20 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับทอม แฮงค์ส
นักแสดงเจ้าบทบาท วัย 61 ปี ที่เล่นมาแล้วทุกบททั้งดราม่า ตลก ผจญภัย ไซไฟ และมี 2 ออสการ์ดารานำชายยอดเยี่ยมเป็นการันตีถึงความสามารถทางการแสดง วันนี้ทอม แฮงค์สมีหนังเข้าใหม่ ที่เขากลับไปร่วมงานกับสตีเวน สปิลเบิร์ก ผู้กำกับคู่บุญที่เคยร่วมงานกันมาแล้ว 4 เรื่อง และในเรื่องที่ 5 นี้ The Post ทอม แฮงค์ส รับบทเป็น เบ็น แบรดลีย์ ตัวละครที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์วงการหนังสือพิมพ์ แม้ว่าบทเบ็น แบรดลีย์ จะไม่สามารถส่งทอม ไปถึงเวทีออสการ์ได้ แต่ก็ส่งให้เขาได้เข้าชิงในหลายเวทีรอง รวมถึงลูกโลกทองคำด้วย และเป็นบันทึกหน้าสำคัญในวงการฮอลลีวู้ด เพราะเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นการประชันบทบาทของ 2 ยอดฝีมือ ทอม แฮงค์ส 2 ออสการ์ ร่วมจอครั้งแรกกับ เมอรีล สตรีพ 3 ออสการ์และได้เข้าชิงออสการ์ดารานำหญิงยอดเยี่ยมจาก The Post อีกด้วย
วันนี้ผู้เขียนขอนำหลากเรื่องราวน่าทึ่งของยอดนักแสดงขวัญใจหลายคนผู้นี้มาฝากกันครับ เชื่อว่าหลาย ๆ เรื่องผู้อ่านน่าจะยังไม่เคยรู้มาก่อนเป็นแน่
1. เกิดและเติบโตในซานฟรานซิสโก เคยทำงานเป็นพนักงานยกกระเป๋าในสนามบินฮิลตัน ครั้งหนึ่งเขาเคยยกกระเป๋าให้แฌร์ด้วย
2. เขาเกี่ยวดองกับประธานาธิบดีถึง 3 คน เป็นหลานคนที่ 3 ของ อับราฮัม ลินคอล์น แม่ของอับราฮัม ลินคอล์น นามสกุลแฮงค์ส ก่อนแต่งงาน. อีกทั้งยังเป็นญาติห่างๆ ของเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ และ แฟรงคลิน ดี.รูสเวลต์ อีกด้วย
3. สร้างชื่อจากบทแต่งหญิง จากซิตคอมฮิต "Bosom Buddies" ปี 1980-1982 เดิมทีผู้สร้างตั้งใจให้เป็นเรื่องของผู้ชายธรรมดา แต่แล้วก็ผุดไอเดียเรื่องชายแต่งหญิง เลยนำไปเสนอผู้อำนวยการสร้าง แล้วได้ไฟเขียวอนุมัติสร้าง ออกมาเป็นเรื่องของคู่ซี้ที่มีเงินเพียงพอที่จะเช่าอพาร์ตเมนต์ถูกๆ ใกล้ที่ทำงาน และดันเป็นหอหญิง ทั้งคู่เลยต้องปลอมเป็นหญิงเพื่อเข้าพัก ซีรีส์ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นสร้างชื่อเสียงให้ทอม แฮงค์ส
4. หนังเรื่องแรกที่สร้างชื่อให้ทอม แฮงค์ส คือ Splash (1984) เป็นบทที่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ เหตุจากตัวเลือกแรกๆ เชฟวี่ เชส, ดัดลีย์ มัวร์, จอห์น ทราโวลต้า, ไมเคิล คีตัน ปฏิเสธบททั้งหมด
5. เป็นตัวอย่างของสามีที่ดี ที่หาได้ยากในวงการฮอลลีวู้ด ทอม แฮงค์ส แต่งงานกับ ริต้า วิลสัน ดาราร่วมแสดงในหนังคอมมีดี้ "Volunteers" (1985) ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อปี 1988 และในเดือนเมษายน 2018 นี้ ทั้งคู่จะฉลองแต่งงานกันครบ 30 ปี
6. "Sleepless In Seattle" หนึ่งในหนังคลาสสิกของทอม แฮงค์ส ที่เขาเกือบไม่ได้เล่น เพราะแฮงค์ส อ่านบทร่างแล้วปฏิเสธไป จนนอราห์ เอฟรอน กลับไปแก้ไขบทมา แฮงค์ส จึงตกลงยอมรับเล่น
7. เป็นเพื่อนสนิทกับบรู๊ซ สปริงทีน ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมายาวนาน และยังไปคว้าออสการ์ด้วยกันจากหนัง "Philadephia" ทอม แฮงค์ส คว้าออสการ์ดารานำชาย ส่วนบรู๊ซ สปริงทีนได้จากเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเมื่อเดือนเมษายน 2017 ทั้งคู่ยังได้รับเชิญจากอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ให้ลงเรือยอชต์ไปพักผ่อนด้วยกันที่เฟรนช์ โพลีนีเซีย
8. บททนายเกย์จาก Philadephia (1993) ที่ทอม แฮงค์ส คว้าออสการ์ไปนั้น เขาทุ่มเทด้วยการลดน้ำหนักถึง 15 กิโลกรัม
9. ขณะที่ทอม แฮงค์สขึ้นไปรับออสการ์จากบทเกย์ใน Philadephia เขากล่าวขอบคุณ รอว์ลีย์ ฟรานส์เวิรธ์ คุณครูสอนการแสดงของเขาตอนมัธยม เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้เกิดหนัง In & Out (1997) เมื่อลูกศิษย์กล่าวขอบคุณครูบนเวทีออสการ์ ทำให้ความลับของคุณครูแอบจิตโดนเปิดเผย แต่ในความเป็นจริงทอม แฮงค์ส โทรไปขออนุญาตครูก่อนที่จะกล่าวถึงบนเวทีออสการ์
10. เขาเป็นนักแสดงที่คว้าออสการ์ดารานำชายยอดเยี่ยม 2 ปีติดต่อกัน Philadephia (1993) และ Forrest Gump (1994) ก่อนหน้าทอม แฮงค์ส ก็มี สเปนเซอร์ เทรซี่ เพียงคนเดียวเท่านั้นในประวัติศาสตร์ออสการ์ที่คว้าออสการ์นำชายในปี 1938 และ 1939 ติดต่อกัน
11. ก่อนที่จะมาเป็นนักแสดง ทอม แฮงค์ส ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบินอวกาศมาตลอด แต่เขาไม่เก่งคณิตศาสตร์ แต่ในปี 1996 นาซ่าค้นพบดาวเคราะห์น้อยดวงใหม่ แล้วตั้งชื่อให้มันว่า "12818 tomhanks" เพื่อเป็นเกียรติให้กับบทบาทของแฮงค์สใน Apollo13 (1993)
12. จากบทบาทอันน่าประทับใจของแฮงค์สใน Saving Private Ryan (1998) ทำให้เขาได้รับรางวัล การรับใช้สาธารณะชนดีเด่นจากกองทัพเรือสหรัฐ และถูกบรรจุชื่อไว้ในหอเกียรติยศของกองทัพบกสหรัฐ นับเป็นนักแสดงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับเกียรตินี้
13. ทอม แฮงค์ส เป็นผู้ให้เสียงพากย์ วู้ดดี้ ใน Toy Story แต่ตุ๊กตาวู้ดดี้พูดได้ ที่วางขายตามร้านของเล่น กลับเป็นเสียงของ จิม แฮงค์ส พี่ชายของทอม แฮงค์ส
14. ตอนที่เล่นหนัง Castaway (2000) ทอม แฮงค์ส ต้องลดน้ำหนักอย่างเข้มงวด เขาเล่นคาดิโอวันละ 2 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 6 วัน แฮงค์สลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 24 กิโลกรัม เมื่อปี 2013 ทอม แฮงค์ส เผยว่าเขาตรวจพบว่าเป็นเบาหวานเหตุจากการลดน้ำหนักอย่างหักโหม และเขาจะไม่กลับไปทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว
15. ไม่เพียงแค่ลดน้ำหนัก เขาเพิ่มน้ำหนักก็ได้ ตอนที่รับบทผู้จัดการทีมเบสบอลหญิงจอมฉุนเฉียวใน "A League of their Own." ปี 1993 ผู้กำกับเพนนี มาร์แชล กำชับให้เขาเพิ่มน้ำหนักตัวให้มากถึง 13 กิโลกรัม ซึ่งทอม แฮงค์ส ก็เพิ่มน้ำหนักด้วยการกิน กิน และกินในร้านแดรี่ ควีน เป็นประจำ
16. ทอม แฮงค์สมีชีวิตครอบครัวที่เป็นสุข เขามีลูกแล้ว 4 คน 2 คนกับริต้า วิลสัน ภรรยาคนปัจจุบัน และ 2 คนจากภรรยาคนแรก ทอม รักษาความเป็นส่วนตัวในครอบครัวมาก ไม่เคยมีนักข่าวได้เข้าไปในบ้านของเขา แล้วไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพตัวเขาในที่สาธารณะ
17. เขาสะสมเครื่องพิมพ์ดีดเก่าได้มากกว่า 80 ตัว ก็เป็นรสนิยมที่แปลกกว่าคนอื่นเขา ทอม แฮงค์ส จะพิมพ์จดหมายด้วยเครื่องพิมพ์ดีดทุกวัน ด้วยความที่เป็นนักสะสมตัวยง เขาได้ไปปรากฏตัวในสารคดีเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ดีด "California Typewriter" ในปี 2017
18. เขาเป็นดาราที่ทำเงินสูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของฮอลลีวู้ด หนังทุกเรื่องที่เขาเล่นทำเงินรวมกันได้มากถึง 4,264 ล้านเหรียญ เฉลี่ยแต่ละเรื่องได้เท่ากับ 101.5 ล้านเหรียญ เป็นรองแค่เพียง แฮร์ริสัน ฟอร์ด, ซามูเอล แอล. แจ๊คสัน และ มอร์แกน ฟรีแมน
19. ในหนัง Big (1988) ทอม แฮงค์ส รับบทเป็น จอช บาสกิน เด็กชายวัย 12 ที่กลายเป็นผู้ใหญ่ฉับพลัน ทอม แฮงค์ส ต้องศึกษาบุคลิกลักษณะของเดวิด มอสโคว์ ดาราเด็กที่รับบทเป็น จอช ตอนเด็ก เพื่อจะสวมบทบาทต่อเป็น จอช เด็กวัย 12 ในร่างผู้ใหญ่
20. ข้อคิดจาก ทอม แฮงค์ส ให้ศึกษาความผิดพลาดในแต่ละวันของชีวิต คนทั่วไปก่อนนอนอาจจะคิดกับตัวเองว่า วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจังเลย แต่ทอม จะใคร่ครวญก่อนนอนว่า วันนี้เขาทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง?