5 เรื่อง 5 บทบาทหลากอารมณ์ของ "โคลิน เฟิร์ธ" ที่ควรค่าหามาชม
หลายคนเมื่อได้ดู Kingsman: The Secret Service ภาคแรกที่ปังสุดเปรี้ยงไปแล้ว คงจะบอกได้ไม่ผิดว่าตัวละครที่ถูกพูดถึงและคนดูชื่นชอบมากที่สุดบทบาทหนึ่งก็คน เอเจนต์ กาลาฮัท หรือ แฮร์รี่ ฮาร์ท ที่แสดงโดย โคลิน เฟิร์ธ ซึ่งนำภาพสองสายลับวายกลางคนที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ของผู้ดีอังกฤษ ไม่ว่าจะบุคลิกลักษณะที่เป็นสุภาพบุรุษแบบทุกกระเบียดนิ้ว การแต่งกายเป๊ะตั้งแต่ปลายเท้ายันทรงผม กริยา มารยาทคำพูดจาที่อ่อนโยน อบอุ่น และฝีมือที่สุดยอดในหลายๆ ด้าน ซึ่งทำให้คนดูหลงรักได้ไม่ยากเลย โดยเขาต้องมาเป็นพี่เลี้ยงของตัวเอก เอ็กซี่ สายลับฝึกหัด และสำหรับภาคนี้ Kingman : The Golden Circle ภาคต่อที่เล่าเรื่องจากภาคแรก เมื่อสำนักงานใหญ่ Kingsman ถูกทำลายลง เหล่าสายลับ Kingsman ที่รอดชีวิตต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่วมมือกับองค์กรสายลับพันธมิตรจากสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อว่า Stateman เพื่อขัดขวางแผนการร้ายขององค์กรใหม่ที่เกิดขึ้น นำแสดงโดยทารอน เอเจอร์ตัน, มาร์ก สตรอง, โคลิน เฟิร์ธ, เปโดร ปาสคาล, จูลีแอนน์ มัวร์, ฮัลลี เบอรี, เจฟฟ์ บริดเจส, แชนนิ่ง เททัม, เอ็ดเวิร์ด โฮลครอฟต์ ซึ่งเข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ และอยากบอกว่าที่จริงแล้วนอกจากบทบาทสุภาพบุรุษสุดเสน่ห์จากเรื่องนี้ โคลิน เฟิร์ธ นั้นมีฝีมือการแสดงที่ไม่ธรรมดา ในหลากบทบาทที่บางบทนั้นได้ส่งเข้าให้เข้าชิงออสการ์ และบางบทก็ได้รางวัลมานอนกอด จะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้เราขอแนะนำหนัง 5 เรื่อง 5 บทบาทหลากอารมณ์ของ โคลิน เฟิร์ธ ที่ควรค่าหามาชม
1. Magic in the Moonlight
ผลงานองผู้กำกับ วู้ดดี้ อัลเลน กับภาพยนตร์รักโรแมนติกเปี่ยมอารมณ์ขัน ที่โคลิน เฟิร์ธ ได้จับคู่กับ เอ็มม่า สโตน เรื่องราวของหนุ่มชาวอังกฤษ สแตนลี่ย์ (โคลิน เฟิร์ธ) ที่มีอาชีพเป็นนักมายากล แต่เขาก็ยังมีอีกหนึ่งอาชีพก็คือการเปิดโปงนักต้มตุ๋น เขาได้รับคำขอร้องจากเพื่อนให้เดินทางไปที่คฤหาสน์หรูในเมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เพื่อเปิดโปง โซฟี (เอ็มม่า สโตน) ผู้หญิงอเมริกันที่อ้างว่าสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ สแตนลี่ย์ เข้าไปตีสนิทกับเธอโดยหวังว่าจะจับพิรุธได้แบบคาหนังคาเขา แต่ยิ่งเขาได้รู้จักเธอมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเชื่อในสิ่งที่เธอกล่าวอ้าง และยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าเขากำลังตกหลุมรักเธอซะด้วย!
2. A Single Man
ผลงานกำกับเรื่องแรกของ Tom Ford ดีไซเนอร์ชื่อดังจาก Gucci ที่กระแสในตอนแรกนั้นบรรดานักวิจารณ์โหมกระหน่ำดูถูกว่าจะเป็นแค่ ‘หนังของคนดังที่อยากลองทำหนัง’ แต่หลังจากฉายที่เทศกาลเวนิซ หนังก็ได้เสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม และกลายเป็นหนังที่คนดูรอคอยที่สุดเรื่องหนึ่ง
หนังสร้างนิยายชื่อเดียวกันของ Christopher Isherwood ในปี 1964 ซึ่งได้รับขนานนามว่าเป็นนิยายที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิเกย์ เรื่องราวเกี่ยวกับ จอร์จ (Colin Firth) อาจารย์มหาวิทยาลัยเพิ่งสูญเสียคู่รักหนุ่ม (Matthew Goode) ไป หนังถ่ายทอดหนึ่งวันอันทรมานและเจ็บปวดของชายผู้นี้ ส่วน Julianne Moore รับบทเพื่อนสาวคนสนิทของจอร์จ นอกจากนั้นยังมี Nicholas Hoult รับบทลูกศิษย์ของพระเอก
เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่หลายสำนักยกว่าเป็นบทที่ดีที่สุดในชีวิตของ Colin Firth เขาได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังที่เวนิซ และถูกเสนอชื่อเข้าชิงนำรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์
3. Gambit
หนังโจรกรรมจากมันสมองของ อีธาน โคเอน และ โจเอล โคเอน สองผู้กำกับที่มีผลงานขึ้นหิ้งอย่าง No Country for Old Men, Fargo, True Grit และคว้ามาแล้วถึง 8 รางวัลออสการ์ นำแสดงโดย โคลิน เฟิร์ธ และ คาเมรอน ดิแอซ
Gambit เป็นเรื่องราวของ แฮรรี่ ดีน (โคลิน เฟิร์ธ) ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สุดรันทดที่วางแผนแก้แค้น ไลโอเนล (อลัน ริคแมน) เจ้านายและผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดในสหราชอาณาจักร ด้วยการขายภาพวาดปลอมของ โมเน่ต์ ให้กับ ไลโอเนล แต่เขาก็ต้องพึ่งหมากตัวสำคัญอย่าง พีเจ (คาเมรอน ดิแอซ) สาวลูกทุ่งสุดเฮ้วจากเท็กซัสที่ต้องปลอมตัวเป็นเหลนของคุณยายที่พบรูปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ สอง อย่างไรก็ตามแผนที่ แฮร์รี่ วางเอาไว้ก็เริ่มไม่เป็นตามที่คาด เมื่อเรื่องส่วนตัวกลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญ และ พีเจ ไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์อย่างที่เขาคิดเอาไว้… การต่อสู้ชิงไหวชิงพริบ สุดท้ายแล้วเงินจะอยู่กับใคร? รูปโมเน่ต์ของจริงอยู่ที่ไหน? และใครจะสมหวังในตอนสุดท้าย
4. The King's Speech
ผลงานที่ทำให้ Colin Firth ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาครอง The King's Speech คือภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของพระเจ้าจอร์จที่ 6 โดยการเขียนบทของเดวิท ไซด์เลอร์ และกำกับโดยทอม ฮูเพอร์ ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์จอร์จที่ 5 (ไมเคิล แกมบอน) ผู้เป็นพระบิดา พร้อมกับการสละโอกาสครองราชย์บัลลังก์ของเจ้าชายเอ๊ดเวิร์ด (กาย เพียร์ซ) ส่งผลให้เบอร์ตี (โคลิน เฟริร์ธ) ผู้มีปัญหาทางการพูดติดอ่าง ต้องขึ้นครองราชย์แทนในนามพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ด้วยเหตุที่ประเทศตกอยู่ในสถานการณ์จวนเจียนเข้าสู่สงครามและจำเป็นต้องมีผู้นำที่เข้มแข็ง เอลิซาเบ็ธ (เฮเลนน่า บอนแฮม คาร์เตอร์) ภรรยาของเบอร์ตี และอนาคตราชินี จึงจัดแจงให้สามีของเธอได้พบกับไลโอเนล ล็อก (เจฟฟรีย์ รัช) ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคผิดปกติทางการพูด
จากการเริ่มต้นที่แสนลำบาก ผู้รักษาและผู้รับการรักษาต่างร่วมกันแสวงหาวิธีบำบัดใหม่ ๆ ซึ่งก่อกำเนิดมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างชายทั้งคู่ ด้วยความช่วยเหลือของล็อก รวมทั้งครอบครัว, รัฐบาล และวินสตัน เชอร์ชิลล์ (ทิโมธี สปอลล์) กษัตริย์จอร์จที่ 6 จะต้องเอาชนะอาการพูดติดอ่างให้ได้ เพื่อกล่าวปลุกปลอบพสกนิกรของพระองค์ให้ลุกขึ้นยืนหยัดเคียงข้างประเทศชาติในภาวะสงคราม
5. Bridget Jones's Diary
ภาพยนตร์ที่โดนใจสาว ๆ วัยใกล้ขึ้นคานทองและทำให้นักแสดงนำทั้งสอง คือ โคลิน เฟิร์ธ และ ฮิวจ์ แกรนท์ ได้รับการกรี๊ดกร๊าดจากสาวน้อยสาวใหญ่ด้วยบทบาทของชายหนุ่มเปี่ยทเสน่ห์
เรื่องราวเกี่ยวกับสาวโสดอายุประมาณ 30 ต้น ๆ นามว่า บริดเจ็ท โจนส์ (เรเน่ เซลวีเกอร์) หลังจากที่เจอชายแสนดีเพอร์เฟ็คที่สุดในโลกจนได้ ซึ่งหาเป็นใครอื่นนอกจากทนายความหนุ่มสุดเท่ มาร์ค ดาร์ซี่ (โคลิน เฟิร์ธ) เธอก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคใหม่ที่ยากและโหดร้าย นั่นคือ.. การครองรักให้ได้นานที่สุด แต่เมื่อเธอได้พบกับแขกไม่ได้รับเชิญ ซึ่งเป็นกิ๊กเก่าผู้เนื้อหอม แดเนียล คลีฟเสอร์ (ฮิวจ์ แกรนท์) บริดเจ็ทต้องเข้าไปพัวพันกับความรักอันสุดชุลมุนวุ่นวาย ที่ผสมด้วยคำแนะนำที่ไม่ได้เรื่อง การเข้าใจผิด และความโชคร้ายอื่น ๆ อีกมากมายที่จะเกิดขึ้นเฉพาะกับเธอเท่านั้น จากสถานการณ์ที่ชวนให้เขินและกระอักกระอ่วนได้สุดยอด