เมื่อมาร์เวล ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ของ Spider-Man: Far From Home ออกมาหลัง Avengers: End game ออกฉายไปได้เกือบ 2 สัปดาห์ ทำให้เราได้เห็นฉากน่าสนใจมากมาย และหลายๆ ภาพสื่อให้เห็นชัดเจนว่าเนื้อหาของ Spider-Man: Far From Home เชื่อมโยงกับเรื่องราวใน Avengers: End game อย่างมาก นั่นคือเหตุผลหลักที่มาร์เวลต้องปล่อยตัวอย่างใหม่นี้ออกมาหลัง Avengers: End game ออกฉายไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ตรงกับที่ทางมาร์เวล ได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่า Spider-Man: Far From Home จะทำหน้าที่ปิดเรื่องราวของหนังมาร์เวล เฟส3 อย่างสมบูรณ์ และนี่คือหลายๆ ประเด็นสำคัญที่เราเห็นในตัวอย่างใหม่นี้ และเลือกที่จะหยิบยกมาขยายความกัน

1. สไปเดอร์แมน ยังคงสวมชุดไอออนสไปเดอร์แมนของโทนี่ สตาร์ค

       ในตัวอย่างเราได้เห็นกันชัดเจนแล้วว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ยังออกปฏิบัติการในบทบาทของสไปเดอร์แมนภายใต้ชุด "ไอออนสไปเดอร์" ที่มาพร้อมกับเซ็ตขาแมงมุมที่เรียกว่า "วัลโด" เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาได้รับจากโทนี่ สตาร์ค จากเหตุการณ์ใน Avengers: Infinity War การที่สไปเดอร์แมนรอบนี้มากับชุดเกราะที่ทรงพลังมากขึ้น ก็นับว่าเป็นสีสันที่แตกต่างจากสไปเดอร์แมนในรอบก่อนหน้านี้ จากนี้ไปก็หวังว่าชุดเกราะไอออนสไปเดอร์จะแข็งแรงทนทาน เพราะถ้าชุดเกราะเสียหายขึ้นมาก็ไม่มีโทนี่ สตาร์ค มาคอยซ่อมให้อีกต่อไปแล้ว

 

2. ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และ มิเชลล์

        เราได้ฉากกุ๊กกิ๊กกันระหว่างปีเตอร์ และ มิเชลล์ แสดงถึงความสัมพันธ์ของคู่นี้ที่พัฒนาเข้าหากันมากขึ้น ซึ่งก็ยินดีไปด้วยกับปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ที่เขาแสดงความสนใจในตัวมิเชลล์มาตลอดก็หวังว่าจะสมหวังในภาคนี้ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่ราบรื่นนัก เพราะตามต้นฉบับหนังสือการ์ตูนในหลายๆ เวอร์ชั่น ความสัมพันธ์ระหว่างปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และ มิเชลล์ หรือ เอ็ม.เจ.ในเวอร์ชั่นการ์ตูนก็ไม่ได้ดำเนินไปอย่างสวยหรูนัก เพราะบทบาทในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ผู้ปกป้องความสงบสุขของบ้านเมืองก็มากระทบกระเทือนชีวิตส่วนตัวของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ มากพอสมควร ซึ่งเราต่างก็เห็นกันมาแล้วในสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นก่อนๆ ระหว่างปีเตอร์ กับ เอ็ม.เจ. หรือ แมรี่ เจน วัตสัน ที่รับบทโดยเคิร์สเต็น ดันสต์ ซึ่งบทมิเชลล์ ของ เซนดายา ก็คือบทเดิมของ เอ็ม.เจ.นั่นเอง ซึ่งผู้เขียนบทได้ทำการปรับแต่งเนื้อหาใหม่ เพื่อให้มีความแตกต่างจากสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นก่อนๆ

 

3. สถานการณ์ร้ายในภาคนี้คือผลพวงจากการดีดนิ้วของธานอส

          จากบทสนทนาของนิค ฟิวรี่ ที่เล่าว่า การดีดนิ้วใน Avengers: Infinity War และ Avengers: Endgame ได้ทำให้เกิดการฉีกขาดของมิติเวลาของเรา ทำให้ มิสเตอริโอ และ ปีศาจธาตุ หลุดเข้ามาในมิติเวลาของเรา แต่ยังไม่ได้มีการระบุชัดว่าสิ่งแปลกปลอมที่หลุดลอดเข้ามานี้เกิดจากการดีดนิ้วในครั้งในของธานอส ฮัลค์ หรือว่า ไอออนแมน

 

4. เควนติน เบ็ค หรือ มิสเตอริโอ ยืนยันว่าเขามาจากต่างมิติ

        เควนติน เบ็ค หรือที่รู้จักกันในฉายา "มิสเตอริโอ" ในตัวอย่างหนังนั้นได้อ้างว่าเขามาจากโลกต่างมิติ เพื่อมาไล่ตามอสูรธาตุทั้ง 4 ตัว ที่หลุดมาจากมิติเดียวกับเขา ซึ่งเนื้อหาตรงนี้ก็ตรงตามเนื้อหาดั้งเดิมจากหนังสือการ์ตูนที่เล่าว่ามิสเตอริโอก็มาจากต่างมิติ จากพื้นเพที่เป็นคนธรรมดา แต่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ ก็เลยใช้ความสามารถตรงนี้มาประยุกต์ใช้ในการก่ออาชญากรรม แต่ที่ดูแตกต่างไปจากเนื้อหาเดิมก็คือการปรากฏตัวในภาพยนตร์ครั้งนี้นั้น มิสเตอริโอ ดูจะเป็นฝ่ายดี ผิดจากสถานะเดิมในการ์ตูนที่เขาเป็นคู่ปรับตัวสำคัญของสไปเดอร์แมน

 

5. สมาชิกอเวนเจอร์คนอื่นๆ หายไปไหนหมด

               

        ในช่วงหนึ่งเราได้เห็นนิค ฟิวรี่ ยัดเยียดภารกิจปราบอสูรธาตุให้กับสไปเดอร์แมน ซึ่งสไปเดอร์แมนรู้สึกว่า วายร้ายรอบนี้ดูมีพิษสงร้ายกาจเกินความสามารถเขา ก็พยายามเบี่ยงเบนและถามถึงสมาชิกอเวนเจอร์คนอื่นๆ ที่ดูจะมีพลานุภาพมากกว่าเขา ซึ่งก็ได้คำตอบว่า ธอร์ออกไปนอกโลกกับทีม การ์เดียน ออฟ เดอะ แกแล็กซี่ แล้ว ส่วนกัปตันมาร์เวลก็ไม่ว่าง แล้วก็จบแค่นั้น ไม่ได้มีการไล่เรียงไปถึง ฟัลคอน , แบล็คแพนเธอร์ หรือ ฮัลค์ ว่าหายไปไหนกันหมด และสุดท้ายนิค ฟิวรี่ ก็ยืนยันว่านาทีมีเพียงแต่สไปเดอร์แมนเท่านั้นที่จะช่วยกู้สถานการณ์นี้ได้

 

6. เล่าที่มาของอสูรธาตุ

         เสริมเพิ่มเติมถึงที่มาของอสูรธาตุจากที่นิค ฟิวรี่ และ มาเรีย ฮิลล์ ได้อธิบายไว้สั้นๆ ในตัวอย่างหนัง สถานะของอสูรธาตุนั้นมีการอ้างอิงถึงธาตุพื้นฐานทั้ง 4 ของชาวกรีกโบราณ นั่นก็ได้แก่ ดิน , น้ำ , ลม , ไฟ ในหนังสือการ์ตูนนั้น อสูรธาตุ ปรากฏตัวครั้งแรกในเล่ม Supernatural Thrillers ปี1974 ธาตุผู้ทรงพลังทั้ง 4 นี้ ถือกำเนิดในมิติอื่นและได้ข้ามมาสู่มิติเวลาของเราเมื่อ 3,000 ปีก่อน พวกมันถูกเคารพบูชาดั่งเทพเจ้าของชาวอียิปต์ แล้วท้ายที่สุดพวกมันก็ถูกเนรเทศกลับไปยังต่างมิติ แต่มันก็เฝ้ารอเวลาที่กลับมาอาละวาดในมิติเวลานี้อีกครั้ง จวบจนเกิดเหตุการณ์ดีดนิ้วของอัญมณีที่เปิดช่องว่างระหว่างมิติให้พวกมันได้กลับมา

 

7. สไปเดอร์แมนใน "Stealth Suit"

           นอกจากเราได้เห็นสไปเดอร์แมนในชุดไอออนสไปเดอร์แมนแล้ว อีกชุดที่ปรากฏมาให้เห็นกันชัดเจนในตัวอย่างก็คือ สไปเดอร์แมนในชุดดำ หรือ "Stealth Suit"ที่เขาได้รับมอบมาจากนิค ฟิวรี่ ถ้าอ้างอิงจากเนื้อหาในเวอร์ชั่นการ์ตูนชุดนี้สไปเดอร์แมนเคยใส่ครั้งแรกในตอน "To The Ends of the Earth"เป็นตอนที่เขาต้องปะทะกับกลุ่ม ซินนิสเตอร์ ซิกซ์ แต่ก็มีบางส่วนที่ผสมผสานกับชุดที่เขาได้มาจากหน่วย S.H.I.E..D.แล้วใส่ในเหตุการณ์ Secret War แต่จุดที่แตกต่างจากทุกชุดในหนังสือการ์ตูนก็คือชุดนี้ปล่อยให้ปลายนิ้วของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ โผล่ออกมานอกถุงมือ

 

8. มิเชลล์เริ่มระแคะระคายว่า ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ คือสไปเดอร์แมน

       ในตัวอย่างเราได้เห็นแล้วว่ามิเชลล์ได้พูดหยั่งเชิงว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ คือสไปเดอร์แมน เรื่องราวส่วนนี้ก็เป็นอีกจุดที่เหมือนเนื้อหาในหนังสือการ์ตูน ที่แมรี่ เจน-วัตสัน ได้บังเอิญเห็น สไปเดอร์แมน โหนใยออกจากหน้าต่างห้องของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ในช่วงที่เพิ่งเป็นสไปเดอร์แมนใหม่ๆ ส่วนมิเชลล์ในหนังตัวแทนของ เอ็ม.เจ. ก็เริ่มสงสัยในตัวปีเตอร์ ปาร์คเกอร์มาตั้งแต่ภาคที่แล้ว เมื่อสไปเดอร์แมนโผล่มาในวอชิงตัน พอดีกับช่วงที่นักเรียนทั้งชั้นเดินทางไปที่นั่นพอดี แล้วก็บังเอิญซ้ำสองอีกที่โรงรียนจัดทัศนศึกษาไปยุโรปแล้วสไปเดอร์แมนก็ยังตามมาโผล่ที่นี่อีก ทำให้มิเชลล์เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวแล้วเริ่มเดาถูกทางว่าปีเตอร์คือสไปเดอร์แมน สิ่งที่ต้องตามไปลุ้นต่อในหนังก็คือ สุดท้ายแล้วปีเตอร์ จะยอมรับความจริงกับมิเชลล์หรือไม่

 

9. ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ใส่แว่นตาของโทนี่ สตาร์ค

          ฉากหนึ่งที่เห็นชัดๆ ในตัวอย่างก็คือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ กำลังตื่นเต้นกับแว่นอันใหม่ของเขา ซึ่งรูปร่างหน้าตามันสื่อชัดเจนว่านี่คือแว่นที่โทนี่ สตาร์ค ใส่ใน Avengers: Infinity War ดูจากท่าทางตื่นตะลึงของปีเตอร์ แล้วน่าจะเดาได้ว่าปีเตอร์ ได้เห็นเทคโนโลยีมากมายของแว่นไฮเทคอันนี้ ซึ่งน่าจะมาพร้อมกับ นาโนเทคโนโลยีของสตาร์ค

 

10. หรือว่าสไปเดอร์แมน จะเป็นผู้สืบทอด ไอออนแมน

         ตัวอย่างที่ 2 นี้จบด้วยฉากเท่ ๆ เมื่อแฮปปี้ โฮแกน บอกกับปีเตอร์ว่า "โลกกำลังต้องการไอออนแมนคนต่อไป" ในขณะที่ปีเตอร์ กำลังสวมเกราะไอออนแมนบนมือข้างซ้าย เป็นฉากที่ตอกย้ำกับวลีฮิตของสไปเดอร์แมน "พลังที่ยิ่งใหญ่มาควบคู่กับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่" ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ที่กำลังเกรงกลัวกับมหันตภัยครั้งใหม่นี้ว่าจะเกินขอบเขตความสามารถที่เขาจะรับมือไหว แต่ก็อยู่ในสภาวะที่ตระหนักถึงภาระหน้าที่ที่ขาดหายไป หลังการเสียชีวิตของโทนี่ สตาร์ค และกลายเป็นเขาที่ต้องมาเติมเต็มช่องว่างนี้ ตามเจตนาที่โทนี่ สตาร์ค ได้ฝากฝังไว้กับเขาอย่างมีนัยยะ เพราะชุดเกราะเวอร์ชั่นใหม่นี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดเกราะไอออนแมนของโทนี่เช่นกัน

 

ตัวอย่างภาพยนตร์