เป็นอีกหนึ่งคาแรกเตอร์สยองขวัญจากฮอลลีวู้ดที่ถือกำเนิดมาในยุค80s เป็นยุคที่สร้างตัวละครอสุรกายระดับโลกขึ้นมามากมายทั้ง เฟรดดี้ ครูเกอร์ และ เจสัน วอร์ฮี , ชัคกี้ เป็นชื่อของตุ๊กตาผีสิงตัวละครหลักของแฟรนไชส์หนัง Child's Play มี ภาคแรกออกมาเมื่อปี 1988  เรื่องราวของฆาตกรโหด ชาร์ล ลี เรย์ ที่หนีการตามล่าของตำรวจเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้างสรรพสินค้า ชาร์ล มีวิชามนตร์ดำติดตัว ก่อนที่เขาจะขาดใจตาย จึงคว้าตุ๊กตาชัคกี้จากแผนกของเล่นเด็กมา แล้วถ่ายทอดวิญญาณของเขาเข้าไปในตัวตุ๊กตา เมื่อครอบครัวโชคร้ายมาซื้อชัคกี้ตัวนี้ไปไว้ในบ้าน พอตกค่ำคืน วิญญาณชาร์ลในร่างชัคกี้ก็จะออกมาสังหารเหยื่อในบ้านนั้น จุดเด่นอย่างหนึ่งของหนังในวันนั้นก็คือการได้ แบรด ดูรีฟ มาร่วมงาน แบรด เป็นดาราตัวร้ายระดับต้นๆ ของฮอลลีวู้ด เขารับบทเป็นชาร์ล ลี เรย์ และยังรับหน้าที่พากย์เสียงชัคกี้อีกด้วย ความน่ากลัวและโหดของชัคกี้ ทำให้หนังมีภาคต่อออกมาถึงภาค 7 (ภาค 6 และ 7 ฉายแบบจำกัดโรงแล้วลงแผ่นดีวีดีเลย) แบรด ดูรีฟ และ ดอน แมนชินี เป็น 2 ทีมงานหลักที่อยู่กับแฟรนไชส์มาตลอดจนถึงภาค 7

ดอน แมนชินี ผู้ให้กำเนิดตำนานชัคกี้

        หนัง Child's Play ต้นฉบับปี 1988 ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดย ดอน แมนชินี ผู้เขียนบทตั้งแต่ภาค 1 ถึงภาค 7 เองทั้งหมด และขยับมากำกับเองตั้งแต่ภาค 5 ถึงภาค 7 เป็นแฟรนไชส์ที่รายได้ดิ่งลงทุกภาคพอๆ กับคุณภาพของหนัง ทางยูนิเวอร์แซล จึงตัดสินใจรีบู๊ตหนังเสียใหม่ ย้อนกลับไปเล่าจุดกำเนิดของตุ๊กตาผีชัคกี้กันอีกครั้ง ซึ่งก็สมควรแก่เวลาเพราะมาถึงวันนี้ หนังทิ้งช่วงห่างจากวันแรกที่ชัคกี้ถือกำเนิดก็ 31 ปีแล้ว ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ยกเครื่องด้วยการใช้ทีมงานใหม่ทั้งหมด และชื่อที่แฟน ๆ หนังให้ความสนใจมากสุดก็คือ มาร์ค แฮมิลล์ เจ้าของบท ลุค สกายวอล์คเกอร์ จากแฟรนไชส์ Starwars มารับหน้าที่พากย์เสียงเป็น "ชัคกี้" เวอร์ชั่นใหม่นี้ หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักชื่อเสียงความน่ากลัวของชัคกี้แต่ไม่เคยรู้ที่มาของมัน ว่าทำไมชัคกี้ถึงขึ้นชั้นเป็นอีกหนึ่งตัวละครสยองขวัญอมตะของฮอลลีวู้ดได้ หนังมีกำหนดเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 25 ก.ค. นี้ ก่อนจะได้ไปร่วมชมวีรกรรมสยองขวัญของชัคกี้เรามาทำความรู้จักกับเจ้าตุ๊กตาผีสยองขวัญตัวนี้กันก่อนดีกว่า

 

1. ชื่อจริงของชัคกี้ เอามาจาก 3 ฆาตกรโหดตัวจริงในตำนาน

       ชื่อของ "ชาร์ล ลี เรย์"ฆาตกรโหดที่กลายเป็นวิญญาณร้ายสิงอยู่ในตุ๊กตาชัคกี้นั้น เป็นชื่อที่รวมกันของ 3 ฆาตกรโหดที่มีชื่อเสียงจริงระดับตำนานของสหรัฐอเมริกา "ชาร์ล" แมนสัน , "ลี" ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ และ เจมส์ เอิร์ล "เรย์"

ชาร์ล แมนสัน คือฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังในยุค 60s วีรกรรมโหดของเขา ทำให้มีผู้สืบทอดพฤตกรรมของเขาอีกมาก , ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ คือฆาตกรที่สังหารประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคเนดี้ และ เจมส์ เอิร์ล เรย์ คือฆาตกรผู้ลงมือปลิดชีพ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ผู้เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของคนผิวสี

 

2. ชัคกี้อยู่ในจักรวาลสยองขวัญเดียวกับบรรดาตัวละครสยองขวัญชื่อดัง

      ใน Bride of Chucky (1998) ภาคที่ 4  ซึ่งเป็นยุคขาลงของแฟรนไชส์ชัคกี้แล้ว แม้จะไม่มีใครจดจำคุณภาพของหนัง แต่ก็มีฉากที่ให้แฟนๆ ชัคกี้พูดถึงก็คือ ฉากที่มีอีสเตอร์เอ้กสำคัญแอบซ่อนไว้ เป็นฉากในห้องเก็บหลักฐานของสถานีตำรวจ ในฉากนี้เผยให้เห็นบรรดาสัญลักษณ์เด่นของบรรดาฆาตกรนักเชือดในตำนานหลายตัวเช่น หน้ากากของไมค์ มายเออร์ , ถุงมือกรงเล็บของเฟรดดี้ ครูเกอร์ , เลื่อยโซ่ของเลเธอร์เฟซ และ หน้ากากฮอคกี้ของเจสัน วอฮีร์ เหมือนบอกเป็นนัยว่าชัคกี้นั้นอยู่ร่วมจักรวาลเดียวกันกับอสุรกายนักฆ่าระดับตำนานเหล่านี้ แม้เนื้อหาหนังจะไม่ได้มีจุดเชื่อมโยงกับบรรดาตัวละครอื่นที่กล่าวมา แต่ผู้กำกับรอนนี่ ยู ที่กำกับ Bride of Chucky ก็ได้ไปกำกับ Freedy vs jason ในปี 2003

 

3. ไอเดียชัคกี้ ปะทะ เฟรดดี้ ครูเกอร์ เกือบจะเป็นจริง

        หลังจากหยอดไอเดียเรื่องการรวมจักรวาลไว้ใน Bride of Chucky ดอน แมนชินี ผู้ให้กำเนิดชัคกี้ ก็พยายามเสนอไอเดียให้ชัคกี้ ไปเจอกับเฟรดดี้ ครูเกอร์ กับทางสตูดิโอ เขาตั้งชื่อเรื่องว่า Child's Play on Elm Street

พลอตคร่าวๆ ของดอน แมนชินี เขาเล่าเรื่องราวของชัคกี้ ที่ระหกระเหินไปโผล่ที่ถนนเอลม์ ถิ่นของเฟรดดี้ ครูเกอร์ แล้วชัคกี้ก็ได้เจอกับเจ้าของถิ่น ทั้งคู่เริ่มต้นร่วมมือกันสนุกสนานกับการสังหารเหยื่อ ก่อนจะแตกคอกันภายหลัง โพรเจกต์เกือบจะได้ถือกำเนิดเป็นรูปเป็นร่างหลังจากมีการหยิบมาพูดคุยเป็นเวลานับปี แล้วก็พับไป

 

4. ใน Child's Play 3 เกือบจะมีฉากกองทัพชัคกี้

      ในฉากจบของ Child's Play 2 เป็นฉากไล่ล่าในโรงงานผลิตตุ๊กตาชัคกี้ เจ้าตุ๊กตาผีชัคกี้ตัวร้าย โดนปั๊มลมเข้าใส่ตัวจนระเบิด ชิ้นส่วนร่างของมันกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลายๆ ชิ้นร่วงลงไปในถังพลาสติกที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตร่างตุ๊กตาชัคกี้ หนังจบแบบทิ้งท้ายไว้ว่าวิญญาณร้ายของชัคกี้ได้แพร่สะพัดไปอยู่ในตุ๊กตาชัคกี้ที่ถูกผลิตออกมาใหม่นับพันตัว เป็นไอเดียที่ดอน แมนชินี ตั้งใจจะนำไปสานต่อในภาค 3 แต่ด้วยปัญหาเรื่องงบประมาณที่จะต้องสร้างชัคกี้ออกมาบนจอเป็นร้อยเป็นพันตัว ทางสตูดิโอจึงไม่อนุมัติกับไอเดียนี้

แม้ว่าไอเดียนี้จะไม่เป็นรูปเป็นร่างในภาค 3 แต่ดอน แมนชินี ก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายาม เขาเอาไอเดียนี้มาใช้ใน Cult of Chucky (2017) ภาค 7 ของหนัง เมื่อชัคกี้ค้นเจอคาถาวูดูทางอินเตอร์เน็ต มันก็เลยใช้คาถานี้แยกร่างมันออกมาเป็นหลายๆ ร่าง

 

5. Child's Play กลายเป็นนิยาย

       ด้วยความสำเร็จของหนัง Child's Play ภาคแรก ทำให้ แมทธิว เจ. คอสเตลโล นักประพันธ์ได้ขอสิทธิ์เขียนเรื่องราวของชัคกี้ออกมาเป็นนิยายในชื่อ Child's Play 2 ซึ่งเรื่องราวในนิยายก็ไม่ได้เหมือนในหนังภาคต่อแต่อย่างใด ซึ่งแมทธิวก็เขียนต่อจนถึง Child's Play 3 แค่นั้น ในนิยายของแมทธิวนั้นได้ย้อนไปเล่าถึงอดีตของ ชาร์ล ลี เรย์ ตั้งแต่วัยเด็ก ให้ผู้อ่านได้รู้จักความอำมหิตที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เยาว์วัย ชาร์ล เป็นเด็กที่มีปัญหา เขาไม่ีมีพ่อ ต้องอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ชอบทำร้ายร่างกายเขา ชาร์ลกลายเป็นเด็กเกเรที่ต้องอยู่ในห้องเรียนเด็กพิเศษ เมื่อชาร์ลได้สะสมความอำมหิตไว้ในตัว และทนกับการทุบตีจากแม่จนถึงขีดสุด ชาร์ลก็สังหารแม่ผู้ให้กำเนิดเขาเองด้วยการรัดคอ ความเหี้ยมโหดของชาร์ลทำให้เขาได้รับสมยานามว่า "ฆาตกรรัดคอแห่งเลคชอร์"

 

6. ชัคกี้เกือบได้มีเพลงธีมของตัวเอง

        ดูช่างเป็นเรื่องไม่จำเป็นเอาเลยสำหรับหนังสยองขวัญแบบนี้ แต่ก็ดีแล้วที่มันถูกยกเลิกไปในที่สุด ในภาคแรกของหนังนั้น ทีมผู้สร้างได้มอบหมายให้ ไซมอน สโตคส์ รับหน้าที่ประพันธ์เพลงธีมให้กับหนัง มี โจ เรนเซ็ตติ เป็นผู้แต่งเนื้อร้อง เพลงนี้ตั้งใจจะใช้ในฉากเอนด์เครดิตของหนัง สไตล์ของเพลงนี้ตั้งใจให้เหมือนเพลงเชียร์ตามโรงเรียน ดนตรีเน้นเสียงคีย์บอร์ดที่ฮิตกันในยุค 80s คลอด้วยเสียงเบสเป็นห้วงๆ เมื่อผู้อำนวยการสร้างได้ฟังเพลงแล้วก็ตัดสินใจยกเลิกใช้เพลงนี้ทันที เขาบอกว่าหนังทำออกมาโหด ๆ แต่เพลงจะทำให้ชัคกี้ดูเป็นตุ๊กตาโง่ๆ ตัวหนึ่ง มันสามารถน่ากลัวได้โดยไม่ต้องมีเพลงมาช่วยหรอก เผื่อจะนึกไม่ออกว่าเพลงมันฟังดูโง่ขนาดไหน ทำไมผู้อำนวยการสร้างทนไม่ไหว ลองอ่านเนื้อร้องดูแล้วกดฟังเพลงได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้ครับ "Chucky, Chucky it's the end, gee I thought you were my friend". "C-H-U-C-K, Y don't you come out to play?"

 

7. แรปเปอร์ บุชวิค ใช้ตุ๊กตาชัคกี้เป็นสัญลักษณ์คู่ตัว

       แรปเปอร์บุชวิค ได้เปิดเผยว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของชัคกี้ เขาพกตุ๊กตาชัคกี้ไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนบันทึกเสียงและตอนแสดงคอนเสิร์ต เหมือนเป็นสัญลักษณ์ส่วนตัวของเขา เขาคลั่งไคล้ถึงขั้นแต่ง 2 เพลงชื่อ Chuckie และ  Chuckwick เพื่ออุทิศให้กับชัคกี้ ทั้ง 2 เพลงมีการหยิบดนตรีประกอบจากในหนังมาใส่ไว้ด้วย

 

8. ชัคกี้เคยไปป่วนในรายการ Saturday Night Live

         Saturday Night Live เป็นรายการวาไรตี้ชื่อดังของอเมริกา ที่อยู่ยงคงกระพันมาถึง 44 ปีแล้ว และปั้นนักแสดงคอมมีดี้เข้าสู่ฮอลลีวู้ดจำนวนมาก ในช่วงที่โปรโมตหนัง Bride of Chucky ก็ได้มีการเชิญเจ้าชัคกี้ไปป่วนในรายการด้วย ชัคกี้ไปปรากฏตัวในฐานะผู้ประกาศข่าวในชุดสูทผูกไท เขาอ่านข่าวและประณามการทำงานของรัฐบาลคลินตัน แล้วจบด้วยการใช้มีดสังหารผู้ประกาศร่วม ฟังดูเหมือนน่าจะฮา แต่ผลตอบรับกลับไม่ดีนัก เหตุเพราะทีมงานใช้นักพากย์คนอื่นมาพากย์ เสียงชัคกี้แทนเสียง แบรด ดูรีฟ ที่เป็นเอกลัษณ์ตัวตนของชัคกี้ไปแล้ว พอเป็นเสียงคนอื่นออกจากปากของชัคกี้ก็เลยดูเหมือนเป็นชัคกี้ร่างปลอมไปเสียงั้น

 

9. ชัคกี้ไปโผล่ในหนังสยองขวัญคลาสสิก

         ไอเดียการเอาชัคกี้ไปร่วมในรายการโชว์ หรือหนังคลาสสิกชื่อดังยังคงเป็นไอเดียที่สตูดิโอนำมาใช้เสมอ ในช่วงที่โปรโมตดีวีดี Curse of Chucky ทางยูนิเวอร์แซลก็ใช้กลยุทธ์ให้เจ้าชัคกี้ไปโผล่ในหนังสยองขวัญชื่อดังหลายๆ เรื่องของยูนิเวอร์แซลเช่น The Purge , Drag Me To Hell , Mama และ Psycho ที่ได้รับการพูดถึงมากสุดก็คือคลิปที่ชัคกี้ไปโผล่ในหนัง Psycho ในฉากที่อาบน้ำที่ผู้ชมทั่วโลกรู้จักดี เจ้าชัคกี้ทำหน้าที่เป็นฆาตรกมีดเข้าไปในห้องน้ำระหว่างที่เจเนต ลี กำลังอาบน้ำฝักบัว มันใช้บันไดต่อขาแล้วจู่โจมแทงเธอด้วยมีด คลิปโปรโมตเซ็ตนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีกว่าตอนที่ไปป่วนในรายการ Saturday Night Live เพราะว่ารอบนี้ได้ แบรด ดูรีฟ กลับมาให้เสียงเจ้าชัคกี้เช่นเดิมแล้ว

 

10. ชัคกี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเหตุฆาตกรรม

        หลายๆ คดีที่เกิดในช่วง 90s ได้มีการกล่าวอ้างว่าผู้ก่อเหตุได้รับแรงบันดาลใจมากจาหนัง Child's Play 3 (1991) มีคดีหนึ่งในอังกฤษ เด็กชายวัย 10 ขวบคู่หนึ่งได้ลักพาตัวหนูน้อยเจมส์ บัลเกอร์วัย 2 ขวบไปแล้วโชคร้ายที่หนูน้อยถูกฆ่าทิ้งในที่สุด อัยการได้กล่าวอ้างว่าร่างของหนูน้อยเจมส์นั้นถูกสาดด้วยสีฟ้า ซึ่งเหมือนกับฉากหนึ่งใน Child's Play 3

อีกคดีในรัฐแมนเชสเตอร์ หญิงสาวถูก 2 หนุ่ีมลักพาตัวไปทรมานและทำร้ายร่างกาย ระหว่างที่พวกมันสนุกกับการข่มเหงเธอ ก็ตะโกนคำซ้ำๆ ด้วยอารมณ์สนุกสนานว่า "ฉันชื่อชัคกี้ ฉันอยากเล่นด้วย" ยังไม่หมดครับ มีอีก 1 คดี ทางตอนใต้ของลอนดอน ชายหนุ่มฆ่าแฟนสาวของเขาเอง แล้วเจ้ามือสังหารหนุ่มรายนี้ก็มีความภูมิอกภูมิใจกับการได้โอ้อวดรอยสักรูปชัคกี้ของเขา แต่ภายหลัง "ชัคกี้" ก็พ้นจากข้อครหาว่าเป็นต้นเหตุจูงใจของคดีฆาตกรรมเหล่านี้ เมื่อเหล่าอัยการลงความเห็นว่า ชัคกี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่สถานะที่เป็นตัวละครชื่อดังนั้นง่ายต่อการที่จะตกเป็น "แพะรับบาป" จากเหล่าอาชญากรรุ่นเยาว์เหล่านี้

 

ตัวอย่างภาพยนตร์