10 หนังมนุษย์ย่อส่วน ในอดีตบนจอภาพยนตร์
พลอตหนังที่ว่าด้วยจับคนมาย่อส่วน หรือตัวละครหลักเป็นมนุษย์จิ๋วนั้นไม่ใช่เนื้อหาที่แปลกใหม่ แต่เคยถูกสร้างมาแล้วหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่ยุค 1957 นู่น และไม่ใช่เพียงแต่ในหนังฮอลลีวู้ดเท่านั้น จะว่าไปการที่เราตัวเล็กจิ๋วลงไป แล้วได้พบเห็นโลกจากสายตาที่เทียบเท่าแมลง ก็สามารถเปลี่ยนบ้านที่เราอยู่ทุกวันให้กลายเป็นโลกใหม่ที่ตื่นเต้นได้ แค่หมาแมว หรือมดสักตัวก็กลายเป็นสัตว์ร้ายที่คร่าชีวิตเราได้ เพียงแต่ว่าหนังแนวนี้จำต้องใช้ทุนในการสร้างสเปเชียลเอฟเฟกต์ค่อนข้างสูง วันนี้ฮอลลีวู้ดก็ออกหนังเรื่องใหม่มา Downsizing ที่ได้แมตต์ เดมอน มาเป็นพลเมืองยุคใหม่ที่อาสาเข้าโครงการย่อส่วน ตามนโยบายในการลดมลภาวะ และอัตราประชากรที่เพิ่มขึ้นจนล้นโลก ไอเดียหนังก็น่าสนใจดี แล้วก็นานแล้วด้วยที่เราไม่ได้ไปผจญภัยกับโลกคนตัวเล็กบนจอภาพยนตร์กัน ถ้าชอบหนังแนวนี้ผู้เขียนเอารายชื่อ 10 หนังมนุษย์ย่อส่วนในอดีตมาฝากกัน เผื่อจะไปหามาดูกันครับ
1. Honey, I Shrunk the Kids (1989)
ความยาว 94 นาที
ผู้กำกับ โจ จอห์นสตัน
นักแสดง ริค มอรานิส , แมตต์ ฟรีเวอร์ , มาร์เซีย สแตรสเมน
หนังปลอดพิษภัยแน่นอนเพราะปะยี่ห้อ วอล์ต ดิสนีย์ เล่าเรื่องของนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังคิดค้นเครื่องย่อร่างกายมนุษย์ แล้วก็บังเอิญไปย่อส่วนลูกชายลูกสาวตัวเอง และเพื่อนบ้านอีก 2 ราย ทั้ง 4 ถูกย่อส่วนเหลือตัวเท่าแมลง และต้องผจญภัยฝ่าอันตรายจากเหล่าแมลงในบ้าน ในสวน ในขณะเดียวกันคุณพ่อก็ตามหาลูกๆ ของตัวเองเพื่อนำมาคืนร่างขนาดเดิม
หนังเป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของ โจ จอห์นสตัน มือทำสเปเชียลเอฟเฟคต์ขาเก๋าของวงการ เขาเป็นคนออกแบบตัว"โยดา" และหนังแนวนี้ก็เหมาะกับโจ เพราะเน้นขายสเปเชี่ยลเอฟเฟคต์เป็นหลัก สำหรับวิทยาการสเปเชียลเอฟเฟคต์ในขณะนั้นก็ถือว่าออกมาไม่เลว ดูสนุก หนังประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และเสียงวิจารณ์ หนังได้ 75% จากเว็บไซต์ Rottentomatoes และทำรายได้แบบถล่มทลายมากด้วยตัวเลข 222 ล้าน จากทุนสร้างเพียง 18 ล้านเท่านั้น ทำให้เกิดภาคต่อ Honey I Blew Up the Kid (1992)
2. The Incredible Shrinking Man (1957)
ความยาว 81 นาที
ผู้กำกับ แจ็ค อาร์โนลด์
นักแสดง แกรนต์ วิลเลียมส์ , แรนดี้ สจวร์ต , เอพริล เคนต์
หนังไซไฟตั้งแต่ยังเป็นยุคหนังขาวดำ ดัดแปลงมาจากนิยาย "The Shrinking Man" ของริชาร์ด แมทธีสัน ที่ตามมาดัดแปลงนิยายของตัวเองมาเป็นบทภาพยนตร์ เรื่องราวของ สกอตต์ หนุ่มที่ออกไปล่องเรือพักผ่อนวันหยุด เขานอนอาบแดดและฉีดยากันแดดก่อนไปดำน้ำ แต่พลาดไปหยิบยาฆ่าแมลงประกอบกับกัมมันตภาพรังสี ทำให้สกอตต์ เริ่มย่อส่วนเหลือเพียงแค่ 6 นิ้ว เขาต้องอาศัยอยู่ในบ้านตุ๊กตา แต่ก็โดนแมวตัวเองพังบ้านไปเพื่อจะกินเขา สกอตต์จึงต้องหนีขึ้นไปบนหลังคาบ้านแล้วประตูทางออกหลังคาก็บังเอิญปิดอีก สกอตต์ต้องผจญภัยในบ้านตัวเอง ต้องเผชิญกับสารพัดสัตว์ร้ายเพื่อเอาชีวิตรอด
หนังได้คะแนนไป 90% จากเว็บไซต์ Rottentomatoes ทำรายได้ไป 1.43 ล้านเหรียญ ซึ่งหรูมากแล้วในสมัยนั้น ริชาร์ด แมทธีสัน ออกนิยายภาคต่อ แต่ก็ไม่ถูกนำมาสร้าง หนังถูกรีเมคอีกครั้งในปี 1981 แต่ดัดแปลงตัวละครให้เป็นหญิงสาวในชื่อ The Incredible Shrinking Woman (1981)
3. Alice in Wonderland (2010)
ความยาว 108 นาที
ผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน
นักแสดง มิอา วาสิคาวสกา , จอห์นนี่ เด็ปป์ , แอนน์ แฮทธาเวย์ , เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์
จากนิทานอมตะที่ทั่วโลกรู้จักดี ถูกสร้าางเป็นหนังทีวี หนังโรงมาแล้วหลายครั้ง และครั้งล่าสุดเป็นฝีมือของผู้กำกับสุดเซอร์ ทิม เบอร์ตัน ที่ได้ดาราขายชื่อมาร่วมงานเพียบ บวกกับจินตนาการสุดบรรเจิดที่ทำให้งานภาพมีสีสันดูสนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เรื่องของอลิซในวัย 19 ปีที่ได้กลับมาในดินแดนมหัศจรรย์อีกครั้ง ที่ในวันนี้ดินแดนมหัศจรรย์ตกอยู่ใต้การปกครองของเรดควีน และหนึ่งในการผจญภัยของอลิซคราวนี้เธอได้ดื่มน้ำยาวิเศษที่ขวดหนึ่งทำให้เธอย่อร่างเหลือตัวจิ๋วได้ และอีกขวดที่ขยายร่างให้เธอกลายเป็นยักษ์ ในหนังเล่นสนุกกับฉากย่อขยายร่างอลิซอยู่หลายครั้ง
แม้ว่า Alice in Wonderland จะเป็นผลงานของทิม เบอร์ตันที่ไม่ถูกใจนักวิจารณ์นัก แต่ทางด้านรายได้เรียกได้ว่าเกินคาด หนังกวาดเงินแบบถล่มทลายได้เงินไป 1,025 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 200 ล้านเหรียญ แล้วก็แปลกล่ะถ้ารายได้ขนาดนี้แล้วหนังจะไม่ทำภาค 2 ออกมา เว้นช่วงไป 6 ปี Alice Through the Looking Glass ก็ตามออกมาแต่ทิม เบอร์ตัน ไม่กลับมากำกับ รายได้หนังต่างจากภาคแรกลิบลับ ลาโรงไปที่ 299 ล้านเหรียญ
4. Honey, We Shrunk Ourselves (1997)
ความยาว 74 นาที
ผู้กำกับ ดีน คันดีย์
นักแสดง ริค มอรานิส , อีฟ กอร์ดอน , บั๊ก ฮอลล์
หนังภาคที่ 3 ของ Honey, I Shrunk the Kids (1989) เป็นหนังทุนต่ำที่ออกมาเป็นดีวีดีเท่านั้น รอบนี้เวย์น นักวิทยาศาสตร์และคุณพ่อนักประดิษฐ์ พลาดท่าโดนรังสีจากเครื่องย่อส่วนยิงใส่ตัวเองและเมีย แถมน้องเมียอีก 2 คนก็โดนไปด้วย รอบนี้ก็ถึงคราวทั้ง 4 ต้องผจญภัยในบ้านตัวเอง ต้องเอาชีวิตรอดจากเหล่าแมลงภายในบ้าน
หนังเว้นช่วงจากภาค 2 ไป 5 ปี มีเพียง ริค มอรานิส ดาราจาก 2 ภาคแรกคนเดียวเท่านั้นที่กลับมาในภาคนี้ และทุนสร้างก็เหลือเพียงแค่ 7 ล้านเหรียญ แน่นอนว่าหนังไม่เจ็บตัว แม้จะไม่เป็นที่ชื่นชอบจากนักวิจารณ์นัก และได้คะแนนในเว็บ Rottentomatoes ไปเพียง 25 % เท่านั้น แต่ในฐานะทีเป็นหนังพะยี่ห้อ วอลต์ ดิสนีย์ ก็มักไปได้ดีในตลาดดีวีดีที่ครอบครัวมักจะซื้อไปนั่งดูด้วยกัน
5. Innerspace (1987)
ความยาว 120 นาที
ผู้กำกับ โจ ดันเต้
นักแสดง เดนนิส เควด , มาร์ติน ชอร์ต , เม็ก ไรอั้น
อีกหนึ่งหนังไซไฟคลาสสิก ที่ได้พระเอกแถวหน้าในยุคนั้นมารับบทนำทั้งเดนนิส เควด และ เม็ก ไรอั้น , เดนนิส เควด รับบทเป็น ทัค นักบินขี้โอ่ที่อาสาเป็นหนูทดลองในโครงการนักบินย่อส่วนขับยานบินไปตามเส้นเลือดมนุษย์เพื่อใช้ในการรักษาโรคในอนาคต แล้วก็เกิดเหตุร้ายเมื่อมีโจรบุกมาในห้องแลบ และขโมยหลอดทดลองที่จะใช้ในการคืนร่างสู่ขนาดเดิมของทัคไป นักวิทยาศาสตร์โดนยิงตาย แต่ก่อนตายได้ฉีดทัคเข้าไปในร่างของแจ๊ค ผู้ป่วยรายนึง ปัญหาคือออกซิเจนในยานของทัคที่อยู่ในร่างของแจ๊ค กำลังจะหมดลง แจ๊ค จะต้องตามหลอดทดลองคืนมาจากโจรให้ได้ก่อนที่ทัคจะขาดอ๊อกซิเจนตาย
ตัวหนังได้รับความสนใจตั้งแต่ตอนประกาศสร้าง ดารานำชายแถวหน้าต่างเสนอตัวในบท ทัค แต่แล้วโผก็มาออกมาที่เดนนิส เควด และก็เป็นหนังดีในประวัติการแสดงของเขาจนทุกวันนี้ หนังได้รับเสียงตอบรับที่ดี ทั้งจากนักวิจารณ์และรายได้ รวมถึงบนเวทีแจกรางวัล หนังได้คะแนนจากเว็บ Rottentomatoes ไปถึง 82% และไปคว้าออสการ์รางวัลสเปเชียลเอฟเฟคต์ยอดเยี่ยมอีกด้วย หนังใช้ทุนสร้างไป 27 ล้านเหรียญ นับว่าสูงมากในวันนั้น
6. The Incredible Shrinking Woman (1981)
ความยาว 88 นาที
ผู้กำกับ โจเอล ชูมาเกอร์
นักแสดง ลิลลี่ ทอมลิน , ชาร์ล โกรแดง , เน็ด บีตตี้
หนังรีเมคจากเรื่อง The Incredible Shrinking Man (1957) แต่ดัดแปลงเรื่องราวให้ตัวเอกเป็นหญิงแทน แพตตี้ แม่บ้านลูกสอง สามีเธอเป็นผู้บริหารบริษัทโฆษณาที่หอบหิ้วเอาน้ำหอมตัวอย่างสินค้าของลูกค้ากลับบ้านมาด้วย แพตตี้เอาน้ำหอมมาฉีดซึ่งบังเอิญว่าน้ำหอมเกิดไปผสมกับสารเคมีตัวอื่นจากบริษัทมาก่อนหน้า ปฏิกิริยาทางเคมีทำให้แพตตี้เกิดย่อส่วนกลายเป็นสาวตัวจิ๋ว ซ้ำร้ายยังโดนนักวิทยาศาสตร์ตัวร้ายลักพาเธอไปเพื่อศึกษาหาตัวยาเคมีเพื่อจะมาทำการย่อส่วนคนทั้งโลก แพตตี้หนีออกจากห้องแลบมาได้ด้วยการช่วยเหลือของกอริลล่าอัจฉริยะ และหาทางคืนร่างเดิม เนื้อหาช่างดูเป็นการผจญภัยที่สนุกสนานมาก
หนังเป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของ โจเอล ชูมาเกอร์ ก่อนจะมาสร้างชื่อในช่วงปลายยุค 80s ตัวหนังไม่ถูกใจนักวิจารณ์เอามาก ๆ แต่ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มคนดูในตลาดโฮมวีดีโอ ทำให้มีการทำออกมาเป็นดีวีดีอีกครั้งในปี 2009
7. Fantastic Voyage (1966)
ความยาว 100 นาที
ผู้กำกับ ริชาร์ด ฟลีเชอร์
นักแสดง สตีเฟน บอยด์ , ราเควล เวลซ์ , เอ็ดมอนด์ โอ ไบรอัน
อีกหนึ่งเรื่องที่เล่าการผจญภัยในร่างมนุษย์ และน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนัง Innerspace ด้วย ดร.แจน บีนส์ นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญจากโซเวียต ขอลี้ภัยมาอเมริกา ด้วยความช่วยเหลือของ แกรนต์ เจ้าหน้าที่ซีไอเอ แต่แล้ว ดร.แจน ก็ถูกลอบสังหาร เขาไม่ตายแต่เกิดลิ่มเลือดคั่งในสมอง ทีมนักวิทยาศาสตร์ย่อส่วนตัวเองลงในยานจิ๋ว และเข้าไปทำลายลิ่มเลือดในสมอง ดร.แจน ความสนุกตื่นเต้นอยู่ที่พวกเขามีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แล้วก็จะคืนร่างเดิมโดยอัตโนมัติ
หนังได้คะแนนในเว็บ Rottentomatoes สูงถึง 93% ก็น่าชื่นชมสำหรับหนังไซไฟที่เทคโนโลยีทางด้านภาพยังจำกัดอยู่ในยุคนั้น หนังได้เสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ว่า "แม้ว่าเทคโนโลยีทางด้านภาพยังล้าหลังในยุคนั้น แต่ก็ยังถ่ายทอดจินตนการการผจญภัยในร่างมนุษย์ออกมาได้อย่างน่าติดตาม" แล้วหนังยังไปคว้าออสการ์มาได้อีก 2 ตัว สาขาสเปเชียลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม และ กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม ส่วนทางด้านรายได้นั้นหนังทำเงินไป 12 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 5 ล้านเหรียญ
8. The Borrowers (1997)
ความยาว 89 นาที
ผู้กำกับ ปีเตอร์ ฮิววิตต์
นักแสดง จอห์น กู๊ดแมน , จิม บรอดเบนต์ , มาร์ค วิลเลียมส์
หนังคอมมีดี้ขายชื่อจอห์น กู๊ดแมน หนังดัดแปลงมาจากนิยายสำหรับเด็ก เรื่องของครอบครัวตัวจิ๋วที่มีร่างกายสูงแค่ 4 นิ้ว พวกเขาอาศัยอยู่ภายใต้พื้นกระดานบ้านมานานแสนนาน แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าของบ้านก็ตาย ทนายของเจ้าบ้านก็วางแผนชั่วจะขายบ้านให้กับนายทุนให้ไปสร้างอพาร์ตเมนต์หรู ครอบครัวตัวจิ๋วเลยร่วมมือกับลูกชายเจ้าของบ้านหาทางปกป้องบ้านหลังนี้ไว้
หนังไปได้สวยทั้งด้านรายได้และเสียงวิจารณ์ หนังใช้ทุนสร้างไป 29 ล้านเหรียญ ทำเงินไป 54 ล้านเหรียญ ในเว็บไซต์ Rottentomatoes ก็ได้คะแนนสูงถึง 73% โรเจอร์ อีเบิร์ต นักวิจารณ์ชื่อดังชื่นชมว่า "สเปเชียลเอฟเฟกต์ของหนังทำให้หนังดูสนุกขึ้นมาก ดูอย่างกับ Toys Story เวอร์ชั่นคนแสดง"
9. The Secret World of Arrietty (2010)
ความยาว 94 นาที
ผู้กำกับ ฮิโรมาสะ โยนิบายาชิ
พากย์เสียง วิล อาร์เน็ต , เอมี่ โพห์เลอร์ , บริดจิต เมนด์เลอร์
หนังการ์ตูนจิบลิหนึ่งเดียวในรายชื่อนี้ ดัดแปลงมาจากนิยาย The Borrowers ในเรื่องก่อนหน้านี้ แต่เน้นไปที่ตัว อาริเอตี้ สาวน้อยตัวจิ๋ววัย 14 ปีที่อยู่กับครอบครัวที่แอบอยู่ในบ้านคน พวกเขาสร้างบ้านจากการขโมยของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากมนุษย์ พวกเขาอยู่กันอย่างมีความสุขมาโดยตลอด จนกระทั่งหนูน้อยมาเจอตัวอาริเอตี้เข้า
เป็นหนังการ์ตูนจิบลิอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จในทุกด้าน หนังทำเงินถล่มทลายทั้งในญี่ปุ่นเอง และรายได้รวมทั่วโลกที่ 145 ล้านเหรียญ ส่วนในอเมริกานั้นได้วอลต์ ดิสนีย์ ซื้อลิขสิทธิ์ไปจัดจำหน่าย หนังเข้าไปอยู่ในอันดับที่ 4 ของหนังการ์ตูนทำเงินสูงสุดตลอดกาล ทางด้านเสียงตอบรับ นักวิจารณ์ชื่นชมในเรื่องของงานภาพและเพลงประกอบ ในเว็บไซต์ Rottentomatoes หนังได้คะแนนสูงถึง 95 % ได้รางวัล อนิเมชั่นยอดเยี่ยมจากเวทีเจแปนอคาเดมี่ไพรซ์ หรือออสการ์ของญี่ปุ่น
10. Beetlejuice (1988)
ความยาว 94 นาที
ผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน
นักแสดง อเล็ก บอลด์วิน , ไมเคิล คีตัน , จีนา เดวิส
คู่ผัวเมียที่เพิ่งตายใหม่ ๆ พอใจที่จะสิงสู่อยู่ในบ้านเดิมของตน แต่แล้วก็ครอบครัวใหม่ย้ายเข้ามา ผีมือใหม่พยายามหลอกครอบครัวใหม่ให้กลัว แต่ครอบครัวนั้นกลับมองเป็นช่องทางทำกำไร เปิดบ้านตัวเองเป็นบ้านผีเก็บค่าตั๋ว ผีผัวเมียเลยไปขอร้องบีทเทิลจุ๊ยผีมากประสบการณ์จอมเจ้าเล่ห์ให้มาจัดการไล่คนออกจากบ้าน แต่ลึก ๆ แล้วบีทเทิลจุ๊ยมีแผนการร้ายกว่านั้นในการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
แม้ว่าหนังจะไม่ได้มีพลอตหลักที่เกี่ยวกับการย่อส่วนมนุษย์ แต่ฉากที่บีทเทิลจุ๊ยถูกหมอผีย่อหัวให้เล็กในท้ายเรื่อง ก็เป็นฉากฮาที่ถูกจดจำ Beetlejuice เป็นหนึ่งในหนังมาสเตอร์พีซของทิม เบอร์ตัน ที่ถูกยกขึ้นหิ้งมาตลอด หนังประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน หนังได้คะแนนใน Rottentomatoes สูงถึง 82 % คว้าออสการ์รางวัล แต่งหน้ายอดเยี่ยม ใช้ทุนสร้างไปเพียง 15 ล้านเหรียญ ทำเงินในสหรัฐไปถึง 73 ล้านเหรียญ ยังไม่รวมรายได้จากทั่วโลกอีกมหาศาล