"นิค โรบินสัน" จากพี่ชายที่แสนดีใน Jurassic World สู่การถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตและลมหายใจของไซมอนใน Love, Simon
"นิค โรบินสัน" นักแสดงหนุ่มจาก Jurassic World และ Everything, Everything ผู้รับบท "ไซมอน สไปเออร์" รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมในเรื่อง LOVE, SIMON "นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีการเล่ามาก่อนในแบบนี้ นี่เป็นหนังที่มีพลังเข้าถึงใครหลายคนได้ ช่วยพวกเขาได้ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประเด็นสำคัญคือเรื่องการเติบโตขึ้นในช่วงไฮสคูล ผมรู้สึกว่ามันถึงเวลาเล่าเรื่องพกนี้แล้ว ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของทีมในการช่วยเล่าเรื่อง" โรบินสันกล่าว
ผู้อำนวยการสร้าง พูย่า ชาห์บาเซน รู้สึกตื่นเต้นที่มีนิค โรบินสันมาร่วมทีมนักแสดงในบทไซมอน "นิคเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่มีแววมีอนาคตไกลรอเขาอยู่ เขามีบุคลิกที่ชัดเจน เขาถ่ายทอดความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ออกมาได้หมด และเขาเหมือนไซมอนตรงที่ชอบเก็บตัวนิดๆ เขารับบทนี้ได้อย่างงดงาม ผมเชื่อว่านี่เป็นตัวละครที่เป็นอมตะ และนิค โรบินสันถ่ายทอดออกมาได้ถูกต้องอย่างเหลือเชื่อมาก"
โรบินสันมองว่าเนื้อเรื่อง โทนเรื่อง และตัวละครต่างๆ สะท้อนถึงผู้แต่งฯ ผู้อำนวยการสร้างฯ และผู้กำกับฯ "LOVE, SIMON เป็นเรื่องของการเติบโตของเด็กไฮสคูล 2 คนที่ตกหลุมรักกัน" ผู้กำกับ เกร็กเบอร์ลานติ เห็นด้วยว่า "สำหรับผมแล้วในแง่หนึ่งมันคือเรื่องของการเติบโตขึ้น แต่อีกแง่หนึ่งไม่เคยมีหนังจากสตูดิโอใหญ่ที่มีตัวละครนำเป็นเกย์ในหนังเกี่ยวกับการเติบโตขึ้น มันมีทั้งความรัก ความสนุกสนาน และทุกอย่างที่เติมเต็มชีวิตของเด็กวัยรุ่น แต่ก็มีการเล่าผ่านมุมมองของเด็กที่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และจะกลายเป็นตัวตลกในชั้นเรียนถ้าเขาไม่ช่วยเพื่อนสนิท"
เบ็คกี้ อัลเบอร์ทอลลิ เจ้าของงานเขียนนิยายชื่อดังเรื่องนี้กล่าวว่า "มันยากสำหรับฉันที่จะอธิบายว่านิค โรบินสันแสดงทั้งตัวละครของเขาและความสับสนที่ต้องเจอได้เพอร์เฟ็กต์ขนาดไหน มีประโยคหนึ่งในบทที่ฉันอยากพูดว่าเอามาจากหนังสือ ตอนที่แม่ของไซมอนพูดว่า 'ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เหมือนลูกต้องกลั้นหายใจ แม่สัมผัสได้ว่าลูกกลั้นหายใจอยู่' และฉันเห็นจากที่นิครับบทไซมอน แม้แต่ช่วงที่เขาสนุกสนานกับเพื่อน เขาก็ยังมีช่วงที่กลั้นหายใจ เราจะเห็นเขากลั้นหายใจอยู่ตลอดเวลา มันเหมือนความกดดันที่ปกคลุมในหนังตลอดทั้งเรื่อง ฉันรักไซมอนนะคะ เขาอยู่ในความคิดของฉันมาตั้งนานแล้ว ความอ่อนแอ ความเงอะงะ ความร่าเริง นิคถ่ายทอดมันออกมาได้หมดเลย"
LOVE, SIMON คือชีวิตและลมหายใจในโลกของไซมอน "ชัดเจนว่าภาพยนตร์เกี่ยวข้องกับตัวละคร" โรบินสันกล่าว "น้ำเสียงและมุมมองของเขา การมองโลกของเขา ความรู้สึกต่อเรื่องตลกของเขา ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้มันไม่เหมือนใครสำหรับหนังแนวนี้ มันไม่ได้เน้นว่าเป็นหนังเกย์ มันเป็นเรื่องของเด็กที่ต้องพบเจอบางเรื่อง พยายามหาจุดยืนในโลกซึ่งค่อนข้างยาก ทุกอย่างผสมกับเรื่องที่เขาต้องฟันฝ่ากับเรื่องเพศ ผมคิดว่าความสนุกส่วนใหญ่มาจากตรงนั้น เพราะเขาสามารถพลิกสถานการณ์ที่ดูสิ้นหวังให้ดูตลกได้ เป็นสิ่งที่ผมพบว่ามีความน่าสนใจมาก"
พบกับเรื่องราวที่จะทำให้คุณได้พบกับความสนุกสนาน และรู้สึกถึงการเติบโตอย่างแท้จริง เรื่องราวชวนระทึกของการค้นหาตัวตนที่แท้จริงและการตกหลุมรัก "Love, Simon - อีเมลลับฉบับไซมอน" 24 พฤษภาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์