4 ข้อคิดดีๆท่ามกลางความระทึกหลังการตายใน “Flatliners”
“Flatliners ขอตายวูบเดียว” เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง ผู้มีแรงจูงใจส่วนตัวที่เธอเก็บงำอย่างดี เกลี้ยกล่อมให้เพื่อนสี่คนของเธอร่วมมือกับเธอทำการทดลองสุดอันตราย นั่นคือเธอต้องการจะหยุดการเต้นของหัวใจเธอและสัมผัสความตายเป็นระยะเวลาสั้นๆ และสังเกตการเคลื่อนไหวของคลื่นสมองเพื่อทดลองว่าพวกเขาจะสามารถหาหลักฐานของชีวิตหลังความตายได้หรือไม่ จากนั้น เธอก็ต้องการให้เพื่อนๆ ดึงเธอกลับมาสู่การมีชีวิตอีกครั้ง นอกจากความระทึกและฉากการเดินทางสู่โลกหลังความตายที่น่าตื่นตาแล้ว “Flatliners” เวอร์ชั่น 2017 ก็ยังเป็นการยกระดับทั้งเรื่องของวิทยาศาสตร์และความจริงจังในแง่เนื้อหาที่เข้มข้นขึ้นกว่าเวอร์ชั่นปี 1990 พร้อมแทรกแง่มุมสะท้อนภาพชีวิตและสังคมในยุคปัจจุบันได้อย่างน่าสนใจและนี่คือข้อคิดดีๆบางส่วนที่ถูกสอดแทรกอยู่ภายในเรื่อง
1. ชีวิตช่วงวัยเรียนคือโลกของการแข่งขัน
ไม่ใช่โลกแห่งการทำงานเท่านั้นที่ต่างคนต่างต้องชิงดีชิงเด่นกันเพื่อความเป็นหนึ่งในองค์กรหรือไปสู่เป้าหมายที่ฝันเอาไว้ แต่โลกของการเรียนในช่วงชีวิตการเป็นนักเรียน นักศึกษาก็ดุเดือดไม่แพ้กัน เราจะพบว่าเหล่านักศึกษาแพทย์ทั้ง 5 ในการทดลองตายนั้น นอกจากความเป็นเพื่อนแล้ว พวกเขาต่างก็เป็นคู่แข่งกัน ซึ่งภาพที่เหล่าตัวละครท้าการหยุดหัวใจที่มีจำนวนนาทียาวนานขึ้นข่มกันก็เป็นภาพสะท้อนของการแข่งขันที่ชัดเจนโดยบางรายก็ยอมถึงขั้นยอมที่จะทำลายชีวิตคนอื่นที่เรียนดีกว่า ฉลาดกว่าและเป็นที่รักของคนอื่นมากกว่า จนตัดสินใจทำเรื่องเลวร้ายลงไป ซึ่งหากเรามองว่านี่คือการแข่งขันแล้ว ฉะนั้นก็ควรยอมรับความจริงที่ว่าย่อมมีคนแพ้ คนชนะ เป็นธรรมดา แม้เราจะแพ้ในวันนี้ แต่ถ้าพยายามและมุมานะมากพอ เราก็อาจกลับมาเป็นผู้ชนะในวันข้างหน้าได้ กระนั้นถ้าเราใช้อารมณ์ชั่ววูบในการจัดการเรื่องเหล่านี้ มันก็อาจไม่ใช่แค่การทำร้ายคนอื่นที่บริสุทธิ์ หากแต่จะยังเป็นการทำร้ายตัวเราเองไปพร้อมกันอีกด้วย
2. ทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาด
คอร์ทนีย์, เรย์, มาร์โล, เจมี และ โซเฟีย ล้วนเป็นตัวละครที่เคยทำผิดพลาดในอดีต บางรายจำความผิดพลาดไว้ไม่ลืมและได้แต่โทษตัวเอง บางรายพยายามลืมเรื่องร้ายเหล่านั้น และบางรายก็พยายามกลบความผิดไว้เพื่อไม่ให้หวนกลับมาทำลายชีวิตตัวเองในอนาคต มันอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในชีวิตจะมีสักครั้งที่เราทำพลาดลงไป แต่สิ่งที่ยากกว่าไม่ใช่เรื่องของการลืม แต่อยู่ที่การเผชิญหน้าและยอมรับว่าเรื่องเลวร้ายที่เราทำพลาดไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราต้องยอมรับมันให้ได้ รวมถึงกล้าที่จะสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปและรู้จักให้อภัยตนเอง
3. ผู้ฉลาดควรใช้วิชาความรู้ในทางที่ถูก
คนเราจะเป็นผู้คอยช่วยชีวิตผู้อื่นได้อย่างไร หากละทิ้งจรรยาบรรณแพทย์ ซึ่งประเด็นนี้ก็สะท้อนผ่านตัวละคร มาร์โล ได้อย่างน่าสนใจกับการพยายามกลบเรื่องเลวร้ายของตนเองเอาไว้ ถ้าคนเราจะเป็นหมอที่ดีจริงๆ มันไม่ใช่แค่การสวมเครื่องแบบสีขาว แต่ควรจะรวมถึงจิตสำนึกในการต้องการจะช่วยเหลือคนจริงๆจากภายในด้วย
4. สิ่งสำคัญคือการอยู่กับปัจจุบัน
การสูญเสียน้องสาวไปในอุบัติเหตุรถยนต์ของ คอร์ทนีย์ กลายเป็นแผลในใจของเธอที่ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่มีการจางหาย เธอยังคงรู้สึกผิดกับการเป็นต้นเหตุให้น้องสาวตายจากไป การจมอยู่กับความทุกข์ที่มากเกินไป นำเธอสู่การคิดทดลองค้นหาความลับของโลกหลังความตาย อันนำไปสู่เรื่องสยองเกินกว่าจะคาดคิด คอร์ทนีย์ อาจจะเป็นผู้ค้นพบเรื่องโลกหลังความตายที่น่าตื่นเต้น แต่สิ่งที่เธอรู้ช้าไปก็คือการจมอยู่กับอดีตไม่ได้ทำให้ชีวิตเธอมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น บางครั้งเรื่องราวร้ายๆก็เกิดขึ้น ความเจ็บปวดที่เกิดกับเราอาจไม่มีวันหาย แต่สิ่งที่เราทำได้คือยอมรับมัน ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันและก้าวต่อไป
พบกับความระทึกในการทดลองตายกับ “Flatliners – ขอตายวูบเดียว” วันนี้ในโรงภาพยนตร์ระบบปกติและ MX4D