5 บทบาทปล่อยของสายดราม่า ของ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์

Movie News22 กันยายน 2560

         วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับหวานใจแห่งอเมริกา (America's Sweetheart) ที่โด่งดังข้ามฟ้าไปแล้วอย่างเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ นักแสดงสาวเจ้าบทบาท ที่แจ้งเกิดในหนังสายรางวัล แต่ไปปังสุดกับบท แคทนิส เอเวอร์ดีน จาดแฟรนไชส์ The Hunger Games และล่าสุดกับบทบาทที่กำลังเป็นที่กล่าวขาน กับบทบาทของภรรยาสาวของนักกวีหนุ่ม (ฮาร์เวียร์ บาร์เด็ม) จากเรื่อง Mother! หนังดราม่าทริลเลอร์ที่เป็นกระแสชวนถกประเด็นหลังหนังจบมากกที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยมีมา หนังจของ ดาร์เรน อะโรนอฟสกี้ ผู้กำกับสุดอินดี้ที่ชอบพาสำรวจความดาร์กของจิตใจตัวละครเช่น Requiem For A Dream, Black Swan

         Mother! เรื่องราวของสามีที่เป็นนักเขียนบทกวีที่กำลังเขียนผลงานชิ้นใหม่ โดยมีภรรยาสาวสวยสุดที่รัก (เจนนิเฟอร์ ลอวเรนซ์) คอยเคียงข้างและอยู่บ้านกลางทุ่งอันแสนสงบ แต่วันหนึ่งก็มีแขกไม่ได้รับเชิญมาเคาะประตูบ้าน คนแรกคือหมอ (เอ็ด แฮร์ริส) และตามมาไม่นานด้วยภรรยาของหมอ (มิเชลล์ ไฟเฟอร์)  ที่หลังจากนั้นจะทำให้ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
 
           สิ่งที่ทำให้กล่าวขานไม่แพ้ตัวหนังเลยก็คือบทบาทการแสดงของเจน ลอว์ ที่เรื่องนี้เธอแสดงไปยอดเยี่ยมจนหลายสำนักเชียร์ให้เธอได้เข้าชิงออสการ์อีกครั้ง กับบทบาทของภรรยาผู้ใสซื่อ ไร้เดียงสา ที่กำลังถูกบีบขั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทำให้เธอจนมุม อารมณ์ที่ไต่ระดับและระเบิดพลังขั้นสุด ซึ่งเธอแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างไร้ที่ติ แบบสามารถสลัดคราบเดิม ๆ ที่คนเคยชินกับเธอจากบทแคทนิสไปได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพแลฝีมือด้านการแสดงของเธออย่างแท้จริง

     วันนี้จึงขอนำเสนอ 5 บทบาทสายดราม่าของเจน ลอว์ ที่เล่นไว้ได้ปังและดีที่สุด จะเป็นเรื่องอะไรนั้น ไปดูกันเลย อ๊ะแต่ช้าก่อน ถ้าใครไม่อยากพลาดบทบาทอันสุดเข้มข้นนี้ ห้ามพลาดกับ Mother! วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

1. Winter's Bone (2010)



            หนังแจ้งเกิดในวงการของเจน ลอว์ ที่ปังจนถึงขนาดเข้าไปชิงบทนำหญิงในเวทีออสการ์ตั้งแต่อายุยังน้อย รื่องราวเกี่ยวกับ Ree Dolly (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ จาก The Burning Plain) สาวน้อยใจเด็ดวัย 17 ขวบที่ต้องรับหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว (จำเป็น) แทนพ่อที่จู่ๆ ก็หายไปไหนก็ไม่รู้ โดยทิ้งให้เธอต้องดูแลน้องที่ยังเล็กสองคนและแม่ที่ป่วยจนดูแลตนเองไม่ได้ ไปตามยถากรรม ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเลย เพราะธรรมดาครอบครัวเธอก็เข้าขั้นยากจนอยู่แล้ว ขนาดที่ว่าบ่อยครั้งที่เธอต้องไปหายิงกระรอกมากินประทังชีวิตเลยล่ะ แล้วงานยังมาเข้าอีกเมื่ออยู่ๆ ก็มีคนมาแจ้งว่าบ้านของเธอ กำลังจะต้องถูกยึดในอีกหนึ่งสัปดาห์ เพราะพ่อของเธอที่กำลังมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลได้เอาบ้านไปค้ำประกันไว้ ก่อนที่จะหนีประกันไป ในขณะที่คนรอบข้างดูเหมือนว่าจะช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย เธอจึงต้องลุกขึ้นมาทำทุกอย่างด้วยตนเองเพื่อตามหาพ่อให้เจอ ก่อนที่บ้านซึ่งเป็นทุกอย่างที่ครอบครัวเธอมี จะต้องถูกยึดไปในที่สุด

 

2. The Hunger Games (2012)



           บทบาทที่ส่งให้เธอดังข้ามโลกในชั่วข้ามคืน กับบทของ แคทนิส เอเวอร์ดีน ที่แม้ตอนแรกจะมีคนค่อนขอดเยอะตั้งแต่ตอนแคสแต่เพื่อภาพยนตร์เข้าฉาย ฝีมือของเธอก็ได้เป็นที่ประจักษ์แต่สายตาชาวโลกจนประสบความสำเร็จอย่างสูง จนกลายเป็นขวัญใจอเมริกา และปิดฉากได้อย่างสวยงามในภาคที่ 4 ซึ่งเป็นภาคสุดท้าย

           เป็นหนังที่สร้างจากนิยายของ Suzanne Collins เกี่ยวกับโลกในยุค Dystopia (หลังล่มสลาย) ในอนาคตสงครามทำให้โลกกลายเป็นยุคมืดอีกครั้ง ทั้ง 12 เขตตกอยู่ภายใต้การปกครองของ แคปิตอล ที่กำหนดให้ทั้ง 12 เขตจะต้องส่งเด็กผู้หญิงหนึ่งและเด็กผู้ชายหนึ่ง เข้าร่วม Hunger Games ที่มีกฏง่ายๆคือให้เด็กทั้ง 24 คนต่อสู้กันต่อหน้าทีวีจนเหลือผู้รอดเพียงคนเดียวทุกปี เมื่อน้องสาวของ แคทนิส เอเวอร์ดีน (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) จากเขต 12 กลายเป็นผู้โชคร้ายคนล่าสุด เธอไม่มีทางเลือกนอกจากเสนอตัวเองแทน และต้องเดินทางไปเข้าร่วมเกมกับ พีตา เมลลาร์ก (จอช ฮัทเชอร์สัน) ตัวแทนจากเขตอีกคน โดยมี เกล (เลียม เฮมส์เวิร์ธ) เพื่อนสนิทของ แคทนิส ที่พยายามช่วยเธอจากเกมมรณะนี้... แคตนิส ต้องเลือกระหว่างมนุษยธรรมหรือการเอาตัวรอด ชีวิตหรือความรัก จุดมุ่งหมายเดียวก็คือการเอาชนะเกมล่าชีวิตเพื่อกลับบ้าน

 

3. Silver Linings Playbook (2012)



            บทบาทที่ส่งเธอให้ได้รางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม Silver Linings Playbook เป็นหนัง Romantic Comedy ที่ดูแล้วอิ่มมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เล่าถึงชีวิตหลังออกจากสถานบำบัดของ แพท ผู้ชายที่มีความเชื่อในความรักแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ก็ประสบความล้มเหลวอย่างหนักในชีวิตด้วยอาการทางจิต เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองมากมาย และตั้งใจที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นรอวันที่เขาจะได้กลับมารักกับ นิกกี้ ภรรยาที่ตอนนี้ต้องแยกกันอยู่ เขากลับมาที่บ้านและต้องเริ่มฟืื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขาเองกับเพื่อนเก่า, แม่, พี่ชาย และพ่อของเขา ที่ดูเหมือนว่า มีเพียงอเมริกันฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะเป็นกาวเชื่อมใจระหว่างเขา พ่อ และครอบครัวทั้งหมดได้

            วันหนึ่ง แพท ได้รู้จักกับ ทิฟฟานี่ (ลอวเรนซ์) น้องสาวของเมียเพื่อนรักของเขาที่เพิ่งเสียสามีของเธอไป เธอเองก็ต้องได้รับการบำบัดจากจิตแพทย์ไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนพัฒนาผ่านการวิ่งไปรอบเมืองโดยที่ไม่พูดกันซักคำ และเมื่อ ทิฟฟานี่ ยินดีที่จะเป็นแม่สื่อ ฝ่ากำแพงกฎหมายนำพาข้อความของเขาส่งให้กับ นิกกี้ เขาก็ยินดีที่จะเป็นคู่เต้นของเธอเพื่อเข้าแข่งขันการเต้นประจำปี

 

4. American Hustle (2013)



                  ไม่ได้รับบทนำ แต่การสมทบของเธอก็ทำให้ขโมยซีนชาวบ้านไปได้แทบทุกฉาก และถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมอีกด้วย

                  เรื่องราวเกี่ยวกับ ออร์วิ่ง (Christian Bale) ลูกชายของคนขายกระจกที่ตกอับและสร้างจุดเปลี่ยนให้กับตนเองด้วยการเลือกทางเดินที่แตกต่าง เขากลายเป็นนักต้มตุ๋นผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ เขามีลูกมีเมียแล้วแต่แยกทางกัน โรซาลีน (Jennifer Lawrence) เธอคือผู้หญิงคนนั้น แต่เขาได้มาพบสาวคนใหม่ที่ดูจะเข้ามาเติมเต็มธุรกิจของเขาได้อย่างเข้าขา ซิดนีย์ (Amy Adams) สาวสวยผู้ชาญฉลาด ทุกอย่างดำเนินมาด้วยดีโดยตลอด จนวันหนึ่ง เขาทั้งสองได้มาพบกับ ริชชี ดีมาโซ (Bradley Cooper) เอฟบีไอผู้หวังสูง หวังจะเปิดเผยพฤติกรรมโกงของเหล่านักการเมืองทั้งหลาย จึงเลือกใช้นักต้มตุ๋นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ และคาร์มีน โพลิโต้ (Jeremy Renner) ก็คือหนึ่งในนักการเมืองที่หวังกระชากหน้ากากออกมา

 

5. Joy (2015)



                     บทบาทล่าสุดที่ทำให้เธอได้เข้าชิงราวัลออกการ์ (อีกครั้ง) ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เรื่องราวที่ถูกนำมาถ่ายทอดในครั้งนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงของ จอย แมงกาโน่ (Joy Mangano) สาวลูกครึ่งอิตาเลี่ยน-อเมริกัน ผู้ถือสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้กว่า 100 รายการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "ไม้ม็อบมหัศจรรย์" (Miracle Mop) ไม้ถูพื้นแบบบีบน้ำได้ที่ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง และประสบความสำเร็จกลายเป็นนักธุรกิจสาวผู้ร่ำรวย จากการมียอดขายถล่มทลายหมื่นล้านเหรียญ JOY รวมอยู่ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของหนังที่พูดถึงการไล่ตามความฝันเพื่อประสบความสำเร็จทั้งในเชิงธุรกิจและครอบครัว แต่หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาด้วยแนวทางเฉพาะตัวที่ทั้งตลก สะเทือนอารมณ์ และแปลกใหม่ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยการเล่าชีวิตที่ไม่น่าเป็นไปได้แต่เป็นเรื่องจริงของจอย แมงกาโน ซึ่งในยุคทศวรรษ 1990 เธอได้กลายเป็นดาราโทรทัศน์รูปแบบใหม่และผู้ประกอบการอันทรงอิทธิพลที่นำเสนอสิ่งประดิษฐ์ในครัวเรือนมากมาย รวมถึงไม้ถูพื้นมหัศจรรย์ "ที่บิดเองได้" อันมีชื่อเสียง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอาณาจักรธุรกิจของคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวจากลองไอส์แลนด์รายนี้