มันไม่สายเกินไปถ้าจะเป็นตัวของตัวเอง LOVE, SIMON ภาพยนตร์ที่ทำให้วัยรุ่นอีกหลายคนเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเอง
“ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของครอบครัวและความรัก แต่ก็รวมถึงความลับด้วย” เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์กล่าว “มันเป็นเรื่องของการเปิดเผยมันออกมา เป็นสิ่งที่เราเป็น และกล้าที่จะเผชิญหน้าเพื่อตัวเอง พูดในสิ่งที่เราอยากพูด ภาพยนตร์จะวนเวียนกับประเด็นเหล่านั้น และประเด็นของการเป็นตัวของตัวเองในรูปแบบที่สนุกสนานและมีความสดใส แน่นอนว่ามีความตลกอยู่ในเรื่องด้วยไม่ใช่เน้นดราม่าทั้งหมด”
ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งของ LOVE, SIMON คือการอยู่กับความจริง เรียนรู้การยอมรับตัวเอง อย่างที่เกร็ก เบอร์ลานติอธิบายไว้ว่า “มันไม่สายเกินไปถ้าจะเป็นตัวของตัวเอง มีเด็กหลายคนที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนในช่วงไฮสคูล ส่วนไซมอนเปิดเผยและดึงมันออกมา แต่เขาเรียนรู้การยอมรับตัวเอง อยู่กับความเป็นจริงและเป็นตัวของตัวเอง” ภาพยนตร์สนับสนุนให้ผู้ชมมีความกล้าและซื่อสัตย์ต่อตัวเอง “ฉันหวังว่าผู้ชมที่ดูหนังและอ่านหนังสือจะรู้สึกตื่นตัวที่จะซื่อสัตย์ต่อตัวเองขึ้นมา” เบ็คกี้ อัลเบอร์ทอลลิ ผู้แต่งหนังสือเรื่องนี้กล่าว
ทางด้านนักแสดงหนุ่มจาก Jurassic World และ Everything, Everything นิค โรบินสัน ที่รับบทนำเป็นไซมอนก็เห็นด้วยว่า “ผมคิดว่าทุกคนเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้วในชีวิต พยายามหาตัวตนของตัวเอง เป็นคนที่เราอยากจะเป็นคือเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป ผมคิดว่าทุกคนจะเข้าใจมันดี” อเล็กซานดรา ชิพ นักแสดงสาวจาก X-Men: Apocalypse ผู้รับบทแอ็บบี้ สาวในไฮสคูลที่ทุกคนอยากรู้จัก กล่าวเสริมว่า “ฉันคิดว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่จะเข้าใจการต่อสู้แบบนั้นได้ เพราะฉันว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องต่อสู้กับการค้นหาตัวตน พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่รู้ว่าอยากเป็นแบบไหนเมื่อโตขึ้น มันไม่ใช่แค่เรื่องเพศนะคะ แต่ตัวตนที่แท้จริงด้วย ไม่ใช่ตัวตนในแบบที่เรานอนหลับใหลแต่เป็นใครที่มีตัวบนโลกอย่างแท้จริง”
พบกับเรื่องราวที่จะทำให้คุณได้พบกับความสนุกสนาน และรู้สึกถึงการเติบโตอย่างแท้จริง เรื่องราวชวนระทึกของการค้นหาตัวตนที่แท้จริงและการตกหลุมรัก "Love, Simon - อีเมลลับฉบับไซมอน" 24 พฤษภาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์