อ่านก่อนดูจะได้รู้อะไรมากขึ้น สารพันเกร็ดน่าสนใจใน Star Wars: The Last Jedi
1. หลังจากมาร์ค แฮมิลล์ เจ้าของบท ลุค สกายวอล์คเกอร์ ได้อ่านบทภาพยนตร์ฝีมือไรอัน จอห์นสัน ผู้กำกับภาคนี้แล้ว มาร์ค ก็ออกความเห็นทันทีว่า "ผมไม่ชอบในทุกๆ อย่างที่คุณเขียนเกี่ยวกับลุค สกายวอล์คเกอร์เลยจริงๆ นะ แต่มาถึงตอนนี้ผมเย็นลงล่ะ ผมปล่อยวางทุกอย่าง แล้วก็สำนึกไว้ว่าหน้าที่ของผมคือทำบทบาทของลุคให้ออกมาดีที่สุดตามวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ"
2. แครี ฟิชเชอร์ เจ้าของบทเจ้าหญิงเลอาผู้ล่วงลับ นอกเหนือจากบทบาทนักแสดงแล้ว แครี ยังเป็นนักเขียนฝีมือดีที่วงการยอมรับอีกด้วย หลายเรื่องที่เธอไปร่วมแสดงแล้วผู้กำกับก็มักจะขอแรงให้เธอช่วยตรวจดูบทภาพยนตร์ แต่ท้ายที่สุดก็ไปจ้างนักเขียนให้มาแก้ไขบทตามคำแนะนำของเธอ แต่ไม่จ่ายค่าไอเดียเธอเลย หลังๆ แครี จึงเริ่มบอกปัดเวลาใครมาขอให้เธอดูบทภาพยนตร์แล้ว แต่ผู้กำกับ ไรอัน จอห์นสัน ก็บอกว่า แครี ก็ช่วยเขาดูบทภาพยนตร์ใน The Last Jedi อยู่นะ
3. ฮัวควิน ฟินิกซ์ ได้รับข้อเสนอให้มารับบทตัวร้ายในภาคนี้ แต่เขาบอกปฏิเสธไป บทจึงตกเป็นของ เบนนิซิโอ เดล โตโร ดาราออสการ์อีกรายหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เบนนิซิโอ เคยได้รับข้อเสนอให้มารับบทดาร์ธ มอล แล้วใน Star Wars: Episode I - The Phantom Menace แต่ภายหลัง จอร์จ ลูคัส ก็หั่นบทของดาร์ธ มอล ออกเสียเกือบหมด เบนนิซิโอ เลยบอกลาบทไปในวันนั้น
4. แครี ฟิชเชอร์ เสียชีวิตภายหลังถ่ายทำภาคนี้จบ ก็มีข่าวว่าทีมงานตกลงจะตัดบทของเธอออกเพื่อลดบทบาทของเจ้าหญิงเลอาที่จะสานต่อในภาคต่อไป แต่แล้วผลสรุปก็คือ ไม่มีการตัดบทของเจ้าหญิงเลอาออกแต่อย่างใด
5. จอห์น วิลเลียมส์ ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ระดับโลก เขาทำดนตรีประกอบให้กับหนังสตีเวน สปิลเบิร์ก มาเกือบทุกเรื่อง เป็นเจ้าของรางวัลออสการ์มาแล้ว 5 ครั้ง และเป็นคนทำดนตรีประกอบให้ สตาร์วอร์ส มาตั้งแต่ภาค 1 วันนี้ จอห์น วิลเลียมส์ อายุ 85 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงกลับมารับหน้าที่ทำดนตรีประกอบให้ในภาคนี้ เท่ากับว่าทั้ง 8 ภาคของสตาร์วอร์ส ยังคงเป็นฝีมือของจอห์น วิลเลียมส์ ล้วนๆ
6. เคนนี เบเกอร์ นักแสดงผู้อยู่ในหุ่น R2D2 เสียชีวิตไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2016 ในวัย 81 ปี เรื่องนี้จึงได้บ๊อบบี้ วี มาสวมชุดหุ่น R2D2 แทน
7. สตาร์วอร์ส เป็นหนังแฟรนไชส์เรื่องหนึ่งที่ตลอดการถ่ายทำต้องเก็บทุกอย่างเป็นความลับมาก ขนาดว่าต้องตั้งชื่อกองถ่ายหลอกว่าถ่ายทำหนังเรื่อง "SpaceBear" เคลลี มารี ทราน ดาราหน้าใหม่ในภาคนี้ เธอรับบทเป็น "โรส ทิโค"ก็บอกทุกคนทางบ้านว่าเธอได้เล่นหนังอินดี้เล็กๆ ในแคนาดา เพื่อความสมจริงถึงกับซื้อน้ำเชื่อมเมเปิ้ลที่เป็นของฝากจากแคนาดามาให้พ่อแม่ด้วย
8. หนังฟอร์มใหญ่ขนาดนี้ก็มีปัญหาเรื่องบทภาพยนตร์เหมือนกันนะ ลอว์เรนซ์ คาสดาน ผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์ระดับตำนานของฮอลลีวู้ด ผู้เป็นคนเขียนบทสตาร์วอร์สมาตั้งแต่ภาค Star Wars: Episode V - The Empire Strikes Back , Star Wars: Episode VI - Return of the Jedi ก็ถูกมอบหมายให้มาเขียนบทภาค The Last Jedi แต่พอดีว่าตอนนั้นบทภาพยนตร์ภาคก่อนหน้า Star Wars: Episode VII - The Force Awakens มีปัญหา ลอว์เรนซ์ เลยถูกดึงตัวไปแก้ไขบทด่วน และเมื่อไรอัน จอห์นสัน เข้ามารับหน้าที่ผู้กำกับของ The Last Jedi เขาก็ขออำนาจในการแก้ไขบทในภาคนี้ เพราะเนื้อหามันไม่ต่อจากฉากจบใน The Force Awakens ซึ่งผู้อำนวยการสร้างก็ยินยอม
9. โปสเตอร์หนัง The Last Jedi เวอร์ชั่นล่าสุด ทุกตัวละครหลักถูกวางตำแหน่งให้เป็นรูปทรงของหน้ากากหน้ากากดาร์ธเวเดอร์ ดูออกกันมั้ย
10. เดิมที The Last Jedi ถูกวางกำหนดให้ออกฉายเดือนพฤษภาคม 2017 แต่แล้วก็ย้ายมา ธันวาคม 2017 แทน เหตุเพราะตอนที่ฉาย Star Wars: Episode VII - The Force Awakens ในเดือนธันวาคม เมื่อปี 2015 แล้วหนังทำรายได้ดี
11. ในภาค Star Wars: Episode VII - The Force Awakens ไคโล เร็น เสียท่าให้ เรย์ ฟันไลต์เซเบอร์เข้าที่หน้า เกิดรอยแผลเฉียงข้ามจมูก แต่พอมาถึง The Last Jedi รอยแผลกลับย้ายสูงขึ้นไปพาดตาขวาแทน ไรอัน จอห์นสัน ออกมายอมรับในเรื่องนี้ว่าเป็นไอเดียของเขาเองในการย้ายแผลของไคโล เร็น เพราะแผลเดิมดูไม่เหมาะ และอยากให้ดูละม้ายกับรอยแผลของ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ตาของไคโล เร็น อีกด้วย
12. สังเกตชื่อภาคก่อนหน้านี้นะครับ Star Wars: Episode IV - A New Hope , Star Wars: Episode V - The Empire Strikes Back (1980), Star Wars: Episode VI - Return of the Jedi (1983) and Star Wars: Episode VII - The Force Awakens (2015) ทุกภาคจะมีลำดับภาคอยู่ในชื่อด้วย แต่ภาคนี้จะเป็นภาคแรกที่ไม่ลำดับภาคอยู่ในชื่อ Star Wars: The Last Jedi เพื่อเหตุผลในการทำการตลาด
13. เลียน หยาง ผู้ออกแบบท่าการต่อสู้ เป็นผู้ฝึกสอนให้เดซี ริดลีย์ ฟันดาบไลต์เซเบอร์ ออกมาชื่นชมว่าปกติแล้วคอร์สฟันไลต์เซเบอร์นี่จะเรียนกันถึง 3 วัน แต่เดซี ริดลีย์ ฝึกแค่ชั่วโมงครึ่งก็คล่องแล้ว
14. ตอนถ่ายทำฉากแรกใน The Last Jedi ซึ่งสานต่อจากฉากจบใน The Force Awakens ที่ เรย์ ได้พบกับ ลุค สกายวอล์คเกอร์ ฉากนี้ถ่ายทำกันในไอร์แลนด์ ซึ่งเดซี ริดลีย์ ก็พาคุณพ่อมาเยี่ยมชมกองถ่ายด้วย พ่อของเธอได้พบกับมาร์ค แฮมิลล์ เจ้าของบทลุค สกายวอล์คเกอร์ ทีคนทั่วโลกต่างรู้จักดี พ่อก็ทักทายมาร์คว่า "ตกลงคุณรับบทเป็นใครในเรื่องนี้?" เรย์บอกว่าจนบัดนี้เธอยังไม่แน่ใจว่า นั่นคือมุกตลกของคุณพ่อหรือไม่รู้จริงๆ
15. จุดสังเกตุอีกอย่างชื่อภาคนี้เป็นสีแดง ซึ่งทุกภาคที่ผ่านมาเป็นสีเหลือง มีการคาดเดาว่าเพื่อเป็นโอกาสพิเศษในการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของแฟรนไชส์สตาร์วอร์ส
16. ความยาวภาคนี้อยู่ที่ 152 นาที เป็นภาคที่ยาวที่สุดในแฟรนไชส์สตาร์วอร์สแล้ว ก่อนหน้านี้ภาคที่ยาวสุดคือ Star Wars: Episode II - Attack of the Clones (2002) อยู่ที่ 142 นาที
17. ใน Star Wars: Episode IV, Episode V และ Episode VI มาร์ค ฮามิลล์ เป็นนักแสดงที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุด แต่พอมาใน Episode VII กลับเป็นแฮริสัน ฟอร์ด ที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุด ด้วยชื่อเสียงในปัจจุบันนี้เป็นหลัก แต่พอมาถึงภาคนี้ ไม่ต้องมีแฮริสัน ฟอร์ด กลับมาเล่นแล้ว มาร์ค แฮมิลล์ ก็กลายเป็นนักแสดงในภาคนี้ที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุด
18. เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่ และเจ้าชายวิลเลียม ทรงมาเยี่ยมชมกองถ่ายสตาร์วอร์สที่ ไพน์วู้ด สตูดิโอ ลอนดอน เดซี ริดลีย์ รับหน้าที่เป็นผู้พาทัวร์สถานที่
19. ในภาคนี้มีการออกแบบเกราะของ สตอร์มทรูเปอร์ใหม่ จุดที่สังเกตได้ชัดคือหมวก ที่รูปทรงตามขอบจะคมชัดขึ้น แต่ยังคงลักษณะเด่นที่คลาสสิกไว้ครบถ้วน
20. ภาคนี้เราจะได้เห็น ลุค สกายวอล์คเกอร์ ขึ้นยานมิลเลนเนียม ฟัลคอน หลังจากครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นกันก็เมื่อ 37 ปีก่อนใน Star Wars: Episode V - The Empire Strikes Back (1980)
"Star Wars: The Last Jedi - สตาร์ วอร์ส: ปัจฉิมบทแห่งเจได"
เข้าฉาย 14 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ทั้งในระบบปกติ , 3D และ MX4D
ตัวอย่างซับไทย