"เกร็ก เบอร์ลานติ" ผู้กำกับที่มีพลังสร้างสรรค์ กับการถ่ายทอดเรื่องราวที่มีความหมายสำหรับใครหลายคน
Love, Simon เป็นเรื่องราวความรักสุดยิ่งใหญ่ของ "ไซมอน สไปเออร์" หนุ่มน้อยวัย 17 ปี ที่ต้องปิดความลับว่าตัวเองนั้นเป็นเกย์ เรื่องราวได้ถูกถ่ายทอดผ่านฝีมือการกำกับของ "เกร็ก เบอร์ลานติ" ซึ่งผู้แต่ง "เบ็คกี้ อัลเบอร์ทอลลิ" เองก็รู้สึกดีใจเมื่อผู้กำกับฯ เกร็ก เบอร์ลานติ มาช่วยพัฒนาบทภาพยนตร์ "เกร็ก เบอร์ลานติรับผิดชอบผลงานซูเปอร์ฮีโร่ทางทีวีหลายเรื่อง เขาคือซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริง เขาอัจฉริยะสุดๆ ผมเป็นแฟนของเขาก่อนที่จะมาร่วมงานในเรื่องนี้ ตอนที่ได้ยินว่าเขาอาจสนใจ ผมรู้สึกใจหายเลย"
ผู้อำนวยการสร้าง พูย่า ชาห์บาเซน ซึ่งเป็นคนแรกที่มีรายชื่ออยู่ในโปรเจ็กต์นี้ได้เล่าเสริมว่า "เกร็ก เบอร์ลานติเป็นคนที่ช่างคิดรอบคอบมากเท่าที่ผมเคยเจอมา เขาถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ออกมาในการกำกับหนังเรื่องนี้ เขาถ่ายทอดเรื่องราวที่มีความเป็นส่วนตัวออกมา และเมื่อเราพัฒนาบทร่วมกับเกร็ก มีหลายครั้งที่เราสามารถดึงประสบการณ์ของเขาออกมาได้ และเพิ่มรายละเอียดเล็กน้อยลงไปในเรื่องที่มีความสนุกสนาน งดงาม และมีความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ"
มาร์ติน โบเวน อีกหนึ่งคนที่มารับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างในเรื่องนี้ ได้กล่าวถึงผู้กำกับคนนี้ว่า "เกร็กมีพลังแห่งความสร้างสรรค์อย่างเหลือเชื่อครับ และนิยามของลักษณะผลงานของเขาเหมือนตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์ เขามีความเข้าใจเป็นพื้นฐาน นั่นคือตัวตนของเขาเป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอของเขา" ผู้เขียน ไอแซค แอพเทคเกอร์ ยืนยันว่า "การร่วมงานกับเกร็ก เบอร์ลานติเหมือนความฝันสูงสุดของเอลิซาเบธ เบอร์เกอร์หุ้นส่วนของผมและตัวผมเอง เขามีการผสมผสานระหว่างความมั่นใจและการให้ความร่วมมือในการทำงานที่หาได้ยาก และนี่ก็เป็นเรื่องราวที่มีความพิเศษสำหรับเขามาก ผู้อำนวยการสร้างฯ ขอให้เราเขียนชื่อผู้กำกับฯ ในดวงใจออกมา ผมไม่รู้ว่าพวกเขาได้ดูมันหรือเปล่า หรือแค่ทำให้เรารู้สึกดี แต่เกร็กอยู่อันดับต้นๆ ของรายชื่อนั้นเลย"
"นี่เป็นประสบการณ์ที่มีความหมายและสนุกสนานสำหรับผมมาก" เบอร์ลานติยอมรับ "ผมเคยแอบเป็นเกย์ตอนอยู่ไฮสคูล มันเกิดขึ้นในช่วงนั้น มันมีความหมายต่อผมมาก แต่ผมต้องทำโปรเจ็กต์เกี่ยวกับไฮสคูลเยอะมากในช่วงหลายปี และผมอยากทำหนังไฮสคูลที่มีช่วงเวลาสำคัญและมีธีมที่ไม่ต้องระวังเรื่องเพศ ฉะนั้นพอเรื่องนี้ตกมาถึงผม และมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องเกย์แต่เป็นหนังเกี่ยวกับการประกาศตัวตนให้โลกรู้ ทุกคนจะเข้าใจเรื่องแบบนั้นได้ ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก"
เบอร์ลานติเล่าเสริมว่า "ผมคิดว่าทุกคนพร้อมสำหรับเรื่องราวที่เล่าออกมาอย่างสนุก ไอแซค เอลิซาเบธ และเบ็คกี้มอบสิ่งนั้นให้เรา เรื่องนี้น่าจะเตือนทุกคน คนที่รักร่วมเพศ หรือใครก็ตามว่าพวกเขาเคยเป็นยังไงช่วงไฮสคูล ก่อนที่พวกเขาจะเปิดเผยตัวตนออกมา ความรู้สึกเมื่อตกหลุมรักครั้งแรก เรารักษามันไว้ยังไง การมีมิตรภาพที่ดีรู้สึกยังไง การมีครอบครัวที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราในบางช่วงเป็นยังไง"
พบกับเรื่องราวที่จะทำให้คุณได้พบกับความสนุกสนาน และรู้สึกถึงการเติบโตอย่างกับการค้นหาตัวตนที่แท้จริงและการตกหลุมรัก "Love, Simon - อีเมลลับฉบับไซมอน" วันนี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์