ที่จริงแล้วซูเปอร์สตาร์เอ็ด ชีแรน ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกในการรับบทนักร้องดังในหนังเรื่อง Yesterday
HIGHLIGHTS
- เรื่องราวของ Yesterday ส่วนหนึ่งมาจากเส้นทางความโด่งดังของซูเปอร์สตาร์เอ็ด ชีแรน "หนังเรื่องนี้มีเค้าโครงหลวมๆ มาจากเอ็ดเพราะเขาเป็นเพื่อนของริชาร์ด ผู้อำนวยการสร้างครับ" ผู้อำนวยการสร้างบีแวนกล่าว
- "ตอนแรก บทนั้นถูกเขียนขึ้นมาสำหรับคริส มาร์ตินวงโคลด์เพลย์ แต่เขาไม่อยากแสดง" บีแวนกล่าว "เราก็เลยไปหาเอ็ดทันที" โชคดีที่ชีแรนตอบตกลง แต่ระหว่างการถ่ายทำ เขาก็จิกกัดทีมผู้สร้างเกี่ยวกับการเลือกเขาเป็นคนที่สองในทุกครั้งที่มีโอกาส
- ตัวละครของเจสสิก้า แชสเทน เหมือนเอเลี่ยนในร่างมนุษย์ที่ต้องการพลังพิเศษอย่างที่จีนมี เธอฉลาดกว่าใครบนโลกนี้ 1,000 เท่า เธอมายังโลกเพื่อศึกษามนุษย์ และคิดว่าพวกเขาเหมือนเชื้อแบคทีเรีย เหมือนกับเซลล์มะเร็ง พวกไม่ได้ทำร้ายแค่ตัวเองเท่านั้น แต่ยังทำร้ายโลกอีกด้วย
- แม้ว่าชีแรนจะเคยแสดงมาก่อน ใน Bridget Jones's Baby ปี 2016 และในซีรีส์เอชบีโอเรื่อง Game of Thrones ในปี 2017 ศิลปินคนนี้ก็เป็นคนแรกที่ยอมรับว่า เวลาบนหน้าจอของเขาใน Yesterday มีจำนวนมากกว่าโปรเจ็กต์อื่นๆ ที่ผ่านมา
Yesterday เล่าเรื่องราวของ แจ็ค มาลิค (ฮิเมช พาเทล, EastEnders จากบีบีซี) เป็นนักร้อง/นักแต่งเพลงตกอับในเมืองเล็กๆ ติดชายฝั่งของอังกฤษ ผู้ซึ่งความใฝ่ฝันที่จะโด่งดังของเขากำลังเลือนรางอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะทุ่มเทหรือได้รับการสนับสนุนจากแอลลี (ลิลี่ เจมส์ , Mamma Mia! Here We Go Again) เพื่อนซี้สมัยเด็กของเขามากแค่ไหนก็ตาม แต่แล้วหลังจากที่อุบัติเหตุทางรถประจำทางสุดพิลึกระหว่างเหตุการณ์ไฟดับอย่างลึกลับทั่วโลก แจ็คก็ตื่นมาและได้ค้นพบว่า เดอะ บีเทิลส์ ไม่เคยมีตัวตนอยู่...และเขาก็พบว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนมากๆ จริงๆ ซะด้วย
ที่จริงในเรื่องราวของ Yesterday ส่วนหนึ่งมาจากเส้นทางความโด่งดังของซูเปอร์สตาร์เอ็ด ชีแรน "หนังเรื่องนี้มีเค้าโครงหลวมๆ มาจากเอ็ดเพราะเขาเป็นเพื่อนของริชาร์ด ผู้อำนวยการสร้างครับ" ผู้อำนวยการสร้างบีแวนกล่าว มันก็เลยเป็นเรื่องแปลกที่ชีแรนไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่จะรับบทดาราตัวจริง ตัวละครที่หลังจากได้เห็นแจ็คในรายการโทรทัศน์ท้องถิ่น ก็ได้ให้โอกาสในการแจ้งเกิดกับเขา ด้วยการเลือกเขาให้มาแสดงเปิดทัวร์คอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้นของเขา "ตอนแรก บทนั้นถูกเขียนขึ้นมาสำหรับคริส มาร์ตินวงโคลด์เพลย์ แต่เขาไม่อยากแสดง" บีแวนกล่าว "เราก็เลยไปหาเอ็ดทันที" โชคดีที่ชีแรนตอบตกลง แต่ระหว่างการถ่ายทำ เขาก็จิกกัดทีมผู้สร้างเกี่ยวกับการเลือกเขาเป็นคนที่สองในทุกครั้งที่มีโอกาส
"เอ็ดเป็นลูกชายที่ผมไม่เคยมีครับ" ริชาร์ดกล่าว "ผมมีผมสีส้มตอนยังหนุ่ม ส่วนเอ็ดก็มีผมสีส้มเหมือนกัน ความจริงก็คือหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับเอ็ดในหลายๆ แง่มุม ตรงที่ว่านี่คือเอ็ดที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ มาจากซัฟโฟล์คและหมั้นหมายกับเด็กสาวที่เขาเรียนมาด้วยกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องราวเดียวกับแจ็ค องค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้จากชีวิตของเอ็ดอยู่ในหัวของผมเพราะเรารู้จักเขามาหลายปีแล้ว เราอยู่ในซัฟโฟล์คกับแดนนีตอนที่เอ็ดมาร่วมกินข้าวเย็นกับเราและแดนนีก็บอกว่า 'คุณน่าจะเล่นหนังเรื่องนี้นะ คุณน่าจะเป็นคนดังที่ค้นพบคนที่ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ของเราแล้วคอยช่วยเหลือเขา' น่ะครับ"
เมื่อได้ชีแรนมาร่วมงานแล้ว บอยล์ ผู้กำกับก็เรียกร้องความทุ่มเทตามที่เขาร้องขอกับนักแสดงทุกคนของเขา "ผมบอกว่า 'เอ็ด คุณจะต้องซ้อมกับเรานะ'" บอยล์เล่า "ด้วยความที่เรารู้ดีว่าความสำเร็จของเขาหมายถึงการที่เวลาของเขาจะมีค่ามากๆ เขาซ้อมกับเราและจริงจังกับมันมากๆ ด้วย เขาจับสังเกตสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เขารู้เรื่องของการแต่งเพลง ดังนั้น เมื่อเขาถามแจ็คว่า 'คุณทำได้ยังไง ผมไม่เชื่อคุณ' คุณก็จะคิดว่าเขารู้ดีกว่าทุกคนว่าคุณไม่สามารถคิดเพลง 'Yesterday' ออกมาได้ง่ายๆ แบบนั้น แม้ว่าพอล แม็คคาร์ทนีย์จะทำได้ แต่ปาฏิหาริย์ไม่ได้เกิดขึ้นแบบนั้น มันต้องอาศัยกึ๋นด้วย ในขณะที่สำหรับแจ็ค ดูเหมือนเพลงจะถูกเสกขึ้นมาได้ภายใน 10 นาที ‘The Long and Winding Road’ ดูเหมือนจะใช้ 10-15 นาทีครับ"
ชีแรน ผู้เป็นศิลปินดังระดับโลก เข้าใจดีถึงความท้าทายที่แจ็คเผชิญในตอนที่เขาโด่งดังเป็นพลุแตก "มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหาสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวคุณครับ" ชีแรนกล่าว “ผมใช้เวลาประมาณแปดปีกว่าจะพบสมดุลนั้น และนั่นคือสิ่งที่แจ็คต้องดิ้นรนกับมันในหนังเรื่องนี้" และเขาก็ประทับใจกับลักษณะที่พาเทลสวมบทแจ็คและกับพรสวรรค์ทางดนตรีของพาเทล "ผมคิดว่าคนอื่นนอกเหนือจากฮิเมชคงไม่สามารถแสดงบทแจ็คได้ดีเท่ากับเขาอีกแล้วล่ะครับ" ชีแรนกล่าว "ผมขนลุกเลยในครั้งแรกที่ผมได้ยินเขาร้องเพลง 'The Long and Winding Road' ระหว่างฉากการแข่งขันแต่งเพลงของเรา ตอนนั้นเองที่ผมรู้ว่ามันจะเป็นหนังที่พิเศษสุดอย่างแท้จริง เสียงของฮิเมชเพราะมาก และเขาก็ร้องเพลงพวกนั้นได้อย่างมหัศจรรย์" เขาหยุดครู่หนึ่ง "ผมไม่รู้ว่าเขาวางแผนอนาคตไว้ยังไง แต่ผมคิดว่าเขาควรจะออกอัลบัมนะครับ"
พาเทลเองก็ทึ่งกับความสามารถในการแสดงของเพื่อนร่วมแสดงของเขาเช่นกัน "เอ็ดเป็นนักแสดงที่ตั้งใจอย่างเหลือเชื่อและทำอะไรอย่างฉับพลันครับ" พาเทลเล่า "ทุกเทคที่เราแสดงด้วยกันจะแตกต่างกัน" ในฉากสำคัญฉากหนึ่ง ชีแรนท้าทายแจ็คให้แต่งเพลงแบบปัจจุบันทันด่วน ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ของการทัวร์คอนเสิร์ตจับตามองอยู่ สำหรับเพลงของเขา ชีแรนใช้เพลงที่เขาแต่งเพลง "เพลงที่ผมร้องในฉากการแข่งขันคือ 'Penguins' ครับ" ชีแรนกล่าว "ผมแต่งเพลงนี้เมื่อนานมาแล้ว และมันก็ไม่เคยถูกเอามาใส่ในอัลบัม ผมก็เลยคิดว่าคงเป็นเรื่องดีที่จะใช้เพลงนี้ในหนัง" มันเป็นเพลงที่น่ารัก แต่หลังจากที่เขาร้องเพลงนี้ไป แจ็คก็ร้องเพลง "The Long and Winding Road" ราวกับว่าเขาแต่งมันขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่นาที
แม้ว่าชีแรนจะเคยแสดงมาก่อน ใน Bridget Jones's Baby ปี 2016 และในซีรีส์เอชบีโอเรื่อง Game of Thrones ในปี 2017 ศิลปินคนนี้ก็เป็นคนแรกที่ยอมรับว่า เวลาบนหน้าจอของเขาใน Yesterday มีจำนวนมากกว่าโปรเจ็กต์อื่นๆ ที่ผ่านมา "การทำงานในหนังเรื่องนี้ทำให้ผมตระหนักว่ากระบวนการถ่ายทำหนังยาวนานและกว้างขวางกว่าการทำดนตรีมากแค่ไหน" เขากล่าว และเขาก็รู้สึกซาบซึ้งสำหรับคำแนะนำและความเป็นมิตรของบอยล์ด้วย "แดนนีมีวิธีคุยกับทุกคนในกองถ่าย แม้ว่าผมจะทำผิดพลาด เขาก็จะบอกผมว่าอะไรที่ผิดพลาดในแบบที่เป็นมิตรและทำให้ผมรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเองครับ"
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนบนโลกนี้ไม่รู้จักเดอะ บีเทิลส์ พบกับเรื่องราวความรักและการแสดงของเอ็ด ชีแรนได้ใน "Yesterday" วันนี้ ในโรงภาพยนตร์
เช็ครอบฉายคลิกเลย >> https://bit.ly/2knQydX
ตัวอย่างภาพยนตร์