Phantom Thread เล่าเรื่องท่ามกลางความเลิศหรูของกรุงลอนดอนปี 1950 ยุคหลังสงคราม ช่างตัดเสื้อผู้โด่งดัง เรย์โนลด์ส วู้ดค็อก (แดเนียล เดย์-ลูอิส) เป็นผู้อยู่ศูนย์กลางแฟชันอังกฤษ พวกเขาตัดเย็บชุดให้กับท่านผู้หญิงทั้งหลายด้วยสไตล์ที่โดดเด่นของเฮาส์ ออฟ วู้ดค็อก หญิงสาวมากหน้าหลายตาผ่านมาและผ่านไปในชีวิตของวู้ดค็อก พวกเธอเป็นทั้งแรงบันดาลใจและเพื่อนคู่ใจให้กับชายผู้พึงพอใจกับการเป็นโสดของตัวเอง จนกระทั่งเขาได้เจอกับหญิงสาวผู้เข้มแข็ง อัลมา (วิคกี้ ครีปส์) ผู้อยู่คู่กับชีวิตของเขาในฐานะแรงบันดาลใจและคนรัก เขาพบว่าชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยวางแผนเอาไว้อย่างดีและอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาต้องสั่นคลอนด้วยความรัก

ครีปส์มีทุกสิ่งที่ผู้กำกับมองหาในตัวอัลมาหลังจากที่เขาได้ดูการออดิชันของเธอ “ไอเดียคือการหาหญิงสาวอายุระหว่าง 25-33 ปี มีความเป็นยุโรป ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นยุโรปตะวันออก เป็นผู้อพยพที่มาอังกฤษช่วงระหว่างหรือหลังจากสงครามน่ะครับ” ผู้กำกับ แอนเดอร์สันกล่าว “วิคกี้เคยแสดงหนังเรื่อง The Chambermaid เมื่อหลายปีก่อน และเธอก็แสดงได้เก่งมากๆ ในเรื่องนั้น แต่เธอบันทึกเทปออดิชันในแบบเก่า ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากเทปของเธอว่า เธอสามารถเป็นเด็กสาวที่ทำงานในร้านน้ำชา และเป็นคนที่สามารถสวมใส่ชุดราตรีสวยๆ ในฐานะแรงบันดาลใจของเรย์โนลด์สได้ ในแง่ของทัศนคติและแง่คิดของเธอ นั่นไม่ใช่การแสดงครับ วิคกี้ไม่กลัวที่จะยืนกระต่ายขาเดียวและประกาศจุดยืนของเธอครับ”

เช่นเดียวกับครีปส์ อัลมาเป็นคนนอกทวีปที่มาจากประเทศเล็กๆ ในยุโรป แต่อัลมาเป็นผู้หญิงที่ผ่านโลกมาเยอะ หลังจากที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียแม่ไปในสงคราม และการอพยพที่น่าเจ็บปวดไปสู่ประเทศใหม่ “เธอเป็นเด็กสาวชนชั้นแรงงานในหมู่บ้านชาวประมงหลังจากที่ย้ายไปอังกฤษเพื่อหาชีวิตที่ดีกว่าค่ะ” ครีปส์ ผู้ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์โดยโจ ไรท์เรื่อง Hanna และภาพยนตร์โดยแอนตัน คอร์บจินเรื่อง A Most Wanted Man กล่าว “เธอมาจากสถานที่ที่เล็กมากๆ จนคุณต้องถูกบีบให้ต้องเปิดกว้างต่อโลกใบนี้ เพราะการทำตัวชาตินิยมเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลนะคะ”

หลังจากที่ถูกพาตัวไปลอนดอนเพื่อกลายเป็นนางแบบและแรงบันดาลใจสำหรับเรย์โนลด์ส พร้อมกับการตกหลุมรักเขาระหว่างนั้น อัลมาพบความสบายใจยามอยู่ที่เฮาส์ ออฟ วู้ดค็อก แม้ว่าจะต้องเจอกับขนบธรรมเนียมและวิถีปฏิบัติในสังคมที่เคร่งครัดก็ตาม “ในกรุงลอนดอนระหว่างนั้น มีระบบชนชั้นที่รุนแรงมาก คุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างชนชั้นต่างๆ” ครีปส์กล่าว “ด้วยความที่อัลมาเป็นเด็กสาวเรียบง่ายจากยุโรป เธอก็เลยมองไม่เห็นความแตกต่างพวกนั้นหรือไม่ได้มองตัวเองอยู่ในกล่องไหนๆ ทั้งสิ้น เธอมาพร้อมกับความรู้สึกที่ว่าเธอเหมือนกับทุกๆ คน ซึ่งทำให้เธออยู่ในตำแหน่งทรงพลังในการสามารถเคลื่อนตัวระหว่างชนชั้นต่างๆ ในอังกฤษได้อย่างเสรีค่ะ"

ความหลงใหลอย่างลึกซึ้งที่อัลมามีต่อเรย์โนลด์สได้รับการตอบกลับ โดยเรย์โนลด์สพบแรงบันดาลใจจากอัลมาและอัลมาก็พบอิสระจากชีวิตเก่าของเธอ แต่หลังจากเวลาผ่านไป อัลมาก็กลายเป็นพลังรบกวน ที่ทดสอบอำนาจของเรย์โนลด์ส “เธอมีความรู้สึกจริงจังเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ค่ะ” ครีปส์กล่าว “มันไม่ได้บ้าคลั่งซะทีเดียว แต่เธอยืนหยัดอย่างดื้อรั้นมากๆ ขณะที่ความสัมพันธ์ของเธอลึกซึ้งขึ้นน่ะค่ะ” แอนเดอร์สันกล่าวเสริมว่า “เธอเป็นเหมือนดอกไม้ไฟ ที่สั่นคลอนเรย์โนลด์สในแบบที่นำไปสู่ดรามาชนิดที่ดีเลิศที่สุด ผมอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนอย่างเรย์โนลด์สถูกบีบให้ต้องควบคุมนิสัยแปลกพิลึกของตัวเองหลังจากที่เขาพบว่าตัวเองถูกท้าทายด้วยคนที่มีลักษณะโดดเด่นไม่แพ้กันอย่างอัลมาน่ะครับ”

ในครึ่งหลังที่คลุ้มคลั่งของ Phantom Thread อัลมากลายเป็นแรงดันสำคัญในสมการซับซ้อนที่โอบล้อมทั้งซิริลและเรย์โนลด์สเอาไว้ “คุณจะได้เห็นความสัมพันธ์ของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปในตอนที่อัลมาขึ้นมาเป็นใหญ่ค่ะ” ครีปส์กล่าว “เรย์โนลด์สช่วยให้เธอกลายเป็นผู้หญิงอย่างที่เธอเป็นมาโดยตลอด เพียงแต่เธอแกร่งขึ้น เหมือนว่าคู่รักคู่นี้ฝึกฝนกันและกัน เหมือนการฝึกกล้ามเนื้อน่ะค่ะ” แอนเดอร์สันกล่าวเสริมว่า “เรย์โนลด์สและอัลมาเป็นคนที่แตกต่างกัน ที่มีความทะเยอทะยานแตกต่างกัน ความทะเยอทะยานของเรย์โนลด์สไม่ได้รวมถึงการใช้ชีวิตกับคู่รัก ในขณะที่ความทะเยอทะยานของอัลมาคือการเกลี้ยกล่อมเรย์โนลด์สว่าเขาต้องการเธอ แต่ใครกันที่เป็นคนขับ และใครเป็นผู้โดยสาร การที่พวกเขามาสลับบทบาทกันกลายเป็นความตึงเครียดสุดดราม่าของหนังเรื่องนี้ครับ” Phantom Thread วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์