5 จุดใหญ่ที่ Child's Play (2019) ต่างจากต้นฉบับ และมันดีกว่าเดิม
* บทความนี้มีพูดถึงเนื้อหาบางส่วนของหนัง *
เจ้าตุ๊กตาผี "ชัคกี้" อีก 1 ตัวละครฆาตกรสุดโหดจากฮอลลีวู้ดที่คนหนังรู้จักกันดี ชัคกี้ ถือกำเนิดมาตั้งแต่ Child's Play (1989) โดยมันสมองของ ดอน แมนชินี ด้วยความโหดและน่ากลัวของมัน ทำให้ชัคกี้สานภาคต่อมาได้อีก 6 ภาค ที่ดอน แมนชินี ยังคงรับเหมาเขียนบทเองในทุกภาค และกำกับเองในภาคหลัง อีกเอกลัษณ์หนึ่งของ "ชัคกี้" ก็คือเสียงพากย์ของ แบรด ดูรีฟ นักแสดงผู้รับบทตัวร้ายตลอดกาลของฮอลลีวู้ด แบรด รับหน้าที่พากย์เสียงทั้ง 7 ภาคของชัคกี้
ทีมนักแสดงนำ ออเบรย์ พลาซา , แกเบรียล เบตแมน , ไบรอัน ไทรี เฮนรี และมาร์ก แฮมิลล์ ผู้ให้เสียงพากย์ "ชัคกี้"
หลังจากเวลาผ่านไป 30 ปี เจ้าตุ๊กตาผีชัคกี้ที่ผู้ชมยังจำถึงความน่ากลัวของมันได้ แต่ก็ห่างหายไปจากจอภาพยนตร์นานนับสิบปีแล้ว เหตุจากภาคหลังๆ ไม่ประสบความสำเร็จ ภาคท้ายๆ ก็เลยสร้างแล้วลงแผ่นดีวีดีถึงแม้หนังจะได้คะแนนจาก Rottentomatoes ดีก็ตาม แต่ก็มีน้อยคนที่ได้ดู ถึงตอนนี้ค่าย MGM ผู้ถือลิขสิทธิ์ Child's Play (1989) จึงมีสิทธิ์เต็มที่ในการรีบูธหนัง แม้ว่าดอน แมนชินี และ แบรด ดูรีฟ จะไม่กลับมารับหน้าที่เดิมก็ตาม ซึ่งผู้สร้างก็หาทางออกได้สวยงามด้วยการดึง มาร์ก แฮมิลล์ ที่คอหนังรู้จักกันดีจากบท ลุค สกายวอล์กเกอร์จากแฟรนไชส์ Star Wars แต่ที่จริงแล้ว มาร์ก มีประสบการณ์งานพากย์มามากกว่างานแสดงเสียอีก จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากกับการรีบูธ เป็นกลยุทธ์ที่เรียกแฟนๆ ใหม่ๆได้อีกมาก และนี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเดียวที่เกิดกับหนัง Child's Play (2019) เรามาดูกันซิว่าภาครีบูธนี้มีอะไรแปลกใหม่ไปจากเดิมบ้าง
1. จากมนตร์ดำวูดู สู่เทคโนโลยีล้ำยุค
ย้อนความกันสักนิด ใน Child's Play (1989) นั้น เรื่องราวเริ่มต้นจากฆาตกรต่อเนื่อง ชาร์ล ลี เรย์ หนีการไล่ล่าของตำรวจมาจนมุมที่ร้านขายของเล่น เขาโดนตำรวจยิงบาดเจ็บสาหัส ชาร์ลใช้พลังเฮือกสุดท้ายทุบกระจกแล้วเข้าไปหลบซ่อนตัวข้างใน ก่อนตาย ชาร์ล ร่ายมนตร์ดำวูดูที่เขาศึกษามา ทำการย้ายวิญญาณตัวเองเข้าไปสิงสู่ในตุ๊กตาชัคกี้ที่วางขายอยู่ในร้านนั้น แล้ว "แอนดี้" เด็กชายผู้โชคร้ายก็ได้ชัคกี้เป็นของขวัญชิ้นใหม่ จากนั้นตุ๊กตาชัคกี้ที่มีวิญญาณร้ายของชาร์ลสิงสู่อยู่ก็เริ่มสังหารทุกคนที่ใกล้ตัว ด้วยแรงขับดัน 2 อย่าง อย่างแรกคือสันดานดิบของฆาตกรต่อเนื่อง อย่างที่สองคือแรงขับดันจากมนตร์ดำวูดูที่ทวีให้วิญญาณของชาร์ลมีความอาฆาตพยาบาทมากขึ้น และชาร์ลมีความเชื่อว่าถ้าเขาฆ่าคนได้มากพอ จะทำให้เขากลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
พอมาถึง Child's Play (2019) ทางทีมเขียนบทก็เลือกที่จะปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้ร่วมสมัยมากขึ้น ด้วยการตัดเรื่องราวเกี่ยวกับเวทมนตร์วูดูออกไป แล้วเขียนให้จุดเริ่มต้นของชัคกี้เกิดในโรงงานผลิตตุ๊กตาของเล่นนั่นเอง ในบริษัท Kaslan Products ทางผู้สร้างพยายามสร้างองค์ประกอบแวดล้อมให้สมจริง ถึงกับสร้างเว็บไซต์บริษัทขึ้นมาเลยนะ https://kaslancorp.com ชัคกี้ในภาคใหม่นี้เป็นสินค้าที่มาในการตลาดว่า "บัดดี้ ดอลล์" เป็นตุ๊กตาที่มาพร้อมสมองกลอัจฉริยะ ที่สามารถพูดคุยตอบโต้กับเด็กๆ ได้
เหตุร้ายเริ่มต้นจากพนักงานฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัทเกิดโกรธแค้นบริษัทขึ้นมา เลยกลั่นแกล้งบริษัทด้วยการโปรแกรมสมองของตุ๊กตาตัวหนึ่งให้มีความโหดร้าย พูดจาหยาบคาย และมีพฤติกรรมต่างๆ ที่เลวร้าย เมื่อตุ๊กตาตัวปัญหานี้ได้ไปอยู่กับเจ้าของผู้โชคร้าย มันก็เริ่มพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตุ๊กตารุ่นใหม่นี้สามารถบันทึกเสียงและวีดีโอเก็บไว้ในเมมโมรีได้ ตุ๊กตาตัวร้ายก็เริ่มจากเชื่อมโยงสัญญาณกับตุ๊กตาบัดดี้ดอลล์ตัวอื่นๆ เริ่มศึกษาพฤติกรรมมนุษย์จากเมมโมรีของบัดดี้ดอลล์ตัวอื่นที่บันทึกไว้ เริ่มรู้จักความโหดร้ายและกลายเป็นกิจกรรมที่มันชอบ ทำให้เจ้าชัคกี้เริ่มสนุกกับการฆ่าคน การสร้างพลอตใหม่ที่อิงกับเทคโนโลยี แทนที่จะเป็นมนตร์ดำ ทำให้เค้าโครงเรื่องดูใกล้เคียงความเป็นจริงที่จินตนาการตามได้ง่ายขึ้น และการสร้างพลอตเปิดแบบกว้างแบบนี้ก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับคนเขียนบทที่จะขยายเรื่องราวภาคต่อ
2. เพิ่มอายุให้แอนดี้ บาร์เคลย์
ตัวละครหลักที่อยู่ใน Child's Play (1989) และยังคงอยู่ใน Child's Play (2019) ก็คือแอนดี้ บาร์เคลย์ หนูน้อยที่เป็นเจ้าของตุ๊กตาชัคกี้ ในเวอร์ชันต้นฉบับนั้นแอนดี้อายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น แล้วแอนดี้ยังต้องกลายเป็นแพะรับบาปให้กับเจ้าชัคกี้ ที่จัดฉากหลักฐานฆาตกรรมว่าเป็นฝีมือของแอนดี้ ทำให้แอนดี้ต้องตกอยู่ในสภาวะกดดันทั้งเรื่อง จนถึงฉากไคลแมกซ์ที่แอนดี้ต้องลุกขึ้นมายุติการกระทำของชัคกี้เสียที ปิดฉากด้วยคำพูดเท่ๆ ของแอนดี้ "This IS the end… friend"
และแอนดี้ บาร์เคลย์ ก็เป็นอีกจุดสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อทีมเขียนบทตัดสินใจปรับเปลี่ยนให้แอนดี้ บาร์เคลย์ เวอร์ชันนี้มีอายุ 13 ปี แม้ในวัยนี้จะไม่ใช่เด็กน่ารักไร้เดียงสาอีกต่อไป ไม่ใช่วัยที่จะต้องเล่นตุ๊กตาอีกแล้ว แต่บทก็เสริมน้ำหนักให้กับช่องโหว่นี้ด้วยการเพิ่มเติมความสามารถของตุ๊กตาชัคกี้ให้เป็นตุ๊กตาอัจฉริยะที่ไม่ได้เจาะกลุ่มเป้าหมายเพียงเด็กผู้ชายตัวเล็กแค่นั้น และเขียนให้แอนดี้ มีปัญหาทางการได้ยิน ทำให้เขาไม่มีเพื่อนสนิท เมื่อแม่ของแอนดี้เลยซื้อบัดดี้ดอลล์ตุ๊กตาอัจฉริยะเพื่อให้เป็นเพื่อนกับเขา แอนดี้ จึงดีใจมาก และตั้งชื่อมันว่า "ชัคกี้" เขารู้สึกผูกพันกับชัคกี้มาก ด้วยวัย 13 ทำให้บทสามารถขยายความคิดอ่านของแอนดี้ได้มากขึ้น แต่ก็เป็นวัยที่ยังง่ายต่อการถูกชัคกี้ชักจูง
3. นักสืบไมค์มีความเป็นมิตรมากขึ้น
นักสืบไมค์ นอริส อีกตัวละครหลักจากหนังต้นฉบับ ไมค์ นอริส เป็นนักสืบที่มีความมุ่งมั่นมาก หัวดื้อ และมั่นใจในสมมติฐานของตัวเอง จะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเท่านั้นที่จะมาหักล้างทฤษฎีของเขาได้ ในหนังต้นฉบับนั้น นักสืบไมค์สงสัยว่าแอนดี้คือฆาตกร แต่แคเร็นแม่ของแอนดี้ก็ออกมาปกป้องลูกชาย ยืนยันว่าแอนดี้ลูกชายของเธอบริสุทธิ์ใสซื่อ แต่ไมค์ก็ยังไม่ล้มเลิกความคิด ยังคอยตามสอดส่องแคเร็นและแอนดี้เพื่อหาหลักฐานมามัดตัว
บุคลิกของไมค์ นอริส ถูกเขียนขึ้นมาใหม่หมดในเวอร์ชันใหม่นี้บทหนังลงลึกถึงปูมหลังของไมค์ นอริส ทำให้คนดูเข้าถึงความคิดความรู้สึกของเขามากขึ้น ไมค์ เวอร์ชันนี้มีแม่ที่เขารักมาก และแม่ของเขาก็พักอยู่อพาร์ตเมนต์เดียวกับ 2 แม่ลูก แคเร็น และแอนดี้ เวลาที่ไมค์ มาเยี่ยมแม่ของเขา ก็มักจะพบเห็นแอนดี้นั่งเหงาๆ อยู่คนเดียว เพราะต้องการปลีกตัวออกมาจากห้อง ที่แม่กำลังจู๋จี๋อยู่กับแฟนใหม่ นั่นเป็นเหตุที่ไมค์รู้สึกเห็นใจในตัวแอนดี้ ทำให้ไมค์ นอริส เวอร์ชั่นนี้เป็นนักสืบที่มีมิติความลึก เป็นมิตรและมีชีวิตจิตใจมากขึ้นกว่านักสืบจอมเฮี้ยบที่มุ่งมั่นในอาชีพคอยจะลากคอตัวฆาตกรเพียงอย่างเดียว
4. ชัคกี้ไม่ได้โหดร้ายมาตั้งแต่แรก
มีการอธิบายถึงความโหดร้ายของชัคกี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ในเวอร์ชันต้นฉบับนั้น ผู้ชมถูกบอกกล่าวให้รู้ถึงโหดร้ายน่ากลัวของชัคกี้ที่ถูกถ่ายทอดมาจากความคิดจิตใจของฆาตกรต่อเนื่อง ชาร์ล ลี เรย์ ทำให้ชัคกี้เริ่มออกสังหารเหยื่อเคราะห์ร้ายตั้งแต่ต้นๆ เรื่อง แต่ในเวอร์ชันใหม่นี้ ชัคกี้ไม่ได้มีความโหดร้ายมาตั้งแต่แรก แต่เป็นผลมาจากความประสงค์ร้ายของพนักงานฝ่ายเทคนิคคนหนึ่ง ที่ต้องการกลั่นแกล้งบริษัทด้วยการปรับแต่งกล่องควบคุมอุปนิสัยของตุ๊กตาบัดดี้ดอลล์ ทำให้ตุ๊กตาตัวนี้กลายเป็นตัวที่มีขอบเขตเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัด
หนังจึงใช้เวลาในช่วงต้นปูความอย่างละเอียด ให้คนดูเห็นพัฒนาการการเรียนรู้ของชัคกี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ชัคกี้เริ่มต้นแบบเด็กที่ใสสะอาด มันเชื่อมต่อการเรียนรู้เข้ากับเมมโมรี่ของตุ๊กตาบัดดี้ดอลล์ตัวอื่นๆ อ่านข้อมูลภาพและเสียงจากเมมโมรี ได้ดูหนัง "สิงหาสับ" (The Texas Chainsaw Massacre 2) ไปพร้อมๆ กับแอนดี้ แล้วก็เริ่มเข้าใจได้ว่ามนุษย์รู้สึกสนุกไปกับความโหดร้าย บทหนังพยายามสื่อว่าชัคกี้ไม่ได้โหดร้ายจากภายในตัวมันเอง แต่เป็นเพราะมนุษย์รอบตัวมันนี่ล่ะ ที่สั่งสอนหล่อหลอมให้มันรู้จักความโหดร้าย และปลดปล่อยด้านมืดของมันออกมา
5. ขอบเขตเรื่องราวที่ถูกขยายให้กว้างขึ้น
ใน Child's Play (1989) หนังถูกเล่าเรื่องราวตามเวลาในยุคนั้น ที่ยังไม่มีสมาร์ตโฟนและอินเตอร์เน็ต เรื่องราวจึงถูกเล่าตามสภาวะที่ถูกจำกัดให้เกิดในชิคาโก ทางผู้สร้างจึงต้องใส่ใจในการถ่ายทอดบรรยากาศของเมืองชิคาโก้ให้มีบทบาทสำคัญต่อความรู้สึกของหนังให้คนดูสัมผัสได้ถึงหนาวเย็นและครึ้มหม่น
แต่เมื่อมาถึง Child's Play (2019) หนังก็ถูกเล่าตามวันเวลาในยุคปัจจุบันที่มีทั้งเทคโนโลยี สมองกลอัจฉริยะที่บรรจุลงในตัวตุ๊กตา โลกยุคอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีการ เชื่อมต่อกันระหว่างตุ๊กตาบัดดี้ดอลล์แต่ละตัว และการเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ แม้ว่าหนังภาคนี้จะยังคงเล่าเรื่องราวในชิคาโกเช่นเดิม แต่หนังก็ยังมีฉากที่เชื่อมโยงไปเมืองอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ทำให้ขอบเขตของเรื่องราวในภาคนี้ไม่ถูกจำกัดในพื้นที่เฉพาะอีกต่อไป
ตัวอย่างภาพยนตร์