หนังแอคชั่น บู๊ระห่ำกับหลากบทบาทชั้นเยี่ยมของ เลียม นีสัน
นับเป็นเรื่องที่น่าใจหายไม่น้อย เมื่อนักแสดงดัง เลียม นีสัน เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ไม่นานนี้ระหว่างเดินสายประชาสัมพันธ์ผลงานล่าสุด Mark Felt: The Man Who Brought Down the White House ว่าเขามีแผนที่จะเลิกแสดง "บทบาทแอคชั่น" ในเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากเหตุผลเรื่องอายุที่อาจไม่อำนวยกับการแสดงบทบู๊แล้วนั่นเอง
ตอนนี้ นีสัน อยู่ในวัย 65 ปี ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไปในผลงานเก่าๆของเขา เราจะพบว่า นักแสดงรุ่นลุงรายนี้ได้มีโอกาสแสดงบทสำคัญในหนังแอคชั่น แฟนตาซี ฟอร์มยักษ์มากมายทั้ง การเป็นครูฝึกแบทแมนใน Batman Begins และทำหน้าที่ฝึกเจไดใน Star Wars:The Phantom Menace แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาได้ก้าวมาเป็นแอคชั่นสตาร์แถวหน้าของวงการในวัยที่ไม่มีใครคาดคิดก็คือหนังแอคชั่นชื่อเรื่องสั้นๆว่า Taken ในปี 2008 นั่นเอง และนี่คือบรรดาผลงานในระยะของ นีสัน ที่แสดงบทบู๊ระห่ำไว้อย่างน่าจดจำ จนได้ใจคอแอคชั่นทั่วโลก
1. Taken (ไตรภาค)
บทบาท ไบรอัน มิลล์ อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอฝีมือเยี่ยมที่ต้องตามล่าแก็งค์อาชญากรที่จับลูกสาวของเขาไปขายในตลาดค้ามนุษย์กลางกรุงปารีสใน Taken ปี 2008 เป็นบทบาทที่พลิกชีวิตของ เลียม นีสัน อีกครั้งกับการพลักดันให้เขากลายมาเป็นนักแสดงแอคชั่นเต็มๆตัวกับฉากบู๊อันดุเดือด บวกกับเนื้อหาที่เข้มข้นและการล้างแค้นที่เน้นความสะใจ ผลที่ออกมาคือหนังประสบความสำเร็จในแง่รายได้อย่างสูงในตลาดโลก จนมีภาคต่อตามมาอีก 2 ภาคในปี 2012 และ 2014 ซึ่งในสองภาคหลัง แม้ระดับความยอดเยี่ยมของตัวหนังอาจจะเบาลงไปบ้าง แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือฉากบู๊ระห่ำแบบไม่กลัวตายของ นีสัน จากหนังชุดนี้ได้กลายเป็นภาพจำของคอหนังแอคชั่นรุ่นใหม่ไปแล้ว
2. The A-Team (2010)
บทบาทตัวละคร ฮันนิบาล ในหนังรวมพลหน่วยพิฆาตแดนตายของ เลียม นีสัน นี้เป็นตัวตอกย้ำภาคแอคชั่นสตาร์ของเขาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและครองใจผู้ชมได้มากขึ้นไปอีกกับภาพตัวละครมาดเท่ที่ถือปืนยิงกระหน่ำใส่ฝ่ายศัตรู กระโดดหลบระเบิด และหนีการไล่ล่าอีกสารพัด ไม่เว้นแม้แต่การเอาตัวรอดในรถถังที่กำลังดิ่งลงจากฟ้า
3. Unknown (2011)
เลียม นีสัน ได้มาร่วมงานกับ ฮวม คอลเล็ต-เซอร์ร่า เป็นครั้งแรกในเรื่องราวของชายผู้ความจำเสื่อมผู้พบว่าตัวตนของเขาถูกคนอื่นขโมยไป รวมถึงภรรยาของเขาก็ทีท่าทีแปลกไปด้วย แต่เงื่อนงำบางอย่างที่พาเขาไปสู่การค้นหาความจริงก็นำอันตรายจากกลุ่มคนลึกลับมาสู่ชีวิตเขาเช่นกัน
ตัวหนังอาจจะไม่ได้เน้นแอคชั่นยิงกันสนั่น แต่การได้เห็น นีสัน ค่อยๆสืบหาความจริงของตัวตน อันปูทางไปสู่การไขความจริงและฉากบู๊ในช่วงท้ายก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะเขายังคงรักษามาตรฐานในฉากบู๊ของตนเองได้อย่างไม่มีตกหล่นกับภาพลักษณ์ผู้ชายที่พร้อมท้าชนกับทุกคนตรงหน้า
4. Non-Stop (2014)
ผลงานที่ เลียม นีสัน ได้ร่วมงานกับ ฮวม คอลเล็ต-เซอร์ร่า อีกครั้ง เรื่องราวความระทึกที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบินระหว่างประเทศจากนิวยอร์กสู่ลอนดอน โดยในระหว่างการบินนั้น มาร์ก ตำรวจอากาศสหรัฐ ได้รับข้อความขู่หลายครั้ง โดยได้ระบุว่าบรรดาผู้โดยสารจะถูกสังหารในทุก 20 นาที เว้นแต่จะได้ทำการโอนเงิน 150 ล้านดอลลาร์เข้าบัญชีธนาคารลับ ยิ่งเขาหาคำตอบว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ เขาก็ยิ่งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเสียเอง ซึ่งถ้าเขายังจับคนร้ายตัวจริงไม่ได้ ระเบิดเวลาที่ถูกซ่อนไว้บนเครื่องก็อาจจะฆ่าผู้โดยสารทุกคนบนลำ ทันทีที่เครื่องลงจอด
แม้จะมีสถานที่จำกัดเป็นเครื่องบิน แต่หนังก็แสดงให้เห็นถึงลีลาบู๊ในที่แคบๆ แต่ดุดันของ นีสัน ที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีไม่แพ้ในส่วนของความระทึกของเนื้อหา ภาพตัวละครของเขากระโดดยิงปืนขณะลอยตัวกลางอากาศกลางเครื่องบินเป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหน นีสันก็ยังบู๊ได้เท่เสมอ
5. A Walk Among the Tombstones (2014)
เลียม นีสัน รับบทเป็น แมทธิว สคัดเดอร์ อดีตตํารวจที่ทํางานผิดพลาด จึงผันตัวเองมาเป็นนักสืบเอกชน กระทั่งวันหนึ่งแมทต์ตกลงยอมช่วยตามสืบคดีลักพาตัวและฆาตกรรมภรรยาสาวของเจ้าพ่อค้ายาเสพติด ยิ่งสาวปมฆาตกรรมลึกเท่าไหร่ ยิ่งทำให้แมทซ์เจอกับเรื่องราวซับซ้อนมากขึ้นและมันนำไปสู่การไล่ล่าที่มีชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นเดิมพัน
เพียงแค่ฉากยิงกันกลางถนนในฉากเปิดของเรื่องก็เรียกว่า นีสัน ได้ใจผู้ชมไปเต็มๆแล้วกับฉากการยิงที่ดิบและสมจริงสตไล์หนังแอคชั่นยุคเก่า
6. Run All Night (2015)
ถูกใจในการทำงานด้วยกันจนต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งใน Run All Night กับ เลียม นีสัน และ ฮวม คอลเล็ต-เซอร์ร่า ที่ครั้งนี้ลุยระห่ำกันแบบไม่มีพักกับเหตุการณ์ไล่ล่าตลอดหนึ่งคืน นับเป็นบทบาทที่ไม่ใช่แค่โชว์ให้เห็นทักษะแอคชั่น แต่หนังยังมีพื้นที่ให้นักแสดงคนดังได้เผยแง่มุมที่ละเอียดอ่อน เปราะบางกับการเป็นพ่อที่พยายามไถ่บาปอีกด้วย
โดย นีสัน รับบทเป็นมือปืนมากประสบการณ์นาม จิมมี่ คอนลอน ผู้เป็นเพื่อนสนิทกับอาชญากรแห่งบรูคลิน ชอว์น แม็กไกวร์ ซึ่งจิมมี่ตอนนี้มีอายุ 55 ปีแล้ว เขากำลังถูกบาปที่เคยก่อในอดีตตามหลอกหลอน
แต่เมื่อ ไมค์ ลูกชายจิมมี่ตกเป็นเป้าหมาย จิมมี่ต้องทิ้งชีวิตในโลกแห่งอาชญากรรมไว้เบื้องหลังและหันหน้าเข้าปกป้องครอบครัวที่เขาเดินจากมานานแล้ว ซึ่งเขามีเวลาหนึ่งคืนเพื่อจัดการผู้ที่คิดจะพรากชีวิตลูกชายของเขาทุกคนให้สิ้นซาก
สำหรับผลงานชิ้นต่อไปของ เลียม นีสัน ก็คือ The Commuter ที่เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับคู่บุญ ฮวม คอลเล็ต-เซอร์ร่า อีกครั้งในเรื่องราวของชายที่ถูกผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งขอให้สืบหาบุคคลลึกลับที่ปลอมตัวขึ้นมาบนรถไฟขบวนนี้ พร้อมขีดเส้นตายว่าเขาไม่สามารถทำภารกิจนี้สำเร็จ ทุกคนบนรถไฟขบวนนี้จะต้องตาย
ส่วนในอนาคต ลีสัน จะเลิกแสดงบทแอคชั่นไปเลยจริงๆหรือไม่ แฟนๆ ก็ต้องติดตามกันต่อไป แต่ถ้า นีสัน เลิกแสดงบทแนวบู๊แหลกแบบไม่กลัวตายไปแล้ว รายชื่อหนังที่ยกมาข้างต้นก็คือลิสต์หนังที่บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่งถ้าคุณมองหาความมันส์จากบทบาทของนักแสดงชื่อ เลียม นีสัน