เปรียบมวย ลารา ครอฟต์ 2 เวอร์ชั่น แองเจลินา โจลี่ และ อลิเซีย วิกันเดอร์

Movie News, Movie News8 มีนาคม 2561

           Tomb Raider จากเกมที่ออกวางตลาดเมื่อปี 1996 ด้วยไอเดียแปลกใหม่  วางให้ตัวละครหลักเป็นสาวแกร่ง ลารา ครอฟต์ ที่เหมือนอินเดียนา โจนส์ ภาคผู้หญิง ต้องผจญภัยไขปริศนา หลบกับดัก เพื่อหาสมบัติที่ซุกซอนในดินแดนลึกลับ ทำให้เกมฮิตมากจนถึงวันนี้ออกมาแล้ว 17 เวอร์ชั่น และนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 2001 ในชื่อ Lara Croft: Tomb Raider ได้สาวเท่ แองเจลินา โจลี่ ที่กำลังฮอตสุดในยุคนั้นมาสวมบทเป็น ลารา ครอฟต์ เสียงส่วนใหญ่ชื่นชมว่าเธอเหมาะกับบท ลารา ครอฟต์ จริง  ด้วยความที่หนังฮิตจึงต้องมีภาคต่อ Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ออกมาในปี 2003 แต่ผลงานภาคต่อไม่ประสบความสำเร็จ รายได้ตกฮวบจากภาคแรกมาก ทำให้หนังหยุดอยู่แค่ภาค 2 เวลาผ่านไป 15 ปี ถึงได้มีการรีบู๊ต ลารา ครอฟต์ ให้กลับมาโลดแล่นบนจออีกครั้ง รอบนี้ก็ใช้บริการ อลิเซีย วิกันเดอร์ ดาราสาววัย 30 ที่มีผลงานออกมาชุกอยู่ในช่วง 2-3 ปีนี้ และมีรางวัลออสการ์มายืนยันฝีมือการแสดงด้วย และแน่นอนเมื่อจับเธอมามัดผมเปียใส่เสื้อกล้ามอันเป็นเอกลัษณ์ของ ลารา ครอฟต์ ย่อมมีคนนำเธอไปเปรียบเทียบกับลารา ครอฟต์ เวอร์ชั่นแรกแน่นอน บทความนี้เลยเอา ลารา ครอฟต์ ทั้ง 2 รุ่นมาเปรียบเทียบศักดิ์ศรีกันว่าน้องหนู อลิเซีย วิกันเดอร์จะทาบรัศมีขุ่นแม่ แองเจลินี โจลี่ ไหวหรือไม่



ข้อมูลพื้นฐาน



            วันนี้ขุ่นแม่ แองเจลิน่า ก็ปาไป 46 ขวบ แล้ว แม้ในยุคหนึ่งเธอคือราชินีนักบู๊ ที่จับปืนฟาดฟันกับผู้ร้ายมาไม่รู้กี่เรื่องแล้ว แต่ในวันนี้จะให้เธอกลับมาจับปืนพะบู๊อีกก็ไม่ไหวล่ะ ขุ่นแม่เลยเลือกที่จะไปทำงานเบื้องหลังแทน ทั้งงานกำกับ และ อำนวยการสร้าง ฉะนั้นเราดูกันที่รูปร่างซิว่าใครจะใกล้เคียงกับบอดี้ของลารา ครอฟต์ จากเกมต้นฉบับมากกว่ากัน

ลารา ครอฟต์ เป็นสาวนักผจญภัยที่คุ้นตากันในเอกลักษณ์ ผิวเข้ม ผมเปียยาว นุ่งกางเกงขาสั้น ถนัดทั้งปืนและธนู และที่สำคัญอึ๋มมาก ซึ่งขุ่นแม่แองเจลิน่า นี่เหมือนถอดแบบมาเลย แม้ทั้ง แองเจลิน่า และ อลิเซีย ต่างก็เป็นอดีตนางแบบมาด้วยกันทั้งคู่ ก่อนจะเข้าฮอลลีวู้ด แล้วก็เป็นสาวที่มีผิวสีแทนทั้งคู่  ไม่ต้องมาพอกสีผิวให้ดูเป็นลารา ครอฟต์ แต่ดูทรงแล้ว หุ่นขุ่นแม่กินขาดนะ ทั้งส่วนสูงที่ 168 ซม. สูงกว่า อลิเซียที่ 166 ซม. เอวสะโพกนี่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ตู้มๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของลารา ครอฟต์ นี่ขุ่นแม่ก็ชนะ เพราะของแองเจลินา นี่เธอมากับขนาดหน้าอก 36 นิ้ว ส่วนอลิเซียนี่มีมาแค่ 34 นิ้ว พออยู่ในท่ายืนตรงยืดอกนี่ดูแฟ่บกว่าเยอะเลย ถ้าวัดกันว่าแปลงร่างเป็นลารา ครอฟต์แล้ว ใครจะใกล้เคียงต้นแบบกว่า ก็ต้องบอกว่าขุ่นแม่แองเจลินา โจลี่ นี่แหละ

 

โอกาสบนเวทีออสการ์



            มาคนละแนวทางกันนะ แองเจลินา โจลี่ นี่มาทางสายหนังเอาใจตลาดเสียเป็นส่วนใหญ่ มีเล่นหนังโชว์ฝีมือการแสดงบ้างประปราย แต่เธอก็ได้พิสูจน์ว่าเธอก็มีฝีมือพอตัวเหมือนกัน การันตีด้วยรางวัลออสการ์นักแสดงสมทบหญิงมาการันตี จาก Girl, Interrupted (1999) เรื่องของชีวิตสาวในโรงพยาบาลบ้า มีวิโนนา ไรเดอร์ รับบทนำ แองเจลินา พยายามพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งใน Changeling (2008) เรื่องของหญิงสาวที่ตามหาลูกชายที่หายไป แล้วตำรวจนำเด็กชายคนอื่นมามอบคืนให้เธอ ผลงานกำกับของ คลินต์ อีสต์วู้ด เป็นงานดราม่าหนัก ๆ ที่คนดูและนักวิจารณ์ต่างก็ยอมรับและชื่นชมในฝีมือการแสดงของเธอ และได้เข้าชิงออสการ์ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แต่เธอก็พลาดไปและยังไม่ได้โอกาสแบบนี้อีกครั้ง

ส่วนอลิเซีย วิกันเดอร์ รายนี้เข้าวงการเล่นหนังในสวีเดน แล้วค่อยคืบคลานมาในฮอลลีวู้ด เล่นเป็นตัวประกอบ 2-3 เรื่อง ได้รับบทนำครั้งแรกใน Ex Machina (2014) เล่นเป็นหุ่นยนต์ ได้เสียงชื่นชมดี และทำให้ชื่อของเธอเป็นที่รู้จัก จากนั้นงานก็ไหลมาเทมา เธอคว้าออสการ์จาก The Danish Girl (2015) ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม แม้ว่าบทของเธอจะเป็นบทนำก็ตามเถอะ  อลิเซีย ยังคงรับงานหนังเอาใจตลาด และหนังสายรางวัลสลับกันไป ไม่นานคงจะได้มีโอกาสคว้าออสการ์นำหญิงยอดเยี่ยม เพราะเธอเพิ่งเข้าฮอลลีวู้ดมาได้แค่เพียง 4 ปีเอง แต่ระยะเวลาแค่นี้ เธอก็ยังมีออสการ์มาการันตีฝีมือการแสดงแล้ว ในโอกาสระยะยาวเชื่อว่าเธอมีออสการ์มากกว่าขุ่นแม่แน่นอน

 

ความสามารถนอกเหนือการแสดง



            ต้องยอมให้ขุ่นแม่ไปเหอะ ประสบการณ์ในวงการ 25 ปีของขุ่นแม่ ที่เข้าวงการตั้งแต่อายุ 18 เพราะเป็นลูกสาวของ จอห์น วอยท์ ดารารุ่นใหญ่ ก็เลยสตาร์ทได้เร็ว แล้วพออายุมากขึ้น ก็เพลางานแสดงลงแล้วเลือกที่ผันตัวเองไปลองทำงานเบื้องหลัง เรียกว่ามีทั้งความสามารถและทะเยอะทะยานพอตัว เพราะไม่เพียงแค่ อำนวยการสร้าง ยังมีงานกำกับ เขียนบทหลายเรื่อง และแถมยังร้องเพลงอีกด้วย ต้องรอดูในอนาคตว่าถ้าอลิเซีย วิกันเดอร์ ในวัย 40 อัป เธอจะทำอะไรได้มากกว่า แสดงและอำนวยการสร้างอย่างที่เธอทำอยู่ตอนนี้หรือไม่ เพราะความสามารถเหล่านี้เราวัดกันที่ประสบการณ์ในวงการอย่างเดียวไม่ได้หรอก

 

หนังที่ได้รับบทนำ



             ขุ่นแม่แองเจลินา รับบทนำในหนัง 31 เรื่อง จากทั้งหมด 48 เรื่อง ส่วนน้องหนูอลิเซีย รับบทนำ 20 เรื่อง จากผลงานทั้งหมด 36 เรื่อง ดูจากจำนวนแล้วเวลาในวงการบันเทิงห่างกันตั้งครึ่ง แต่อลิเซีย ก็มีผลงานห่างจากแองเจลินา ไม่มาก เชื่อว่าถ้าระยะเวลาในวงการ 25 ปีเท่าขุ่นแม่แล้วเธอยังงานชุกอยู่แบบนี้ เชื่อว่าอนาคตงานของอลิเซีย แซงแองเจลินา แน่นอน

 

จำนวนหนังที่รายได้ทะลุ 100 ล้านเหรียญ



                 เรื่องนี้สู้ขุ่นแม่ยากแน่นอน เพราะแองเจลินา นี่มาทางสายเอาใจตลาดเป็นหลัก มีหนังฮิตมากมาย Mr. & Mrs. Smith , Maleficent , Salt , Wanted และอีกมาก ผ่านหลัก 100 ล้านล้วน ๆ ส่วนอลิเซีย นี่หนักไปทางสายรางวัลนะ พอเล่นหนังเอาใจตลาดอย่าง The Man from U.N.C.L.E. , Seventh Son ก็ดันเดาทางผิดอีก กลายเป็นหนังเจ๊งทั้ง 2 เรื่อง มีแตะ 100 ล้านแค่เรื่องเดียวก็ Jason Bourne ภาคล่าสุด เล่นหนังนี่ก็เหมือนเล่นหวยนะ ต้องลุ้นว่าที่เล่นไปนะจะฮิตหรือจะเจ๊ง

 

รายได้รวมจากหนังทุกเรื่อง



           เช่นเดียวกับข้อที่แล้วล่ะ ภาษีคุณแม่ดีกว่าเยอะ เล่นหนังเยอะแล้วหนังส่วนใหญ่ฮิต รายได้รวมก็เลยทะลุไปนู่น 2,179 ล้านเหรียญ เฉลี่ยต่อเรื่อง 66 ล้านเหรียญ แล้วชื่อของแองเจลินา โจลี่ ก็ยังขลังอยู่ ยังใช้ชื่อแปะเรียกคนดูได้อยู่ แม้ว่าหลัง ๆ จะไม่ค่อยมีผลงานแล้วก็ตาม แต่เรื่องสุดท้ายของขุ่นแม่ Maleficent ก็ฮิตเปรี้ยงปร้างนะ กลายเป็นmemeเล่นกันบนโซเชียลมากมาย

ส่วนอลิเซียข้อนี้อย่าไปทาบรัศมีขุ่นแม่ ทั้งอายุงานในวงการ และชื่อเสียงในการเรียกคนดู เพราะอย่างที่กล่าวอลิเซียเล่นหนังสายรางวัลเสียมาก แล้วหนังตลาดของเธอก็ไม่ฮิต ชื่อของเธอยังไม่ขลังพอที่จะเรียกคนดูได้ ตอนนี้เธอก็ต้องฝากความหวังไว้กับ Tomab raider เนี่ยแหละ ถ้าหนังฮิตชื่อเสียงของเธอก็จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น ค่าตัวก็จะได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย แล้วตัวเลขรายได้รวมจากหนังทุกเรื่องของเธอ ก็น่าจะแตะพันล้านเสียที เพราะตอนนี้อยู่แค่ 898 ล้านจาก 36 เรื่อง น้อยจังเนอะ เฉลี่ยต่อเรื่องอยู่ที่ 25 ล้านเหรียญ เอาตัวเลขมาหารกันไม่ได้นะครับ เพราะบางเรื่องเป็นทีวีซีรีส์

 

หนังที่จะออกฉายในอนาคต



             วัดความฮอตกัน ถ้าดาราคนไหนฮิต อนาคตในวงการดีก็ย่อมมีผลงานใหม่ออกมาต่อเนื่อง มาดูที่ขุ่นแม่ตั้งแต่หันมาดูแลลูกและทำแต่งานเบื้องหลัง เราแทบไม่เห็นผลงานของเธอเลย ปี 2012 , 2013 เธอไม่เล่นหนังเลย , ปี2014 กลับมาประกาศศักดาใน Maleficent ,ปี 2015 กำกับเองเล่นเองใน By The Sea หนังสร้างสนองนี้ดตัวเอง ดูยาก ไม่หวังเงิน , ปี 2016 ไม่ปรากฏหน้าตาให้เห็น เพราะไปพากย์เสียงในอนิเมชั่น Kung Fu Panda 3 , ปี 2017 ปีที่แล้วนี่ก็ไม่มีผล งานออกมาให้เห็นเลย แต่ปีนี้ ปีหน้า เราน่าจะได้เห็นเธอในผลงาน 2 เรื่อง Maleficent 2 ที่ประกาศสร้างแล้วและ The One and Only Ivan ที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ แต่ยังไม่ประกาศวันฉาย

ส่วนอลิเซีย วิกันเดอร์ นี่ก็อย่างที่บอกต้องรอลุ้นชะตากรรมจาก Tomb Raider เนี่ยแหละ เพราะงานเธอเริ่มซาแล้ว มีผลงานที่อยู่ในขั้นตอนเตรียมงานสร้างเรื่องเดียวคือ Freak Shift แล้วก็เป็นหนังฟอร์มเล็กอีกแล้ว ดูทีท่าแล้ว ถ้า Tomb Raider ไปได้ไม่สวย อนาคตของอลิเซีย ไม่น่าจะสดใสอย่างเมื่อปี สองปีก่อนแล้วล่ะ

 

ทรัพย์สินรวม



          ข้อนี้ทิ้งห่างอย่างน่ากลัวมาก ขุ่นแม่เจ๊ใหญ่ในวงการเก็บเงินและต่อยอดทรัพย์สินตัวเองเก่งมาก เธอเปิดไนต์คลับชื่อ "เพนต์เฮาส์" ในลอนดอน มีน้ำหอมเป็นยี่ห้อของตัวเอง มีรายได้สะสมถึง 200 ล้าน...อู้ววว นี่ขนาดว่าบริจาคการกุศลเป็นหลักล้านเหรียญทุกปีเลยนะ ส่วนน้องหนูอลิเซีย มองขุ่นแม่เขาไว้เป็นแบบอย่างนะ เด็กเพิ่งอยู่ในวงการมาไม่นาน มีเงินเก็บนิดๆ หน่อยๆ เองแค่ 2 ล้านเหรียญ ค่อยๆ หยอดกระปุกไปนะจ๊ะ

 

สรุปรวม
          บารมีขุ่นแม่แองเจลินา โจลี่ ทิ้งห่างน้องหนูอลิเซีย ห่างไกล 7ข้อขุ่นแม่ชนะทั้ง 7 ข้อ อลิเซียเสมอไป1 ทั้งเรื่องของรูปร่าง ที่ทั้งสูงยาวและอึ๋มกว่าเมื่ออยู่ในภาพลักษณ์ของลารา ครอฟต์ บวกถึงบารมีสะสมในฮอลลีวู้ด ที่ขุ่นแม่มีทั้งรางวัลสะสมและหนังทำเงินขึ้นหิ้งหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้ยังชี้ชัดกันไม่ได้ เพราะน้องอลิเซียมาสายรางวัล ถ้าฮอลลีวู้ดยังมีงานให้เธอ เราอาจได้เห็นอลิเซีย เดินขึ้นเวทีออสการ์อีกหลายครั้งก็ได้ แต่ถ้าวัดกันตอนนี้น้องต้องยอมซูฮกให้ขุ่นแม่เขาไปก่อนนะ มาลุ้นชะตาของน้องกันเหอะ ว่าอลิเซีย วิกันเดอร์ จะทำให้ Tomb Raider ไปได้ไกลกว่า 2 ภาคของ แองเจลินา โจลี่หรือไม่ ไปพิสูจน์กันนะครับ วันนี้ Tomb Raider เข้าฉายแล้ว ใครได้ดูแล้วบ้างชื่นชอบลารา ครอฟต์ ในภาพลักษณ์นี้กันหรือไม่

 

ตัวอย่างภาพยนตร์