วยของวินสตันก็ทำให้เขาลาออกใน 3 ปีต่อมา
8. วินสตัน เป็นคนนิยามคำว่า "ม่านเหล็ก" ให้กับจักวรรดิโซเวียต
หลังการเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วินสตัน เชอร์ชิล ก็ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีความฝักใฝ่พัวพันกับระบอบคอมมิวนิสต์ ยิ่งวาทะของวินสตันในมีนาคม 1946 ยิ่งตอกย้ำความเคลือบแคลงของเขา "วันนี้อำนาจของม่านเหล็กได้แผ่ขยายข้ามทวีปมาแล้ว ยิ่งเป็นการเพิ่มพลังอำนาจการควบคุมที่ส่งตรงมาจากมอสโคว์" จากวาทะนี้ทำให้คำว่า "ม่านเหล็ก" ถูกใช้สื่อแทนจักรวรรดิโซเวียตอย่างเป็นทางการ
9. เขาเป็นนักประพันธ์รางวัลโนเบล
ตลอดชีวิตของวินสตัน เชอร์ชิล เขาเขียนหนังสือไว้มากกว่า 20 เล่ม , เล่มแรกของเขาเล่าเรื่องประสบการณ์ในชีวิตทหารในอินเดีย ซูดาน และ อาฟริกาใต้ เล่มต่อมาเขียนชีวประวัติของดุคแห่งมาร์ลโบโรห์ พ่อของเขาเอง และเรื่องราวของ สงครามโลกครั้งที่ 1 , สงครามโลกครั้งที่ 2 อีกหลายเล่ม ,ปี 1953 ช่วงที่เขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษครั้งที่ 2 เขาก็ได้รับรางวัลในโบลในฐานะที่ "เป็นผู้เชี่ยวชาญในงานเขียนบทประพันธ์ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชีวประวัติที่พรั่งพร้อมไปด้วยศิลปะในการยกระดับคุณค่าความเป็นคน"
10. วินสตัน เจ้าแห่งอุบัติเหตุ
ตั้งแต่ยังเล็ก วินสตันสนุกสนานกับการโดดลงน้ำจากสะพาน ส่งผลให้ตับของเขากระทบกระเทือนรุนแรง , เคยจมน้ำเกือบตายในทะเลสาบสวิส , ตกจากหลังม้าอีกหลายครั้ง , เกิดอุบัติเหตุระหว่างลงจากเรือที่ท่าในอินเดียทำให้หัวไหล่เคลื่อน , ไปเรียนขับเครื่องบินก็เครื่องบินตกอีก , ข้ามถนนที่ฟิฟธ์อเวนิวในนิวยอร์คมองรถผิดทางโดนรถชนกระเด็น แต่ก็ไม่เห็นวินสตันจะเป็นอะไรนะ อยู่มาได้จนถึงอายุ 90 แล้วเสียชีวิตด้วยอาหารเส้นโลหิตในสมองแตก
พบหนึ่งในการแสดงที่ยอดเยี่ยมและทุ่มเทที่สุดในชีวิตของ แกรี โอลด์แมน ในการรับบทเป็น วินสตัน เชอร์ชิลล์ ได้ใน "Darkest Hour ชั่วโมงพลิกโลก" 11 มกราคมนี้ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างซับไทย