HIGHLIGHTS

• ROCKETMAN เล่าเรื่องท่ามกลางเพลงที่เป็นที่รักของเอลตัน จอห์น และขับร้องโดยทารอน เอเจอร์ตัน
   
• "หนึ่งในหลายๆ ส่วนที่ผมภูมิใจที่สุดในภาพยนตร์ของเราก็คือการแสดงแจ้งเกิดของเอลตันที่ Troubadour" เอเจอร์ตันพูดถึงฉากที่ เอลตัน จอห์น เริ่มเป็นที่รู้จักของวงการเพลงโลกด้วยเพลง Crocodile Rock
   
• "'Crocodile Rock' คือหนึ่งในเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลตัน ดังนั้น มันจึงเหมาะกับฉากนั้นที่สุดครับ" เฟอร์นิช ผู้อำนวยการสร้างกล่าว
   
• ระหว่างเพลงนั้น กับพลังงานทั้งหมด และท่าเตะ ขาเขายกขึ้นสู่อากาศ และคนดูก็ลุกขึ้นยืนไปกับเขา คุณจะรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตธรรมดาๆ มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่คนทั้งห้องรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างกำลังลอยไปยังอีกที่หนึ่ง

         ROCKETMAN เป็นอีพิคมิวสิคัลแฟนตาซีเกี่ยวกับเรื่องราวที่มีความเป็นมนุษย์อย่างเหลือเชื่อในช่วงเวลาแจ้งเกิดของเอลตัน จอห์น ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ใจจากเรจินัลด์ ดไวท์ อัจฉริยะทางดนตรีขี้อายตัวน้อยๆ ไปสู่การเป็นเอลตัน จอห์น ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจนี้ ที่ถ่ายทอดออกมาท่ามกลางเพลงที่เป็นที่รักของเอลตัน จอห์น และขับร้องโดยทารอน เอเจอร์ตัน นักแสดงนำของเรื่อง เป็นเรื่องราวสากลของเด็กชายจากเมืองเล็กๆ ซึ่งกลายเป็นบุคคลที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในป๊อป คัลเจอร์

"หนึ่งในหลายๆ ส่วนที่ผมภูมิใจที่สุดในภาพยนตร์ของเราก็คือการแสดงแจ้งเกิดของเอลตันที่ Troubadour" เอเจอร์ตันพูดถึงฉากที่ เอลตัน จอห์น เริ่มเป็นที่รู้จักของวงการเพลงโลกด้วยเพลง Crocodile Rock "เขาอายุ 23 ปี และมันคือหนึ่งในการแสดงเหล่านั้น หนึ่งในค่ำคืนที่น่าทึ่งที่ Troubadour ซึ่งทำให้เขาโด่งดังเป็นศิลปินระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ครับ"

      ทีมผู้สร้างได้สร้างพื้นที่ทางดนตรีที่โด่งดังในลอสแองเจลิสแห่งนี้ขึ้นมา สำหรับฉากที่จะได้เห็น เอเจอร์ตัน ในบท จอห์น เริ่มต้นจากความหวาดกลัว เขาแอบซ่อนอยู่ในห้องน้ำหลังเวที ปฏิเสธที่จะออกมา จนถึงชัยชนะที่ได้รับ "'Crocodile Rock' คือหนึ่งในเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลตัน ดังนั้น มันจึงเหมาะกับฉากนั้นที่สุดครับ” เฟอร์นิช ผู้อำนวยการสร้างกล่าว "มันเป็นเพลงที่ติดหูง่ายมาก คุณจำมันได้เร็วมาก คนร้องตามมันได้ทันที และในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็มีคุณลักษณะที่สดใสที่ผู้กำกับ เด็กซ์เตอร์ ได้จินตนาการเอาไว้ด้วยการแสดงที่ Troubadour เอลตันมีชื่อเสียงอยู่แล้วเรื่องการยกขาขึ้นวางหลังเปียโน ขณะที่มือก็ระรัวไปบนคีย์เปียโน เราตัดสินใจที่จะใช้มันเป็นอุปมาอุปไมยแสดงให้เห็นถึงการก้าวไปสู่การมีชื่อเสียงของเขา ระหว่างเพลงนั้น กับพลังงานทั้งหมด และท่าเตะ ขาเขายกขึ้นสู่อากาศ และคนดูก็ลุกขึ้นยืนไปกับเขา คุณจะรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตธรรมดาๆ มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่คนทั้งห้องรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างกำลังลอยไปยังอีกที่หนึ่ง บทเพลงนี้นำเสนอทุกอย่างนั้นอย่างสวยงามมากครับ"

        แน่นอนว่า ก็ไม่ใช่ว่ามันจะต้องรู้สึกเช่นนั้นในเวลานั้น "ก็มีคนที่ร้องว่า 'อะไรเนี่ย?'" จอห์นหัวเราะ เมื่อนึกถึงค่ำคืนที่อยู่ในความทรงจำนั้น "ผมกระโดดตัวลอย และพวกเขาก็ยังไม่พร้อมจะรับภาพนั้นครับ แต่มันเป็นเรื่องของการอยู่ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ เมื่อ ดิ๊ค เจมส์ (โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษ) พูดกับผมว่า 'ผมอยากให้คุณไปที่ Troubadour' ผมพูดกับเขาว่า 'ผมอยากไปอเมริกา แต่ผมคิดว่าเวลามันยังไม่ใช่' เขาบอกผมว่าผมต้องไป มันแสดงให้เห็นตัวคุณ คุณไม่รู้อะไรเลย ผมคิดว่า 'ผมอยากไปร้านขายแผ่นอเมริกัน และซื้อเพลงสักหลายอัลบัม' ผมก็เลยไป คุณไม่มีวันรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น!"

พบเรื่องราวของศิลปินระตำนานที่ก้าวผ่านอุปสรรคในชีวิตมากมายก่อนประสบความสำเร็จ พบกัน 20 มิถุนายน นี้ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์