The Commuter หนังแอคชั่นสุดระทึกที่อบอวลด้วยความเป็นฮิทช์ค็อก!
"The Commuter นรกใช้มาเกิด" ผลงานสุดระห่ำของผู้กำกับ โจเม่ คอลเลต เซอร์ร่า (The Shallows, Orphan, Unknown) ที่หวนมาเจอกับแอคชั่นสตาร์รุ่นเก๋าอย่าง เลียม นีสัน อีกครั้ง ในเรื่องราวของ ไมเคิล หนุ่มใหญ่ที่ไป-กลับบ้านและที่ทำงานทุกวันด้วยรถไฟจนเป็นกิจวัตร จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากที่ได้พบหญิงสาวแปลกหน้าผู้ลึกลับ ไมเคิลถูกบีบให้เปิดโปงตัวตนของผู้โดยสารคนหนึ่งก่อนที่จะถึงสถานีสุดท้าย เขาต้องแข่งกับเวลาเพื่อแก้ปริศนา ไม่นานเขาตระหนักได้ว่าเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนร้ายวินาศกรรมที่ต้องเอาชีวิตของเขาและผู้โดยสารอีกเป็นร้อยมาเดิมพัน!
ตอนที่ผู้กำกับได้อ่านบทภาพยนตร์ ซึ่งเป็นฝีมือของไบรอน วิลลิงเจอร์ และ ฟิลลิป เดอะ บลาซี เขาก็ให้ความเห็นว่า "มันมีปริศนาก่อตัวขึ้นรอบตัวละครหลักของเรา ซึ่งมันจะมีผลมากกว่าเดิมถ้าตัวละครนำของคุณเป็นแค่คนธรรมดาๆ นั่นมันโคตรจะฮิทช์ค็อก มันจะทำให้คุณคิดถึง North by Northwest, The Lady Vanishes หรือ Rear Window และเช่นเดียวกับ Strangers on a Train เราต้องการให้คนธรรมดาต้องเจอกับปัญหาศีลธรรม ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเงินโดยไม่แคร์ผลที่ตามมา หรือว่าเขาจะทำอย่างไร? เมื่อเหตุการณ์ไม่ธรรมดาเกิดกับคนธรรมดา มันสำคัญที่สิ่งที่ตัวละครพวกนี้เลือกทำเป็นอย่างแรก คนดูต้องเห็นด้วย แล้วการกระทำทุกอย่างที่ตามมามันต่อยอดจากการตัดสินใจนั้น"
เรื่องราวใน The Commuter นั้นน่าสนใจด้วยวิธีการเล่า "ผมชอบหนังที่เล่าผ่านมุมมองของตัวหลัก" คอลเลต-เซอร์ร่ากล่าว "เรารู้เรื่องพอๆ กับที่เขารู้ คนดูจะอยู่กับเขาทุกฝีก้าว เราจะได้รู้ว่าครอบครัวเขากำลังตกอยู่ในอันตรายไปพร้อมกับเขา เราต้องการให้กล้องอยู่แต่ในรถไฟแต่บอกเป็นนัยว่าครอบครัวเขากำลังตกอยู่ในอันตรายโดยไม่ต้องให้เห็นภาพ มันเป็นสไตล์อีกอย่างหนึ่งของฮิทช์ค็อกซึ่งมันมีอิทธิพลกับงานภาพเพราะมันมีหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันในรถไฟ แค่เราเล่าเรื่องในนั้นก็พอแล้ว"
แอนดรูว์ โรนา หนึ่งในโปรดิวเซอร์บอกว่าโปรเจคต์นี้มีความคล้ายคลึงกับงานแบบฮิทช์ค็อก "ฮิทช์ค็อกชอบทำหนังทั้งเรื่องโดยใช้ฉากแค่ฉากเดียว เช่น Rear Window หรือ Rope หรือ Dial M for Murder คอนเซ็ปต์ทำให้คุณเน้นไปที่ตัวละครเพราะไม่ต้องมากังวลเรื่องสถานที่ถ่ายทำ โจเม่ทำเรื่องนี้โดยใช้มุมมองความเป็นทริลเลอร์เหมือนฮิทช์ค็อก เขาคือตัวพ่อของแนวเขย่าขวัญแห่งศักราชนี้ ไม่เหมือนกับ Non-Stop ที่ล็อคคนดูไว้กับตัวละครบนเครื่องบินตลอดทั้งเรื่อง The Commuter พาคนดูออกไปนอกโลเคชั่นหลักที่เป็นรถไฟสู่บ้านของตัวละครหลัก ออฟฟิศ และบาร์ ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของไมเคิล แอนดรูว์" โรน่า กล่าว
"สโคปของเรื่องมันใหญ่ขึ้น ไม่ใช่แค่ถูกขังอยู่ไว้ในที่ปิดตายดังนั้นการกระทำทุกอย่างจะมีความสมจริงขึ้นกว่าเคย แต่ยังก็ยังคงไว้ซึ่งปริศนาตามหาวายร้าย มันมีผู้ต้องสงสัยหลายคนค่อยๆ ปรากฏออกมาตามเรื่องราวที่ดำเนินไปโดยมีไมเคิลเป็นตัวนำ มันไม่ได้มีแค่ความแอคชั่นเท่านั้น แต่มันเต็มไปด้วยปริศนาซึ่งคุณจะได้คลี่คลายไปพร้อมกับไมเคิลตามเวลาจริง และจะทำให้คุณละสายตาไปจากจอไม่ได้ตั้งแต่ต้นจบ"
พบผลงานระห่ำเกินร้อยของ เลียม นีสัน ที่คุณต้องเอาใจช่วยจนวินาทีสุดท้ายใน "The Commuter นรกใช้มาเกิด" วันนี้ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างซับไทย