Julianne Moore ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นนักแสดงยอดฝีมือที่เทียบเคียงได้กับ Jodie Foster ซึ่งเธอเล่นได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นดราม่าเข้มข้น (ของแน่อยู่แล้ว) สืบสวนสอบสวนเขย่าขวัญ (Hannibal)  สยองขวัญ (Carrie) หรือแม้แต่ Comedy (Evolution) และล่าสุดกับบทบทตัวร้ายน่ารักทรงเสน่ห์ Poppy จาก Kingman : The Golden Circle โดยเธอเป็นผู้ที่สั่งการลงมือทำลายสำนักงานทั่วโลกของ Kingsman ให้ไม่เหลือซาก และเป็นตัวร้ายที่หน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา และมีแผนการบางอย่างที่สะสั่นคลอนคนทั่วทั้งโลก ทำให้เหล่าสายลับผู้ดีอังกฤษต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่วมมือกับองค์กรสายลับพันธมิตรจากสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อว่า Statesman เพื่อขัดขวางแผนการร้ายขององค์กรใหม่ที่เกิดขึ้น นำแสดงโดยทารอน เอเจอร์ตัน, มาร์ก สตรอง, คอลิน เฟิร์ธ, เปโดร ปาสคาล, จูลีแอนน์ มัวร์, ฮัลลี เบอรี, เจฟฟ์ บริดเจส, แชนนิ่ง เททัม, เอ็ดเวิร์ด โฮลครอฟต์ ซึ่งเข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์  และเป็นการต้อนรับตัวร้ายใหม่จาก Kingman : The Golden Circle วันนี้ขอนำเสนอ 5 บทบาทที่ห้ามพลาดและควรหามาดูให้ได้ของ Julianne Moore

 

1. Still Alice

ภาพยนตร์ที่ส่งให้เธอชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และยังชนะและเข้าชิงอีกหลายเวที

เรื่องราวของ Alice Howland (Julianne Moore) ศาสตราจารย์สาขาวิชาภาษาศาสตร์ (linguistics) วัย 50 ปี แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งด้านวิชาชีพและครอบครัวที่แสนสุข โดยครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในย่าน Upper East Side แห่ง New York City ซึ่งเป็นย่านที่จัดว่าร่ำรวยอันดับต้นๆ ของโลก

Alice อาศัยอยู่กับสามีสุดหล่อและแสนดีของเธอ John Howland (Alec Baldwin จาก The Departed) ศาสตราจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ (หรือสาขาประสาทวิทยา สักอย่าง) แห่งมหาวิทยาลัยเดียวกัน มีลูกๆ ด้วยกันทั้งสิ้นสามคน ได้แก่ Anna Howland-Jones (Kate Bosworth จาก Superman Returns และ 21) ทนายสาวที่สวยเริ่ดและเพียบพร้อม, Tom Howland (Hunter Parrish จาก 17 Again) นักเรียนแพทย์หนุ่มหล่ออนาคตไกล, และแกะดำของบ้าน Lydia Howland (Kristen Stewart จาก Twilight และ Snow White and the Huntsman) ที่มีความฝันอยากไต่เต้าเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จใน LA

แต่แล้ววันนึง ชิ้นส่วนต่างๆ ในชีวิตที่แสนเพอร์เฟ็กต์ของ Alice ก็ค่อยๆ หล่นหาย เธอเริ่มลืมนั่นลืมนี่ หลงทางระหว่างวิ่งจ๊อกกิ้งในเส้นทางที่เธอคุ้นเคย และสอนอย่างเบลอๆ ในคลาสเลคเชอร์ของเธอ เธอจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ด้านประสาท และตรวจพบว่าเธอเป็นโรคอัลไซเมอร์ชนิดเกิดเร็วตามกรรมพันธ์ุ (early onset Alzheimer’s) ซึ่งเธอกำลังจะค่อยๆ สูญเสียความทรงจำและศักยภาพในการจำทั้งหมดในอีกไม่ช้า

 

2. Maps to the star

              หนังตีแผ่ความผิดเพี้ยนของคนในวงการฮอลลีวู๊ด ไม่ว่าจะเรื่องของแก่งแย่งชิงดี ปัญหาครอบครัว ยาเสพย์ติด และ เซ็กส์ ซึ่งส่งให้ Julianne Moore คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ไปได้

              เรื่องราวพูดถึงตัวละครกลุ่มหนึ่งในฮอลลีวู้ดที่เกี่ยวข้องกับวงการมายา ทั้งมีชื่อเสียง อยากมีชื่อเสียง และอยากกลับมามีชื่อเสียง ซึ่งตัวละครกลุ่มนี้ที่ส่วนใหญ่แล้วก็ดูไม่ค่อยปกติ ได้เข้ามามีความสัมพันธ์กันแบบอีรุงตุงนังจนเกิดเรื่องบ้าบอขึ้นมา
ตัวละครเหล่านี้ประกอบด้วยฮาวานา (จูลี่แอน มัวร์) นักแสดงรุ่นใหญ่ที่ตกกระป๋อง และฝันที่จะรีเมกหนังที่เคยทำให้แคลรีซ แม่ของเธอ กลายเป็นดาราดังในยุค 60, แซร่า เกดอน เป็นแคลรีซ แม่ของฮาวานาซึ่งตายไปแล้ว แต่ฮาวานายังเห็นแม่ของเธอในร่างที่ยังสาวยังสวยมาอยู่ด้วยกับเธอตลอด, ดร.สตาฟฟอร์ด (จอห์น คูแซ็ค) ไลฟ์โค้ชและจิตแพทย์ชื่อดังของฮอลลีวู้ดที่ใช้การนวดหลังเป็นวิธีบำบัดของฮาวานา และเป็นพ่อของเบนจี้ (เอแวน เบิร์ด) ดาราเด็กวัย 13 ที่ทำเงินมหาศาลตั้งแต่อายุน้อย และเป็นโรคเห็นภาพหลอน, คริสตานา (โอลิเวีย วิลเลียมส์) แม่ของเบนจี้ ที่ทั้งชีวิตมอบให้การทำหน้าที่เป็นผู้จัดการของลูกชาย, อกาธา (มีดา วาสิโกวสกา) พี่สาวของเบนจี้ที่เพิ่งออกจากสถานบำบัดทางจิตจากการเป็นโรคจิตชอบจุดไฟ และดร.สตาฟฟอร์ดพยายามที่จะกำจัดเธอออกไปจากครอบครัว และสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด เจอโรม (โรเบิร์ต แพททินสัน) คนขับรถลิมูซีนนิสัยง่ายๆ ที่กำลังหาช่องทางการเป็นนักแสดง

 

3. Boogie Nights

         ภาพยนตร์ที่ตีแผ่วงการหนัง X ได้อย่างแสบสันต์ โดย Julianne Moore แสดงเป็น Amber Waves ดาวโป๊ผู้ยิ่งใหญ่แต่เป็นแม่ที่ไม่เอาไหน

         หนังบอกเล่าเรื่องราวของวงการหนังโป๊ของอเมริกาใน ช่วงปี 1977 – 1984 จากยุครุ่งเรืองสุดขีด จนถึงยุคต่ำสุด จากร่ำรวยเงินทอง จนต้องขายบริการแลกเศษเงิน Mark Wahlberg รับบท Eddie Adams ชายหนุ่มที่มาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่มีปัญหากับครอบครัวและหาทางแยกตัว เองออกมาจากครอบครัวที่มีปัญหานั้น เขาภูมิใจกับสิ่งที่พ่อให้มาของเขาและคิดอยู่เสมอว่า ทุก ๆ คน ก็มีของดีอยู่ในตัวซึ่งรวมด้วยเช่นกันในครึ่งแรกหนังเรา เราได้เห็นแต่สิ่งดี ๆ ของวงการนี้ ภาพของการมีความสุข การมีปาร์ตี้เป็นประจำ เหล่าความสุขของคนในวงการ และ หนังเริ่มเข้าสู่ยุคตกต่ำและดำทะมึน เมื่องานวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทีมงานคนหนึ่งของ Jack ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองลงที่บ้านของ Jack ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงาน ซึ่งเกิดจากความเศร้าสร้อยและความอับอายที่ทีต่อตัวภรรยาตนเองที่มี Sex กับผู้ชายไม่เลือกหน้า ในหลายปีที่ติดต่อกัน … ครึ้งหลังของหนัง บนจอขึ้นตัวหนังสือว่า '80 ไม่ได้ขึ้นเป็นชื่อปีเหมือนที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งอาจจะหมายถึงสิ่งใหม่ ๆ การเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาก็เป็นไปได้ (ตามความคิดผม) หนังยังเล่าถึงความรุ่งโรจน์ในอาชีพการแสดงของ Eddie และคู่หู ในขณะที่บางคนมีความฝันและพยายามไล่ตามความฝันของตัวเองให้เป็นจริงและอยาก หลุดพ้นจากวังวนของหนังโป๊…และบางคนได้รับผลกระทบจากอาชีพนักแสดงหนังโป๊ อย่างจังจากสังคม จนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้…บางคนไปยุ่งกับเด็กจนถึงกับต้องจบชีวิตตัวเองใน ห้องขังในเรื่องเราจะ ได้เห็นการดำเนินชีวิตที่ปกติและไม่ปกติของหลายตัวละคร ความฝันกับความจริง การกระทำและผลของการกระทำ

 

4. The Hours

ภาพยนตร์ที่ส่งให้เธอเข้าชิงออสการ์สาขาสมทบหญิงยอดเยี่ยม

             ภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายรางวัลพูลิตเซอร์ของ ไมเคิล คันนิ่งแฮม โดยใช้ตัวละครอย่าง Mrs. Dalloway ตัวละครในนิยายสุดคลาสสิกของ เวอร์จิเนีย วูล์ฟ เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวที่เชื่อมต่อช่วงเวลา 3 แห่งที่แตกต่างกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าภาพชีวิตของผู้หญิง 3 คน ที่มีความหดหู่ ปวดร้าว และไขว่คว้าหาความรัก บทบาทใหม่ของ นิโคล คิดแมน ผู้รับบท เวอร์จิเนีย วูล์ฟ นักเขียนที่ฝังลึกกับความปวดร้าวในใจและฆ่าตัวตายในปี 1941 ภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้นในวังวนแห่งความเป็นความตาย เธอระลึกถึงความหลัง ช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ และตัวละครในนิยายสุดคลาสสิกอย่าง คาร์ริสซา ดัลโลเวย์ ในช่วงปี 1923 ในทศวรรษที่ 1950 ลอร์ร่า บราวน์ (จูลี่แอนน์ มัวร์) แม่บ้านสาวชานเมืองแคลิฟอร์เนีย ผู้ปวดร้าวจากชีวิตคู่ เธอมีภาระที่ต้องดูแลลูกชายและสามีที่เธอไม่ได้รักเขา ในวันๆ หนึ่งขณะที่เธอพยายามที่จะเตรียมจัดงานวันเกิดให้แก่สามีของเธออยู่ เธอกลับรู้สึกว่าเธอต้องการที่จะอ่านหนังสือ Mrs. Dalloway มากกว่า ในแมนฮัตตันยุคปัจจุบัน คลาริสซ่า วอแกน (เมอรีล สตรีพ) เลสเบี้ยนสาวที่อาศัยอยู่กับคนรักของเธอ (อลิสัน แจนนีย์ ) และลูกสาว (แคลร์ เดนส์) กำลังจัดปาร์ตี้ให้กับสาวเก่า (เอ็ด แฮร์ริส) ผู้ติดเชื้อเอดส์ ผลงานภาพยนตร์โดย สตีเฟ่น ดัลดรี ผู้กำกับคนดังจากภาพยนตร์เรื่อง Billy Elliot ดัลดรีเลือกใช้ความเหลื่อมล้ำแห่งช่วงเวลามาซ้อนต่อกันได้อย่างงดงาม

 

5. Evolution

              แหวกจากดราม่ามาตลกกันบ้าง กับอีกบทบาทหนึ่งที่เล่นไว้ได้ฮาแบบเข้าขากับนักแสดงทั้งทีมในการต่อกรกับบรรดาเอเลี่ยน!

           เกิดเหตุสะเก็ดดาวตกพุ่งเข้าชนโลก กลางทะเลทรายอาริโซน่า ภายในสะเก็ดดาวตกนั้น ได้นำเอาสิ่งมีชีวิตต่างดาวเข้ามาด้วย เจ้าเอเลี่ยนต่างดาวนี้เชื่อว่า ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่มีชีวิตอยู่รอดต่อไป ด็อกเตอร์ไอร่า เคน (เดวิด ดูคอฟนี่) อดีตนักวิทยาศาสตร์หนุ่ม ผู้เคยทำงานให้รัฐบาลสหรัฐฯ แต่อาชีพการงานในปัจจุบันกลับตกต่ำ จนต้องกลายมาเป็นอาจารย์ ในวิทยาลัยประจำท้องถิ่น เกลน แคนยอน มลรัฐอาริโซน่า เป็นบุคคลแรกที่ค้นพบว่า มีสายพันธุ์ต่างดาวแฝงตัวมากับสะเก็ดดาวตกที่พุ่งชนโลก และก็เป็นบุคคลแรกที่เข้าใจว่า จะเกิดอะไรขึ้นตามมา หลังจากที่สิ่งมีชีวิตต่างดาว วิวัฒนาการตัวเองไปอย่างรวดเร็ว ไอร่าและ แฮร์รี่ บล็อค (ออร์แลนโด้ โจนส์) เพื่อนอาจารย์ในวิทยาลัย พร้อมด้วย เวย์น (ฌอนน์ วิลเลี่ยม สก๊อตต์) นักผจญเพลิงฝึกหัด ที่อยู่ใกล้กับจุดที่สะเก็ดดาวตก เมื่อตอนพุ่งเข้าชน พยายามช่วยกู้โลกจากวิกฤติอันตราย ด้วยวิธีการของพวกเขาเอง แต่พวกเขากลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ไม่นานหลังจากที่สะเก็ดดาวตกพุ่งชนโลก รัฐบาลก็ส่ง อัล ลิสัน (จูเลี่ยนน์ มัวร์) เจ้าหน้าที่สาวสวย จากกองควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ CDC (Centers for Disease Control and Prevention) เข้ามาควบคุมสถานการณ์ อัลลิสันค่อนข้างจะเฉยชาต่อไอร่า เนื่องจากประวัติการทำงานในอดีตอันด่างพร้อยของเขา แต่หลังจากที่เธอรู้ว่า อนาคตของมนุษย์ใกล้ถึงกาลอวสาน พวกเขาทั้งหมด จึงหันมาร่วมแรงร่วมใจ ต่อสู้กับศัตรูต่างดาว