ตัวอย่างหนัง Pet Sematary เวอร์ชั่น2 เผยการเปลี่ยนแปลงจุดสำคัญของเรื่อง

Movie News25 กุมภาพันธ์ 2562

         Pet Sematary หรือในชื่อไทย "กลับมาจากป่าช้า" เป็นบทประพันธ์ของสตีเฟน คิง เจ้าพ่อนิยายสยองขวัญ ฉบับนิยายตีพิมพ์เมื่อปี 1983 ตัวนิยายได้รางวัล World Fantasy Award for Best Novel ในปี 1986 และถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 1989 กลายเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญคลาสสิกที่ดัดแปลงจากนิยายของสตีเฟน คิง ที่ถูกจดจำมากเรื่องหนึ่ง ด้วยบรรยากาศชวนสั่นสะพรึงมากมายในหนัง โดยเฉพาะฉากเฉือนข้อเท้า ที่ทำเอาทุกคนเสียวสันหลังวาบ



       Pet Sematary เป็นเรื่องของครอบครัวครีด ที่มี หลุยส์ ผู้เป็นพ่อ และ ราเชล ผู้เป็นแม่ ทั้งคู่มี เอลลี่ เป็นลูกสาวคนโต และ เกจ เป็นลูกชายคนเล็ก ทั้งคู่เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านใหม่ในแถบชนบท ซึ่งหน้าบ้านมีถนนใหญ่ มีรถบรรทุกใหญ่วิ่งกันขวักไขว่  ข้างบ้านของครอบครัวครีด มีสุสานสัตว์เลี้ยง จัด ลุงข้างบ้านบอกว่าเป็นสุสานโบราณที่พวกอินเดียนแดงสร้างไว้ พร้อมกับมนตร์ดำ เล่ากันว่าถ้าเอาสัตว์เลี้ยงมาฝังที่นี่ แล้วพวกมันจะคืนชีพกลับไปหาครอบครัว ไม่นานจากนั้นเจ้าแมวเหมียวของเกจ ก็โดนรถบรรทุกชนตาย เกจขอร้องให้พ่อเอาแมวเหมียวไปฝังที่สุสานโบราณ เกจคิดว่ามนตร์ดำของสุสานเป็นแค่เรื่องเล่าไร้สาระ แต่แล้วเจ้าแมวเหมียวก็กลับมาหาครอบครัวจริง แต่มันไม่ใช่แมวที่น่ารักเช่นเดิมแต่กลายเป็นแมวปีศาจที่มีนิสัยดุร้าย จนหลุยส์ต้องกำจัดมันทิ้ง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเอลลี่กลับเป็นเหยื่ออีกรายของรถบรรทุกบนถนนหน้าบ้าน แต่รอบนี้หลุยส์กลับเป็นฝ่ายที่ตัดสินใจเอาเอลลี่ไปฝังในสุสานโบราณ แล้วเอลลี่จะกลับมาหาครอบครัวในสภาพไหนล่ะ



          พาราเมาท์เจ้าของหนังเพิ่งปล่อยตัวอย่างหนังเวอร์ชั่น 2 ออกมาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้แฟนหนังสตีเฟน คิง ที่เคยชมเวอร์ชั่นแรกเมื่อปี 1989 ได้เห็นชัดเจนว่าเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้เปลี่ยนแปลงจุดสำคัญเสียใหม่ ด้วยการสลับให้ "เอลลี่" ลูกสาวคนโตเป็นรายที่ตายแทน ซึ่งในนิยายและหนังเวอร์ชั่นแรกนั้น เกจ คือลูกคนเล็กที่โดนรถบรรทุกชนตายและกลายเป็นเด็กปีศาจกลับมาสร้างความสยองให้ครอบครัว



         การปรับเปลี่ยนเรื่องราวของเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญนับว่าเป็นเรื่องอาจหาญมากในฮอลลีวู้ด เพราะระดับสตีเฟน คิง ถือว่าเป็นนักเขียนอาวุโสที่คนในวงการต่างให้ความเคารพนับถือ แม้ระดับ สแตนลีย์ คูบริก ผู้กำกับระดับปรมาจารย์ที่เคยดัดแปลง The Shining ผลงานของสตีเฟน คิง เป็นหนังมาแล้วในปี 1980 ก็ยังความไม่พอใจให้กับสตีเฟน คิง อย่างมากถึงกับออกปากว่า "เขาเกลียดหนังเรื่องนี้" แม้ว่า The Shining จะเป็นหนังระดับคลาสสิกของฮอลลีวู้ดอีกเรื่องก็ตาม แล้ว



          กับ Pet Sematary เป็นอีกผลงานรักของสตีเฟน คิง เพราะเขาเขียนเรื่องนี้ด้วยแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ส่วนตัว ในวันที่เขายังเป็นครูสอนหนังสืออยู่แล้วย้ายบ้านมาอยู่ใกล้ถนนหลวงที่มีรถบรรทุกวิ่งฉิวอยู่บนถนนหน้าบ้าน ทำให้หมาแมวของเพื่อนบ้านแถวนั้นโดนรถทับตายไปหลายตัว จนชาวบ้านแถวนั้นต้องสร้างสุสานหมาแมวขึ้นมา แล้ววันหนึ่ง สมัคกี้ แมวของลูกสาวเขาก็โดนรถทับตายเช่นกัน สตีเฟน คิง ก็จำต้องเอาศพเจ้าสมัคกี้ไปฝังในสุสานสัตว์ข้างบ้าน ไม่นานจากนั้น โอเว็น ลูกชายคนเล็กที่วิ่งเล่นอยู่หน้าบ้านก็กำลังจะวิ่งออกถนน ดีที่สตีเฟน คิง เห็นเข้าแล้วคว้าตัวไว้ได้ทัน ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้สตีเฟน เกิดหวนคิดขึ้นมาว่าถ้าเขาต้องสูญเสียลูกไปจะเป็นอย่างไร กลายเป็นไอเดียให้เกิดเรื่องราวของ Pet Sematary ขึ้นมา ชื่อ "Sematary" ไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษ แต่เป็นภาษาที่เด็กๆ ตั้งใจจะเขียน "Cemetery" ซึ่งแปลว่า"สุสาน"แล้วเขียนผิด สตีเฟน คิง ก็เลยเอาภาษาเขียนที่ผิดๆ ของเด็กนี่ล่ะ เอามาตั้งเป็นชื่อนิยายซะเลย


เกจ ครีด ลูกชายวัย 3 ขวบในเวอร์ชั่น 1989


          ผู้ที่มารับหน้าที่เขียนบท  Pet Sematary เวอร์ชั่น 2019 ก็คือเจฟฟ์ บูห์เลอร์ มือเขียนบทหน้าใหม่ที่มีงานชุก เขาเพิ่งมี The Prodigy ที่เพิ่งฉายโรงบ้านเรา และปีหน้าก็ยังมี Grudge หรือ Juon เวอร์ชันรีบู๊ต, เจฟฟ์ ตัดสินใจแก้เรื่องราวให้ เอลลี่ พี่สาววัย 7 ขวบเป็นตัวละครสยองของเรื่องแทน เหตุก็เพราะหนังควรจะมีจุดแตกต่างจากหนังเวอร์ชั่น 1989 และ เกจ ลูกชายคนเล็กในเรื่องนั้นวัยเพิ่ง 3 ขวบเท่านั้น แน่นอนว่าการทำงานกับเด็ก 3 ขวบเป็นเรื่องยากมาก แล้วทีมงานก็ไม่อยากลงเอยด้วยการใช้ซีจีในการสร้างภาพเด็กขึ้นมาแทนใช้เด็กแสดงจริง

ซึ่งในจุดนี้ เจสัน คลาร์ค ผู้รับบท "หลุยส์" ผู้เป็นพ่อ ก็ออกมาสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ "มันง่ายนะกับการทำหน้าที่ตัดสินว่าอะไรควร ไม่ควร ลองมาทำงานเองดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณกำกับเด็ก 3 ขวบให้แสดงหนังตามใจคุณไม่ได้หรอก แล้วสุดท้ายก็ต้องมาใช้หุ่น หรือภาพซีจีแทนน่ะเหรอ กับการเปลี่ยนตัวละครให้เป็นเด็ก 7-9 ขวบ มันช่วยหนังได้มาก ทำให้เราลงลึกกับเนื้อหาได้มากขึ้น เพิ่มเติมเรื่องราวพื้นหลังได้มากขึ้น ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินหนัง คอยดูหนังแล้วคุณจะเห็นว่าการปรับเปลี่ยนตรงนี้มันให้อะไรกลับมาในหนังได้มากขึ้น หลายคนที่ได้ดูหนังเขาก็ไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้นะ สตีเฟน คิงเอง เขาก็ไมเห็นว่าอะไรนะ"



         ถึงแม้นักแสดงนำอย่างเจสัน คลาร์ค จะออกตัวว่าเห็นด้วยอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ถึงอย่างนั้น เควิน คอลช์ต และ เดวิด วิดมเยอร์ 2 ผู้กำกับก็ยังวิตกกังวลเมื่อทราบว่าบทหนังเวอร์ชั่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงจุดสำคัญของเนื้อหา แต่ก็ต้องตัดสินใจเดินหน้า เพราะถ้าคงตามเนื้อหาเดิมเขาต้องทำงานกับเด็ก 3 ขวบ ซึ่งเป็นเรื่องยากเกินไปอีก Pet Sematary มีกำหนดฉายวันที่ 11 เมษายน นี้ ถึงตอนนั้น ค่อยไปพิสูจน์พร้อมกันว่าหนังจะมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาส่วนไหนมากกว่าที่เห็นในตัวอย่างล่าสุดหรือไม่ และการปรับเปลี่ยนในเวอร์ชั่นใหม่นี้ จะทำให้หนังสนุกและสยองมากขึ้นจริงหรือไม่

 

ตัวอย่างภาพยนตร์