พบการกลับมาของ ลาร่า ครอฟต์ สุดยอดตัวละครนักผจญภัยสาวแกร่งที่แฟนๆทั่วโลกตั้งตารอคอยกับใน “Tomb Raider” ที่จะพาผู้ชมไปพบเรื่องราวการผจญภัยครั้งแรกของเธอในวัย 21 เมื่อเธอตัดสินใจที่จะไขปริศนาการตายของพ่อ จนนำไปสู่เกาะลึกลับที่เต็มไปด้วยอันตราย โดยนักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ อลิเซีย วิกันเดอร์ คือผู้ที่มารับบท ลาร่า ครอฟต์ คนล่าสุด ซึ่งความท้าทายที่หนักอึ้งที่สุดของเธอก็คือการเตรียมความพร้อมของร่างกาย

เมื่ออลิเซียเดินทางมาเริ่มต้นการถ่ายทำหลัก เธอก็ผ่านการฝึกอันเข้มงวดมาแล้วและมีร่างกายฟิตเต็มที่ อย่างไรก็ดี อดีตนักเต้นอาชีพรายนี้ก็ยังต้องอุทิศทุ่มเทและวินัยอย่างสูงทั้งก่อนและระหว่างการถ่ายทำเพื่อให้มีสภาพร่างกายแข็งแกร่งพอที่จะรับบทลาร่า ครอฟต์ได้ นักแสดงรายนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองเพื่อมารับบทที่ต้องอาศัยทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางซึ่งท้าทายไม่แพ้การเดินทางของตัวละครที่เธอรับบท

“ไม่มีใครแกร่งไปกว่านักเต้นบัลเล่ต์” แม็กนัส เลดบาค ครูฝึกผู้มีชื่อเสียงและผู้ริเริ่มแนวทางแม็กนัสเมธอด ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพที่แข็งแรงกับการฝึกกายและจิต “ผมร่วมงานนี้โดยตั้งความหวังเอาไว้สูงกับอลิเซียและเธอก็ทำได้ เธอสร้างลารา ครอฟต์ที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาครับ”

“บัลเล่ต์เป็นกีฬาที่โหดค่ะ” วิกันเดอร์เลิกเต้นบัลเล่ต์ไปกว่าสิบปีแล้วแต่ยังคงความสามารถในการรักษาระเบียบของร่างกายเอาไว้ “มีความคล้ายคลึงกันอยู่ระหว่างการฝึกบัลเล่ต์ของฉันเมื่อก่อนนี้กับการฝึกสำหรับ ‘Tomb Raider’” การฝึกในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลต่อเนื่องในชีวิตเธอหลังจากถ่ายทำหนังเสร็จไปแล้วด้วย “ระหว่างทำงานในหนังเรื่องนี้ฉันเริ่มฝึกปีนเขาแล้วฉันก็ติดใจค่ะ” เธอเผย 

ด้วยการแนะนำของเลดบาค นักแสดงสาวได้เข้าโปรแกรมการฝึกและการควบคุมอาหารนานถึง 7 เดือนก่อนเริ่มการถ่ายทำและเพิ่มการฝึกร่างกายให้หนักขึ้นเมื่อผ่านไปได้ครึ่งทางของโปรแกรมเริ่มต้น การออกกำลังกายนั้นมีทั้งการยกน้ำหนักหลักสูตรเข้มข้นและกิจกรรมทั่วไปอย่างเช่นการปีนเขาใน “ช่วงวันหยุด” 

“เมื่อคุณพบลาร่าในช่วงต้นเรื่อง เธอเป็นหญิงสาวธรรมดาที่อาศัยอยู่ในอีสต์ลอนดอน แต่เราต้องการให้ผู้ชมรู้ว่าเธอเป็นคนมีร่างกายแข็งแรง คุณเห็นเธอต่อยมวยกับเพื่อนที่ค่ายฝึก MMA และเธอก็เป็นคนส่งของทางจักรยานที่ชอบออกไปปั่นตามท้องถนน เธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแรงและเรื่องราวก็วางโทนไว้อย่างนั้นตั้งแต่แรก” วิกันเดอร์เล่า “แล้วต่อมาเราก็ได้เห็นเธอปีนป่าย ต่อสู้ ดำน้ำ...ฉันไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสลองอะไรใหม่ๆ มากมายขนาดนี้ได้ยังไงถ้าไม่ใช่เพราะมารับบทนี้! เป็นบทที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้มากเลยค่ะ สำหรับคนที่ตัวเล็กและไม่สูงนัก การเพิ่มน้ำหนักกล้ามเนื้อขึ้นมาอีก 5 กิโลถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่มากอยู่เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเป็นผู้หญิงน้อยลงเลย”

เลดบาคไม่เคยสงสัยในความทุ่มเทของนักแสดงสาว “คนมักถามผมอยู่เสมอว่า ต้องควบคุมอาหารกับออกกำลังกายอย่างละ 50-50 ใช่ไหม ในความเป็นจริง โดยเฉพาะสำหรับบทแบบนี้ มันต้องเป็น 100 เปอร์เซ็นต์กับ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ” เขายืนยัน “และอลิเซียก็ไปไกลกว่านั้นอีก เธอทุ่มเทเต็มที่ ถ้าผมบอกให้เธอเล่น 15 ครั้ง เธอก็จะทำ 16 ครั้ง และถ้าผมบอกว่า 20 เธอจะทำอย่างน้อย 21”

ระหว่างการถ่ายทำ วิกันเดอร์ต้องฝึกนาน 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงทุกๆ เช้าก่อนเดินทางไปยังกองถ่าย โดยฝึกในโรงยิมที่สร้างขึ้นพิเศษบนรถบรรทุกความยาว 24 เมตร อาหารของเธอที่เชฟเลสลีย์ ทัคเกอร์ เตรียมให้ทุกวันตามแนวทางอันเคร่งครัดที่เลดบาคกำหนดไว้นั้นเน้นคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซึมช้า (Slow carb) และโปรตีนไร้ไขมัน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ควินัว และเส้นก๋วยเตี๋ยว ส่วนแหล่งโปรตีนหลักนั้น ได้แก่ แซลมอน ทูนา และไข่เป็นส่วนใหญ่ อาหารโปรดของวิกันเดอร์คือไข่ลวก สลัดปลาดิบ และอาหารเอเชียแบบฟิวชั่น โดยใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพและเครื่องเทศมากระตุ้นต่อมรับรส เธอกินอาหารวันละห้ามื้อ โดยเว้นช่วงห่างกันสามชั่วโมง

“แม็กนัสทำงานกับอลิเซียได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้เธอพร้อมรับทุกสถานการณ์ที่เราเตรียมไว้ให้เธอ” ผู้กำกับ รอร์ อูธัก กล่าว “เธอฝึกหนักนานหลายเดือนเพื่อรับมือกับคิวบู๊ซึ่งปรากฏในแทบทุกฉาก”

ไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดเธอได้ เพราะเธอไม่เคยยอมให้กับความพ่ายแพ้เพราะเธอคือ “Tomb Raider” ! เข้าฉาย 8 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ระบบปกติและ MX4D

ตัวอย่างภาพยนตร์