10 หนังเติมพลังชีวิต เริ่มต้นปีใหม่
1. The Secret Life of Walter Mitty
ชีวิตคือความกล้าและก้าวไปสู่ที่ที่ยังไม่รู้ สู่ผลงานสำหรับคนที่เลิกฝันและก้าวออกไปสัมผัสโลกจริงๆอันกว้างใหญ่เพื่อค้นหาตัวเอง
เรื่องราวของ วอลเตอร์ มิตตี้ (รับบทโดย เบ็น สติลเลอร์) ที่ว่านี้เป็นคนช่างฝันรุ่นใหม่ เขาเป็นผู้ลำดับภาพนิ่งให้กับนิตยสาร ใช้วิธีผ่อนคลายจิตใจจากชีวิตที่จำเจด้วยการหายตัวไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการสุดตื่นเต้นอย่างเป็นผู้กล้าที่มีความมั่นใจ มีความรักที่ชวนหลงใหล และได้รับชัยชนะจากอุปสรรคขวากหนามต่างๆ แต่เมื่อมิตตี้และเพื่อนร่วมงาน (รับบทโดย ครินเทน วิก) ที่เขาแอบชื่นชอบต้องตกในที่นั่งลำบากเพราะการตกงาน วอลเตอร์ ต้องลงมือทำสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่างการเดินทางรอบโลกให้ยิ่งใหญ่อลังการเกินกว่าที่เขาจะนึกภาพจินตนาการได้
2. Jerry Maguire
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นั้น อาจไม่มีความหมายเลย หากเราไม่มีคนมาช่วยแบ่งปันความรู้สึกดีๆเ หล่านั้นร่วมกัน
เจอร์รี่ แม็คไกวร์ คือหนุ่มที่ทำอาชีพตัวแทนนักกีฬาชื่อดังที่จู่ๆก็รู้สึกสูญเสียความศรัทธาที่มีต่ออาชีพตน จึงพยายามแสดงความคิดเห็นที่สะท้อนจรรยาบรรณในอาชีพออกมา แต่ผลที่ได้คือเจอร์รี่ถูกไล่ออก เขาจึงต้องออกมาเริ่มต้นบริษัทใหม่ของตัวเองนับจากศูนย์ โดยมี โดโรธี พนักงานบัญชีสาวที่ลาออกมามาเสี่ยงดวงกับเขาเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างกาย แต่หนทางก็ไม่ง่าย เนื่องจากลูกค้าคนเดียวที่พวกเขามีคือนักกีฬาที่เป็นพวกนอกสายตาและไม่ประสบความสำเร็จในวงการเลย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจอร์รี่ยอมแพ้และพร้อมจะฝ่าอุปสรรคทั้งหมดเพื่อไปให้สู่จุดหมาย
หนังมาพร้อมการแสดงอันยอดเยี่ยมของ ทอม ครูซ และ เรเน่ เซลเวเกอร์ ที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมประโยคอมตะอย่าง “คุณเติมเต็มผม” ที่น่าจดจำไม่แพ้เรื่องราวอันอิ่มเอมใจนี้
3. Silver Linings Playbook
หากเรารู้จักปล่อยวางและมองโลกในมุมมองความเป็นจริง ทุกๆวันในชีวิตก็พร้อมจะเป็นวันที่เรามีความสุขกับมันได้
เรื่องราวของ แพท (รับบทโดย แบรดลีย์ คูเปอร์) ชายผู้สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งบ้าน, งาน และภรรยาที่แอบหนีไปกับชู้ ภายหลังที่เขาใช้เวลาแปดเดือนในโรงพยาบาลจิตเวช เขาต้องกลับมาอาศัยอยู่กับแม่ (รับบทโดย แจ็คกี้ วีฟเวอร์) และพ่อ (รับบทโดย โรเบิร์ต เดอนิโร) โดยหวังจะเริ่มชีวิตใหม่ ด้วยการไปขอคืนดีกับภรรยา
ทว่าพ่อกับแม่อยากให้เขาปลดเปลื้องภาระทางใจทิ้งให้หมด และใช้เวลากับทีมอเมริกันฟุตบอลสุดโปรดของครอบครัว แต่แล้วเรื่องราวก็เริ่มยุ่ง เมื่อแพทได้พบ ทิฟฟานี (รับบทโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) หญิงสาวลึกลับมากปัญหา ผู้อาสามาเป็นแม่สื่อให้เขาได้ปรับความเข้าใจกับภรรยา โดยแลกกับการที่แพทต้องช่วยเหลือเธอบางอย่างเช่นกันและมันนำไปสู่ความรู้สึกดีๆที่พลักดันชีวิตของทั้งคู่ไปสู่จุดที่สามารถยิ้มให้กับชีวิตได้ ท่ามกลางเรื่องแย่ๆ
4. Whiplash
เคยถามตัวเองไหมว่าคุณจะทุ่มเท พยายามและอดทนแค่ไหนเพื่อไปให้ถึงความฝัน? เรื่องราวของ "แอนดรูว์" (รับบทโดย ไมลส์ เทลเลอร์) มือกลองหนุ่มวัย 19 ปี ที่ต้องการเป็นมากกกว่าฉากหลังในวงดนตรี โดยความฝันของเขาในการเป็นมือกลองระดับโลกกำลังเริ่มต้นขึ้น เมื่อเขาได้พบกับ "เทอเรนซ์ เฟลชเชอร์" (รับบทโดย เจเค ซิมมอนซ์) ครูสอนดนตรีที่มีวิธีการสอนที่เข้มข้น โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นถึงพรสวรรค์ที่อยู่ในตัวเด็กคนนี้ ถึงแม้วิธีการสอนของ เทอเรนซ์ ดูจะโหดร้ายและดุเดือด ชวนบั่นทอนกำลังใจ แต่หนทางสู่ความสำเร็จมักจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
5. Joy
ไม่มีใครเข้าใจไอเดียของคุณได้เท่าตัวคุณเอง จงหาโอกาสจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและใช้มันให้เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตคุณ ผลงานการกำกับ เดวิด โอ. รัสเซล เรื่องนี้เป็นการกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งกับนางเอกสาวมากฝีมือ อย่าง เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ("Silver Linings Playbook," "American Hustle")
โดย Joy ได้แรงบันดาลจากมาจากเรื่องจริง ซึ่งเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการผจญภัยสุดตื่นเต้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่รักษาครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบของเธออย่างสุดความสามารถเมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ยากจะเอาชนะได้ เธอถูกผลักดันด้วยความจำเป็น ความจริงใจ และความฝันชั่วชีวิต จอยได้รับชัยชนะในที่สุดในฐานะผู้ค้นพบและผู้นำแห่งอาณาจักรหลายหมื่นล้านเหรียญ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอได้เพราะครอบครัวของเธอ
6. Hidden Figures
อย่าปล่อยให้ภาพลักษณ์ภายนอกหรือสีผิวเป็นตัวกำหนดชีวิตของคุณ ถ้าคุณเกิดมาพร้อมความสามารถอันโดดเด่น
เรื่องราวของสามสาวอัจฉริยะผู้สร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนในสังคม แคเธอรีน จี จอห์นสัน, โดโรธี วอห์น และแมรี แจ็คสัน กับการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีใครได้ยินเรื่องราวของเธอมาก่อน แม้ว่ากฎหมายจิมโครว์จะยังคงบ่อนทำลายความเท่าเทียมกันและสิทธิมนุษยชนในเวอร์จิเนีย แต่ศูนย์วิจัยแลงก์ลีย์ก็ว่าจ้างทีมงานหญิงที่เป็น "คอมพิวเตอร์มนุษย์" กลุ่มนี้ทั้งหมด โดยมีจำนวนหนึ่งเป็นครูคณิตศาสตร์ชาวแอฟริกันอเมริกัน พวกเธอยังคงถูกแบ่งแยก โดยเจ้าหน้าที่หญิงผิวดำจะต้องกินอาหารในพื้นที่เฉพาะของตัวเองและทำงานแยกออกไปในหน่วยเฉพาะที่มีชื่อว่าฝ่ายคำนวณฟากตะวันตก (West Computing) พวกเธอได้รับค่าจ้างน้อยกว่าเจ้าหน้าที่ผิวขาว ทว่าผลงานอันโดดเด่นก็ได้เป็นที่ประจักษ์ และสุดท้ายแล้วก็เป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้ชายในองค์กรเดียวกัน จนกระทั่งพวกเธอก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ในภารกิจอันท้าทายที่สุดเท่าที่เคยมีมา นั่นคือการนำจอห์น เกล็นน์ออกไปโคจรรอบโลก
7. Biri Gal
ถ้าเราตั้งใจและมีความพยายามมากพอ เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้!
หนึ่งในภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดีเยี่ยม โดยสร้างมาจากเรื่องจริงอันน่าทึ่งที่สะท้อนให้เห็นพลังอันยิ่งใหญ่ของความพยายามและการไม่ยอมแพ้ที่ทุกๆคนล้วนมีอยู่ในตัว แต่อาจขาดคนที่จะมาผลักดันให้มันเปล่งประกายออกมา
เรื่องราวของ ซายากะ สาวเฮี้ยวชั้นมัธยมปลายที่วันๆ สนใจแค่เรื่องเที่ยวสนุก โดยมีผลการเรียนในระดับที่ย่ำแย่ ชนิดที่แม้แต่การใช้คำง่ายๆในชีวิตประจำวันก็ยังใช้ผิดๆ กระทั่งเหตุการณ์ความนอกลู่นอกทางครั้งล่าสุดของเธอทำให้เธอถูกพักการเรียน ผู้เป็นแม่จึงเสนอให้เธอไปเรียนพิเศษในสถาบันแห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญของ ซายากะ จากเด็กสาวที่ห่วงแค่เรื่องไร้สาระ กับการมุมานะเอาชนะทุกอย่าง จนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศได้
8. Wonder
ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนติดอับดับ 1 New York Times Bestseller นานถึง 89 สัปดาห์ ผลงานการเขียนโดย อาร์ เจ ปาลาซิโอ้ ถ่ายทอดชีวิตของเด็กชายวัย 10 ขวบ อ๊อกกี้ พูลแมน ผู้เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางใบหน้า เขาต้องก้าวเข้าสู่ชีวิตในรั้วโรงเรียนจริงจังเป็นครั้งแรก ที่สำคัญคือจะต้องเอาชนะความกลัวของตัวเอง และต่อสู้กับสายตาของคนในโรงเรียน แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าโลกจะโหดร้ายแค่ไหน เขายังได้รับกำลังใจที่เข้มแข็งจากจากครอบครัว พร้อมทั้งมิตรภาพจากบรรดาเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ตัดสินเขาเพียงแค่ภายนอก ทำให้ อ๊อกกี้ เดินหน้าลุยเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิตอย่างสุดสตรอง ก่อนจะส่งต่อมาถึงหัวใจคนดูเพื่อฉุกคิดและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อผู้คนรอบข้าง
9. 42
"พระเจ้าสร้างคุณมาให้อดทน" และ แจ็กกี้ โรบินสัน เป็นตัวอย่างชั้นดีสำหรับคนที่อดทนต่อทุกเสียงเหยียดหยาม ทุกคำดูถูก ทุกสายตาที่จ้องมอเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด แต่เขาก็สามารถเอาชนะใจทุกคนได้ด้วยทักษะการเล่นกีฬาจนก้าวมาสู่จุดสูงสุดในอาชีพได้กับการเป็นนักเบสบอลอาชีพเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันระดับเมเจอร์ลีค
เรื่องราวมีฉากหลังเป็นปี 1945 เมื่อ แจ็กกี้ ตัดสินใจย้ายทีมจากลีคเบสบอลคนดำมาอยู่ทีมเบสบอลในเครือ Brooklyn Dodgers ก่อนจะย้ายมาอยู่ในทีมชุดใหญ่กับการแข่งในระดับเมเจอร์ลีค ท่ามกลางแรงกดดันมากมายจากคนในสังคมและบรรดาเพื่อนร่วมทีมเอง ก่อนที่เขาจะฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหมดเพื่อให้ทุกสายตามองข้ามสีผิวและเปลี่ยนมาเป็นเสียงเชียร์ในสนามจนได้
10. The Social Network
ผลงานโดยผู้กำกับเดวิด ฟินเชอร์ และมือเขียนบท แอรอน ซอร์กิน กับการล้วงลึกถึงช่วงเวลาที่ Facebook ปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในแวดวงสังคมแห่งศตวรรษใหม่ ถูกประดิษฐ์ขึ้น ผ่านทางมุมมองของกลุ่มเด็กหนุ่มผู้ฉลาดปราดเปรื่อง
โดยทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่เพิ่งเลิกรากับแฟนสาว มาร์คได้แฮ็คเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างเว็บไซต์รวบรวมดาต้าเบสของผู้หญิงทุกคนในมหาวิทยาลัย ก่อนจะจับคู่รูปสองรูปมาอยู่ข้างๆ กัน และให้ยูสเซอร์เลือกว่าใคร "ฮ็อตกว่ากัน" เขาตั้งชื่อเว็บไซต์นี้ว่า Facemash และมันก็กระจายตัวไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาระบบของฮาร์วาร์ดทั้งหมดพังครืนลงมา ก่อให้เกิดการถกเถียงกันทั่วมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับประเด็นที่ดูเหมือนจะแสดงถึงการเกลียดชังผู้หญิงของเว็บไซต์ และกล่าวหามาร์คว่า ในการสร้าง Facemash ของเขา เขาได้จงใจบุกรุกการรักษาความปลอดภัย ละเมิดลิขสิทธิ์และการเคารพในสิทธิส่วนบุคคล แต่จังหวะนั้นเองที่โครงสร้างสำคัญสำหรับ Facebook ได้ถือกำเนิดขึ้น ไม่นานหลังจากนั้น มาร์คก็ได้ก่อตั้งเว็บ thefacebook.com ซึ่งแพร่กระจายราวไฟลามทุ่งจากหน้าจอหนึ่งไปสู่อีกหน้าจอหนึ่งทั่วฮาร์วาร์ด ผ่านจากไอวี ลีกสู่ซิลิคอน วัลลีย์ ก่อนที่จะแพร่ไปทั่วโลก