ในช่วงนี้ที่กระแสโซเชียลกำลังฮึกเหิมกับคดีดังที่เกียวกับเสือดำ หน้าเว็บมีแต่รูปเสือดำเต็มไปหมด เพื่อให้สอดคล้องกับบรรยากาศแบบนี้ เรามาดูหนังที่เกี่ยวกับป่าเกี่ยวกับสัตว์ป่ากันจะดีนะ เพื่อปลุกความรู้สึกรักธรรมชาติซึมซับบรรยากาศต้นไม้ป่าขุนเขา แต่จะดูเรื่องไหนดีละ มาอ่านลิสต์นี้ครับ ผู้เขียนคัดหนังป่าๆ มาแนะนำกันสัก 10 เรื่องครับ

 

10. King Kong (2005)

 

เรต: PG-13
ความยาว: 3 ชั่วโมง 7 นาที
ผู้กำกับ: ปีเตอร์ แจ็คสัน
นักแสดง: นาโอมิ วัตต์ , เอเดรียน โบรดี้ , แจ๊ค แบล็ค

          เรื่องราวเกี่ยวกับหนังรีเมคจากเวอร์ชั่นคลาสสิกปี 1933 เรื่องของคาร์ล เดนแฮมผู้กำกับสุดติสต์ต้องการฉากปิดในหนังใหม่ของเขาให้อลังการ เลยพากองถ่ายดั้นด้นไปเกาะหัวกะโหลกเพื่่อได้ภาพทิวทัศน์ที่แปลกใหม่ แต่แล้วก็ต้องเจอกับกอริลลายักษ์ ที่จับตัวแอนน์ แดร์โรว์ นางเอกของเรื่องไป แจ๊ค ดริสคอลล์ ผู้เขียนบทที่กำลังมีใจพิศวาทกับแอนน์ จึงยอมเสี่ยงอันตรายบุกป่าฝ่าดงไปตามตัวแอนน์กลับ ระหว่างทางต้องเจอกับสัตว์ประหลาดมากมายบนเกาะกระโหลก แม้  KingKong ถูกรีเมคมาหลายครั้ง รายละเอียดปลีกย่อยจะถูกปรับเปลี่ยนไปบ้างแต่เนื้อหาลักก็ยังคงสะท้อนความโหดร้ายของมนุษย์ที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ลึกลับของพวกมัน พรากตัวมันมาจากบ้านอันสงบสุข  และยังตราหน้าว่ามันเป็นสัตว์ดุร้าย และสุดท้ายมนุษย์ก็ยังทำหน้าที่มัจจุราช  ที่ปิดฉากได้อย่างน่าสะเทือนใจ

 

9. The Legend of Tarzan (2016)

 

เรต: PG-13
ความยาว: 1 ชั่วโมง 50 นาที
ผู้กำกับ: เดวิด เยตส์
นักแสดง: อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด , มาร์โกต์ ร็อบบี้ , คริสตอฟ วอลตซ์ , ซามูเอล แอล.แจ๊คสัน

           เรื่องราวเกี่ยวกับนับครั้งไม่ถ้วนแล้วกับการรีเมคทาร์ซานทั้งในเวอร์ชั่นการ์ตูนและคนแสดง และในเวอร์ชั่นล่าสุดที่เทคโนโลยีทางด้านซีจีมาถึงขีดสุด เราเลยได้เห็นภาพลิงและเสือที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เรื่องราวในรอบนี้ย้อนไปเล่าประวัติความเป็นมาของทาร์ซานตั้งแต่เกิดและถูกเลี้ยงขึ้นมาโดยลิงและเสือ แต่เมื่อทาร์ซานโตเป็นหนุ่มก็กลับไปอยู่อังกฤษกับครอบครัวดั้งเดิม  หนังเล่าเรื่องราวการผจญภัยในวัยหนุ่มของทาร์ซานมากขึ้น เมื่อเขาต้องกลับมาช่วยชาวบ้านในถิ่นฐานเดิม หนังถ่ายทอดทัศนียภาพป่า แม่น้ำ ออกมาได้สวยงาม แต่ยังคงมีฉากโหด ๆ ของมนุษย์ที่สังหารฝูงกอริลลา และฉากเอาคืนของเหล่าสัตว์ป่าในฉากไคลแมกซ์

 

8. The Ghost and the Darkness

 

เรต: R
ความยาว:  ชั่วโมง 50 นาที
ผู้กำกับ: สตีเฟน ฮอปกินส์
นักแสดง: ไมเคิล ดักลาส , วัล คิลเมอร์

            เรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มีฉากหลังเป็นป่านะ แต่เป็นทุ่งหญ้าแอฟริกา เล่าเรื่องศึกระหว่างพรานป่ามือฉมังกับสิงโตกระหายเลือดที่ตื่นเต้นสุด หนังสร้างภาพสิงโตกินคนออกมาได้น่ากลัวสุด จนวันนี้ฮอลลีวู้ดก็ยังไม่สร้างหนังแนวนี้ออกมาอีก หนังย้อนอดีตไปในช่วงที่อังกฤษกำลังสร้างทางรถไฟข้ามทวีปแอฟริกา แต่กำหนดการล่าช้ากว่ากำหนดเหตุจากหัวหน้าคนงานโดนสิงโตกินไปแล้ว ไม่นานจากนั้นคนงานก็กลายเป็นเหยื่อสิงโตอีกหลายราย วัล คิลเมอร์ ในบทวิศวกรผู้ดูแลโครงการจึงต้องตามตัวชาร์ล เรมิงตัน พรานมากประสบการณ์มากำจัดเจ้า โกสต์ และ ดาร์คเนส ฉายาของสิงโตคู่จอมกระหายเลือด เป็นคู่ปรับที่สมควรกันที่สุด หนังถ่ายทอดฉากไล่ล่าในทุ่งหญ้าได้ระทึกมาก กับฉากซุ่มๆ แอบๆ คืบหน้าหากันในพงหญ้า ไม่รู้ว่าเจ้าสิงโตจะโผล่ออกมานาทีไหน

 

7. The Rundown (2003)

 

เรต: PG-13
ความยาว: 1 ชั่วโมง 44 นาที
ผู้กำกับ: ปีเตอร์ เบิร์ก
นักแสดง: ดเวย์น จอห์นสัน , ฌอน วิลเลียม สกอตต์ , คริสโตเฟอร์ วอล์คเก็น

              เรื่องราวเกี่ยวกับเปลี่ยนแนวมาเป็นป่าดงดิบในบราซิลบ้าง เรื่องนี้เป็นหนังตลกยุคแรก ๆ ของดเวย์น จอห์นสัน ที่เขาต้องเข้าคู่กับนักแสดงรุ่นน้อง ฌอน วิลเลียม สกอตต์ ในยุคที่งานชุกมาก ดเวย์นรับบทเป็น เบ็ค นักล่าค่าหัวที่ล้างมือแล้วมาเปิดร้านอาหาร แต่เขาก็เขาตกที่นั่งลำบากเมื่อไปเป็นหนี้เจ้าพ่อมาเฟีย เลยโดนมอบหมายงานยากเพื่อล้างหนี้ เบ็คต้องเข้าป่าอเมซอนไปตามตัวเทรวิสลูกชายของเจ้าพ่อกลับมาบ้าน แต่เมื่อไปพบกลับต้องไปร่วมผจญภัยเทรวิสในการตามหาตุ๊กตาโบราณศักดิ์สิทธิ์ที่มีมูลค่ามหาศาล แต่ว่าจะต้องเข้าไปในบริเวณเหมืองของผู้ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ หนังได้เสียงตอบรับดีมาก แต่กลับทำรายได้ไม่ดี ล่าสุดมีข่าวว่าผู้กำกับปีเตอร์ เบิร์ก อยากจะกลับมาทำภาคต่อ ให้ดเวย์น ผจญภัยกับ โจนาห์ ฮิลล์

 

6. Mighty Joe Young (1998)

 

เรต: PG
ความยาว: 1 ชั่วโมง 54 นาที
ผู้กำกับ: รอน อันเดอร์วู้ด
นักแสดง: บิล แพกซ์ตัน , ชาลิซ เธียรอน

           เรื่องราวเกี่ยวกับมาดูหนังป่าๆ ในสไตล์ดิสนีย์กันบ้าง รีเมคจากหนังชื่อเดียวกันปี 1949 เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกอริลล่ายักษ์ชื่อ โจ เป็นกอริลล่ากำพร้า เมื่อแม่โดนพรานใจอำมหิตฆ่าทิ้ง แต่ได้จิล เด็กสาวที่กำพร้าแม่เช่นกันเลี้ยงดูโจ จนเติบโตกลายเป็นกอริลล่ายักษ์สูงถึง 4.6 เมตร เรื่องราวของโจรู้ไปถึงนักอนุรักษ์สัตว์จากอเมริกา หว่านล้อมให้จิลย้ายโจไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลสัตว์ในแคลิฟอเนีย แต่ระหว่างขนย้ายก็ต้องเจออุปสรรคจากพรานเถื่อน ผู้มีความแค้นจากที่เคยโดนโจทำให้นิ้วโป้งขวาด้วน และต้องการแก้แค้นโจ ก็ยังคงเป็นอีกเรื่องที่ตัวเอกเป็นลิงยักษ์ใจดี แต่ก็ยังไม่วายโดนคนใจร้ายกลั่นแกล้ง ฆ่าแม่แล้วยังจะตามมาฆ่าลูกอีก ถ้าดูในช่วงนี้อีกคงอินกับหนังอารมณ์ขึ้นกันอีก

 

5. Congo (1995)

เรต: PG-13
ความยาว: 1 ชั่วโมง 49 นาที
ผู้กำกับ: แฟรงค์ มาร์แชล
นักแสดง: ลอร่า ลินนีย์ , ทิม เคอรี่ , ไดแลน วอลช์

            เรื่องราวเกี่ยวกับดูลิงน่ารักมาเยอะแล้ว ดูลิงน่ากลัวกันบ้าง เรื่องนี้มีฉากหลังเป็นป่าดงดิบในแอฟริกา เมื่ออดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอสาว พาทีมเฉพาะกิจไปตามหาตัวอดีตคู่หมั้นที่หายสาบสูญไปในป่าอเมซอน จากการออกตามหาโคตรเพชร แต่แล้วพวกเขาก็เจอสาเหตุที่ทีมก่อนหน้าหายสาบสูญ คือฝูงกอริลล่ายักษ์ดุร้ายที่มองมนุษย์ทุกรายเป็นผู้บุกรุกดินแดนของมัน หนังมีองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่ทำให้หนังออกมาสนุกมาก กับการเข้าป่าลึกแบบเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทค แถมมีกอริลล่าแสนรู้ไปทำหน้าที่ล่ามด้วย แล้วทั้งทีมต้องเจอกับสัตว์ร้ายมากมาย เมืองโบราณ และคนป่า และหัวใจหลักของเรื่องคือเหล่ากอริลล่าที่ทำหน้าที่ตัวร้ายของเรื่องได้สมบูรณ์แบบ

 

4. Predator (1987)

 

ความยาว: 1 ชั่วโมง 47 นาที
ผู้กำกับ: จอห์น แมคเทียร์แนน
นักแสดง: อาร์โนลด์ ชวาร์เซนเนกเกอร์ , คาร์ล เวเธอร์

           เรื่องราวเกี่ยวกับจุดกำเนิดตัวละครคลาสสิกของฮอลลีวู้ด ที่ลากยาวมาแล้วไม่รู้กี่ภาค แถมยังแวบไปเจอกับเอเลียนได้อีกด้วย หนังภาคแรกเล่าเรื่องของทหารกองปฏิบัติการพิเศษต้องเดินเท้าเข้าป่าอเมริกาใต้เพื่อไปช่วยผู้รอดชีวิตจาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก แต่ระหว่างทางพวกเขาก็พบว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของเกมล่าสังหารจากมนุษย์ต่างดาวพันธุ์นักล่า หนังใช้ฉากหลังของป่าดงดิบได้เข้ากับความสามารถของพรีเดเตอร์  จากสัญชาตญานนักล่าของพรีเดเตอร์ที่พรางตัวเข้ากับต้นไม้ใบหญ้า ทำให้ความรกชัฏของป่ารอบตัวช่วยเพิ่มความน่ากลัวของหนังได้ดี ดูแล้วเครียดไปกับบรรดาทหารที่จนมุมโดยไม่รู้ว่าตัวอะไรที่คอยตามล่าสังหารพวกเขาอยู่

 

3. Apocalypto (2006)

 

เรต: R
ความยาว: 2 ชั่วโมง 19 นาที
ผู้กำกับ: เมล กิ๊บสัน
นักแสดง: เจอราโด ทาราเซนา , ราอุล แมกซ์ ทรูจิลโล

            เรื่องราวเกี่ยวกับหนังโชว์ความสามารถของยอดผู้กำกับเมล กิ๊บสัน ที่ใช้นักแสดงพื้นเมืองล้วน ๆ และไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่ได้เข้าชิงถึง 3 ออสการ์ หนังไม่ได้เข้าฉายในบ้านเรา แต่ทุกคนที่มีโอกาสได้ดูต่างก็ชื่นชมกับความสนุกของหนัง หนังย้อนอดีตไปเล่าเหตุการณ์ในยุครุ่งเรืองของเผ่ามายัน ที่จับคนป่าเผ่าเล็กๆ มาบูชายัญเทพเจ้า พระเอกของเรื่องก็ถูกจับมาพร้อมกับชายฉกรรจ์ในเผ่าหลายคน แต่พระเอกเราก็ส่งลูกเมียไปซ่อนตัวในบ่อดินลึกได้สำเร็จ พระเอกหนีจากการถูกบูชายัญมาได้จนเข้าป่าลึกได้สำเร็จ และเป็นช่วงที่สนุกที่สุดของหนัง เมื่อเขาได้เข้ามาอยู่ในสมรภูมิที่ตัวเองถนัดและเปลี่ยนสถานะจากผู้ถูกล่าเป็นผู้ล่าใช้ต้นไม้ใบหญ้า และกับดักจัดการกับศัตรูได้อย่างน่าสยดสยอง พระเอกต้องเอาชีวิตรอดและกลับไปช่วยลูกเมียที่อยู่ในบ่อแต่ก็กำลังโดนน้ำท่วมบ่อให้ได้ทัน เป็นอีกเรื่องที่ใช้ประโยชน์จากป่าดิบมาเสริมเรื่องราวของหนังให้ดูสนุกได้ เป็นหนังที่เต็มไปด้วยฉากลุ้นตีนจิก และแน่นอนเต็มไปด้วยเลือดตามสไตล์ผู้กำกับเมล กิ๊บสัน

 

2. First Blood (1982)

 

ความยาว: 1 ชั่วโมง 33 นาที
ผู้กำกับ: เท็ด คอตเชฟ
นักแสดง:  ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน , ไบรอัน เดเนฮี , ริชาร์ด เครนา

          เรื่องราวเกี่ยวกับหนังคลาสสิกอีกเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับซิลเวสเตอร์ สตอลโลน จนในยุคแรก ๆ เขาได้ฉายาว่า "แรมโบ้" ติดตัวอยู่นาน แรมโบ้เป็นอดีตทหารผ่านศึกเวียตนามมาเยี่ยมเพื่อนที่วอชิงตัน แต่เกิดมีปัญหาผิดใจกับนายอำเภอท้องถิ่น โดนกลั่นแกล้งจับขังคุก แรมโบ้แหกคุกได้ แต่ก็โดนนายอำเภอตามล่าหวังเอาชีวิต  แรมโบ้หนีเข้าป่าได้ ซึ่งนั่นคือสมรภูมิที่เขาชำนาญและยากที่ใครจะเอาชนะเขาได้แล้ว ความสนุกของหนังอยู่ในช่วงที่แรมโบ้เข้าป่าแล้วโชว์ทักษะของทหารผ่านศึกในการพรางตัว วางกับดัก และจัดการเอาคืนกับเหล่าตำรวจที่มาตามล่าเขา

 

1. Romancing the Stone (1984)

 

ความยาว: 1 ชั่วโมง 46 นาที
ผู้กำกับ: โรเบิร์ต เซเมกคิส
นักแสดง: ไมเคิล ดักลาส , แคทเธอลีน เทอร์เนอร์ , แดนนี เดอวิโต

              เรื่องราวเกี่ยวกับโจน ไวล์เดอร์ นักแต่งนิยายรักผู้บังเอิญได้ครอบครองแผนที่สมบัติในโคลัมเบีย เป็นเหตุให้น้องสาวเธอถูกลักพาตัวไป โดยมีข้อแม้ว่าเธอต้องเดินทางไปโคลัมเบียเพื่อเอาแผนที่สมบัติไปแลกตัวน้องสาวคืนมา โจนเดินทางไปไถ่ตัวน้องสาว แต่แล้วก็กลับหลงทางในป่า พลันแจ๊ค โคลตันก็ปรากฏกายขึ้นมา เขาคือพรานป่าผู้มากประสบการณ์ เหมือนกับหลุดมาจากนิยายที่โจนเขียน ทั้งคู่ต้องผจญภัยร่วมกันท่ามกลางป่าลึก ซึ่งโจนเหมือนได้โลดแล่นอยู่ในนิยายของตัวเอง เป็นหนังคอมมีดี้ที่เล่าเรื่องราวที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในป่าออกมาได้อย่างสนุกสนาน ผนวกกับกับตามหาสมบัติได้บรรยากาศแบบหนังอินเดียน่าโจนส์ หนังประสบความสำเร็จอย่างมากในวันที่ออกฉาย ทำเงินถึง 82 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างแค่ 10 ล้านเหรียญ