กลายเป็นพระเอกที่มีงานชุกมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่ Kingsman ต่อเนื่องมาถึง Robinhood และล่าสุดที่เตรียมจะลงโรงฉายก็คือ Rocketman หนังใหม่ของผู้กำกับเด็กซ์เตอร์ เฟลตเชอร์ ที่เพิ่งประสบความสำเร็จมาจาก Bohemian Rhapsody หนังชีวประวัติเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ นักร้องนำวงควีน , เด็กซ์เตอร์ ต่อยอดความสำเร็จเขาด้วยชีวประวัติของ เอลตัน จอห์น ศิลปินชาวอังกฤษชื่อดังที่มีผลงานเพลงฮิตมากมายมาตั้งแต่ยุค 70s และได้ทารอน อีเกอร์ตัน มารับบทเป็นเอลตัน จอห์น

       ตามแนวของหนังชีวประวัติที่ต้องย้อนไปเล่าประวัติชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก ลากยาวมาจนถึงชีวิตในปัจจุบัน ในวัยหนุ่มของเอลตัน จอห์น มีช่วงหนึ่งที่เขาเมายาและเหล้าอย่างหนักทำให้เขาพลาดตกบันได เป็นฉากที่กล้องต้องโคลสอัปสีหน้าของทารอน ซึ่งทารอนตัดสินใจที่จะเล่นฉากนี้เอง โดยมีทีมสตันท์แมนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทารอน เล่าถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า "ผมใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าผมควรจะเล่นฉากนี้เองและทำด้วยความระมัดระวังอย่างดี ผมติดแผ่นรองหลังจากนั้นก็ทิ้งตัวเองลงไปตามขั้นบันได ก่อนจะเล่นฉากนี้มันก็ดูเหมือนอันตรายและน่าจะเจ็บตัว แต่สุดท้ายผมก็ไม่เจ็บเลยนะ แต่ภาพในหนังมันออกมาดูน่ากลัวเลยล่ะ ผมดีใจนะที่ทำฉากนี้ออกมาได้สำเร็จ" ซึ่งก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจของทารอนเองที่จะเล่นฉากเสี่ยงเจ็บตัวแบบนี้ เพราะที่ผ่านๆ มาอย่างใน Kingsman และ Robinhood ทารอน ก็ไม่เสี่ยงเจ็บตัวแต่ให้สตันท์แมนทำหน้าที่แทนทั้งหมด

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทารอน ตัดสินใจเล่นฉากสตันท์นี้ก็เพราะเขาจริงจังกับบทเอลตัน จอห์น มาก เขาต้องการความมั่นใจว่าภาพของเอลตัน จอห์น บนจอทุกนาที คือเอลตันที่ถ่ายทอดผ่านตัวเขา "บทบาทของเอลตัน จอห์น คือบทบาทของผม ผมไม่ต้องการให้เพียงสักนาทีตกไปเป็นหน้าที่ของคนอื่น"

         แน่นอนว่าถ้าพูดถึงนักแสดงที่เล่นฉากสตันท์เองในฮอลลีวู้ดก็ต้องนึกถึงชื่อทอม ครูซ อย่างล่าสุดในหนัง Mission Impossible 6 ที่เขากระโดดข้ามตึกแล้วพลาดทำเอาข้อเท้่าหัก ทารอน ออกตัวว่าเขาไม่ขอเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับทอม ครูซ นะ ถ้าจะต้องบาดเจ็บเสี่ยงตายอะไรแบบนี้ เขายกให้เป็นหน้าที่ของสตันท์แมนมืออาชีพจะดีกว่า แต่ในฉากนี้ที่เขาตัดสินใจเล่นเพราะมันเป็นของใหม่ที่ท้าทาย และการแสดงของเขามันจะช่วยทำให้ฉากนี้ออกมาสมบูรณ์มากขึ้น ไม่เพียงแค่ฉากตกบันไดเท่านั้น ทารอนยังต้องเจอฉากยากๆ ท้าทายอีกหลายอย่างในเรื่องนี้ อย่างเช่นต้องหัดร้องเพลงใต้น้ำ ในขณะที่มีกล้องคอยจ่อหน้าเขาอยู่ ในฉากนี้ยังอยู่ในช่วงชีวิตขาลงของเอลตัน เขาหดหู่ ติดยา และเมายาอย่างหนัก เอลตันพยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงสระน้ำในระหว่างปาร์ตี้ ที่ก้นสระ เอลตัน นอนเหยียดกายแล้วก็ร้องเพลง "Rocketman" เป็นฉากที่ดูเพ้อฝัน มีความเป็นแฟนตาซี เพื่อถ่ายทอดฉากนี้ให้ได้อารมณ์ความรู้สึกตามที่ผู้กำกับเด็กซ์เตอร์ต้องการ ทีมงานถ่ายภาพต้องตั้งกล้องในความลึกก้นสระที่ 20 เมตร เป็นอีกฉากที่ทารอน ต้องแสดงด้วยตัวเอง โดยมีทีมประดาน้ำคอยดูแลอยู่รอบๆ ฉากนี้ต้องถ่ายทำถึงหลายเทคกว่าจะผ่าน บางเทคต้องถ่ายกันยาวถึง 20 นาที ทารอน เล่าให้ฟังว่า "ผมเคยถ่ายฉากใต้น้ำมาก็เยอะแล้วนะ แต่ยังไม่เคยร้องเพลงใต้น้ำเลยนะ

      การทำงานในฉากนี้ยากมาก ทารอน ต้องสูดออกซิเจนให้เพียงพอ แล้วทีมงานก็จะถอดหน้ากากออกซิเจนออกไป จากนั้นทารอนก็ต้องนอนหงายไปกับพื้นสระ มองกล้อง แล้วทำปากเหมือนกำลังร้องเพลง "การนอนหงายไปบนพื้นสระมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เพราะน้ำมันจะไหลย้อนเข้าไปทางจมูก แล้วถ้าเป็นแบบนั้นคือจบเลยนะ ผมแสดงต่อไม่ได้ ฉะนั้นผมต้องหามุมเอนหลังที่พอดีแล้วก็ล็อคตำแหน่งไว้ เป็นฉากที่อันตรายพอดู"

ซึ่งการแสดงของทารอนก็อยู่ในสายตาของตัวเอลตัน จอห์น เอง ที่คอยให้กำลังใจเขา และเอลตันยังแนะนำทารอนอีกว่า ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบตัวตนหรือเสียงร้องของเขาให้มากนัก ซึ่งทารอนก็บอกว่า "มันก็ยากอยู่นะ เพราะผมกำลังเล่นเป็นตัวเขา"

เอลตัน จอห์น และ ทารอน อีเกอร์ตัน

         แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็น่าพึงพอใจเมื่อ "Rocketman" ออกฉายไปในอเมริกา ทารอน อีเกอร์ตัน และผู้กำกับเด็กซ์เตอร์ เฟลตเชอร์ ก็สามารถถ่ายทอดตัวตนของเอลตัน จอห์น ให้คนดูได้รู้จักตัวตนของเอลตัน จอห์น มากขึ้น ได้เห็นด้านที่อ่อนแอ เปราะบางของเขา ได้เข้าใจความรู้สึกของเอลตันในวันที่เขาตกต่ำ กลายเป็นหนังที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งบรรดาผู้ชมและนักวิจารณ์ ในขณะที่เขียนนี้ หนังทำรายได้แตะ 60 ล้านเหรียญไปแล้ว จากทุนสร้างที่ 40 ล้าน ในการฉายแค่สัปดาห์แรก ในบ้านเรารอชมพร้อมกันวันที่ 20 มิถุนายน นี้

ตัวอย่างภาพยนตร์