HIGHLIGHTS

• จากแอนิเมชั่นระดับตำนานที่เข้าฉายในปี 1994 และครองใจเด็กๆ มาแล้วทั่วโลก เดอะ ไลอ้อน คิง - The Lion King กำลังจะหวนคืนสู่ผาทรนงอีกครั้งในปี 2019 นี้กับเวอร์ชั่นไลฟ์แอ็คชั่นสุดอลังการ
   
• จากผลงานการกำกับของ "จอน ฟาฟวโร (Jon Favreau)" ผู้กำกับและนักแสดงมากฝีมือที่หลายคนคงคุ้นหน้ากันดีซึ่งล่าเขาก็เพิ่งไปเล่นบท "แฮปปี้ โฮแกน (Happy Hogan)" ใน Spider-Man: Far From Home
   
• ฉากสำคัญหลายๆ ฉากที่ได้กลายเป็นภาพจำและยังคงตราตรึงอยู่ในใจแฟนๆ มาจนถึงปัจจุบันจะกลับมาในเวอร์ชั่นนี้อีกครั้งพร้อมด้วยบทเพลงฮิตติดหู
   
• "บียอนเซ่ (Beyoncé)" ราชินีเพลงป๊อบแห่งยุคมาพากย์เสียงเป็นนาล่า สิงโตสาวใจแกร่ง ซึ่งผู้กำกับได้ออกมาพูดเองเลยว่ารูปแบบการเคลื่อนที่ของนาล่านี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการแสดงของควีนบี

 

        จากแอนิเมชั่นระดับตำนานที่เข้าฉายในปี 1994 และครองใจเด็กๆ มาแล้วทั่วโลก เดอะ ไลอ้อน คิง - The Lion King กำลังจะหวนคืนสู่ผาทรนงอีกครั้งในปี 2019 นี้กับเวอร์ชั่นไลฟ์แอ็คชั่นสุดอลังการที่เนรมิตเหล่าสรรพสัตว์ในทุ่งหญ้าสะวันนาให้สมจริงราวกับมีชีวิต แต่ก่อนจะไปปลดปล่อยจินตนาการกันกลางทุ่งหญ้าสะวันนา มาดู 4 ข้อ ที่ต้องรู้ก่อนไปดูหนังเต็มๆ กัน

 

1. ผลงานคุณภาพจากผู้กำกับ The Jungle Book

        จากผลงานการกำกับของ "จอน ฟาฟวโร (Jon Favreau)" ผู้กำกับและนักแสดงมากฝีมือที่หลายคนคงคุ้นหน้ากันดีซึ่งล่าเขาก็เพิ่งไปเล่นบท "แฮปปี้ โฮแกน (Happy Hogan)" ใน Spider-Man: Far From Home ส่วนผลงานกำกับนั้น ผ่านมาแล้วทั้ง "Ironman ภาค 1-2" (ร่วมแสดงในภาคที่ 3)  และ "The Jungle Book-เมาคลี ลูกหมาป่า" ที่สร้างขึ้นมาได้แบบสมจริงสุดๆ ด้วยเทคนิคการสร้างภาพยนตร์สุดล้ำสมัย

ผู้กำกับเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าในฉบับไลฟ์แอคชั่นนี้จะไม่ได้รีเมคจากฉบับการ์ตูนทั้งหมดแบบฉากต่อฉาก แต่จะเป็นการเล่าในแบบที่ต่างออกไป พร้อมยังคงคอนเซปต์ที่แฟนๆ อยากเห็นเอาไว้ แถมงานนี้ยังบอกใบ้อีกว่าในหนังจะมีเซอร์ไพรส์แบบที่คาดไม่ถึงอีกด้วย

 

2. ฉากเด็ดในตำนาน

        ฉากเปิดในดวงใจของใครหลายๆ คน กับการแนะนำสิงโตตัวน้อย "ซิมบ้า" ลูกของเจ้าป่ามูฟาซาและซาราบี้บนผาทรนง ด้วยภาพของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ขึ้นจากขอบฟ้า เหล่าสัตว์มากมายวิ่งกันขวักไขว่เพื่อมาต้อนรับว่าที่เจ้าป่าคนใหม่ ประกอบกับเสียงเพลงอันทรงพลัง ทำให้ดิสนีย์ตัดสินใจหยิบยกเอาฉากเปิดทั้งฉากมาใช้เป็นตัวอย่างภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกและเรื่องเดียวในประวัติศาสตร์ของดิสนีย์ที่ทำตัวอย่างภาพยนตร์จากภาพยนตร์ทั้งฉาก โดยสำหรับดิสนีย์ เดอะ ไลอ้อน คิง ปี 2019 ก็ยังคงเอกลักษณ์อันโดดเด่นนี้ไว้ ซึ่งเพียงแค่ 24 ชั่วโมงแรกที่ปล่อยตัวอย่างออกมา ก็ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมกวาดพื้นที่ในหัวใจของคนรุ่นใหม่ไปแบบเต็มๆ จากยอดชมที่สูงถึง 224.6 ล้านครั้ง นับว่าเป็นตัวอย่างภาพยนตร์ของดิสนีย์ที่มียอดชมสูงที่สุดภายใน 24ชั่วโมงเลยทีเดียว!

นอกจากคาแรคเตอร์ที่เต็มไปด้วยความร่าเริง น่ารัก สดใสของซิมบ้าในตอนเป็นลูกสิงโตแล้ว อีกหนึ่งความประทับใจจนกลายเป็นรักแรกของบรรดาเด็กๆ ต้องยกให้ความเท่ทะลุพิกัดของสิงโตหนุ่มซิมบ้า ที่ยังคงความน่ารัก ขี้เล่นเอาไว้ แถมยังบวกเข้ากับความเท่ ความซื่อสัตย์ และจริงใจของสิงโตหนุ่มสุดหล่อ จนทำให้สาวๆ ที่ได้ดูตกหลุมรักทันทีตั้งแต่เมื่อครั้งที่ดูเวอร์ชั่นแอนิเมชั่น และแน่นอนว่าในภาคนี้ แฟนๆ ก็พลาดไม่ได้เช่นกัน เพราะเราจะได้เห็นซิมบ้าเวอร์ชั่นสมจริงราวกับมีชีวิต ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจากภาพยนตร์เรื่อง เมาคลีลูกหมาป่า ที่สรรสร้างให้ทุกอย่างในภาพยนตร์เสมือนจริงจนเหมือนหลุดออกมาจากทุ่งหญ้าสะวันนา

ยังมีฉากสำคัญๆ อีกหลายฉากที่ได้กลายเป็นภาพจำที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจแฟนๆ มาจนถึงปัจจุบันอีกมากมาย เช่น ฉากมูฟาซา เจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่พาซิมบ้าไปลาดตระเวนครั้งแรก กับโมเม้นต์ซิมบ้าย่ำลงไปบนรอยเท้าของพ่อ หรือจะเป็นฉากการเติบโตของซิมบ้าตัวน้อยกับผองเพื่อนอย่างทีโมนและพุมบ้าที่คลอไปด้วยเสียงเพลงอันคุ้นหูอย่าง Hakuna Matata รวมถึงฉากดราม่าสุดซึ้งที่เรียกน้ำตาผู้ชมในฉากซิมบ้าคุยกับพ่อที่จากไปบนฟ้า เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าในเวอร์ชั่นไลฟ์-แอ็คชั่นนี้ก็จะมีฉากสุดประทับใจเหล่านี้แบบสมจริง เพื่อให้ทุกคนได้อินไปกับ ดิสนีย์ เดอะ ไลอ้อน คิง กันยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

3. บทเพลงฮิตในความทรงจำ

 

        เพลงที่ใช้เป็น Intro เปิดเรื่องและติดหูกันมาจนถึงทุกวันนี้คือเพลง "Circle of Life" ซึ่งมีท่อนเด็ดติดหูเป็นภาษาซูลูที่อ่านว่า "Nants-in-gon-ya-ma-ba-gi-thi-ba-ba (นาน-ซิน-กอน-ยา-มา-บา-คิ-ถิ-บาบา)" แปลว่า สิงโตปรากฎตัวแล้วท่านเอ๋ยยย เป็นบทเพลงที่เล่าถึงเรื่องราวของราชสีห์ผู้เป็นเจ้าเหนือสัตว์ทั้งปวง และวัฏจักรชีวิตที่อยู่ร่วมกันในป่าใหญ่

"Can you feel the love tonight" เพลงรักหวานซึ้งที่ถ่ายทอดความรักความผูกพันระหว่างซิมบ้ากับนาล่า โดยเฉพาะฉากที่ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และดื่มน้ำในบ่อด้วยกัน ซึ่งงานจะได้เอลตันจอห์น (Elton John) นักร้องชื่อดัง เจ้าของเสียงทรงพลังเตรียมกลับมามีส่วนร่วมกับโปรเจกต์นี้อีกครั้งโดยมี "บียอนเซ่" และ "ทิมไรซ์" คนเขียนเนื้อเพลงต้นฉบับมาร่วมแจมด้วย

และที่ขาดไม่ได้เลยคือเพลง "Hakuna Matata" ที่ซิมบ้า ทีโมนและพุมบ้าร้องบรรเลง ออกสเต็ปไปด้วยกัน บทเพลงที่ชวนทุกคนมาปลดปล่อยความกังวลทั้งปวงแล้วมาใช้ชีวิตกันให้สนุก นอกจากนี้ยังมีเพลง "I  just can't wait to be king" ที่ซิมบ้า นาล่า และซาซูร้องด้วยกัน ด้วยความที่ซิมบ้าตอนอยากโตเป็นเจ้าป่าไวๆ และเพลง "Be prepared" ที่สการ์ร้องกับพวกไฮยีน่าในการเตรียมตัวชิงบัลลังก์

 

4. แม่บียอนเซ่ก็มา! ร่วมพากย์เสียงในภาค Live Action

        งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ แน่นอน เพราะได้ "บียอนเซ่ (Beyoncé)" ราชินีเพลงป๊อบแห่งยุคมาพากย์เสียงเป็นนาล่า สิงโตสาวใจแกร่ง ซึ่งจอน ฟาฟวโรผู้กำกับได้ออกมาพูดเองเลยว่ารูปแบบการเคลื่อนที่ของนาล่านี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการแสดงของควีนบี รวมไปถึงการออกแบบฉากต่อสู้ของพวกสิงโตก็มาจากการออกแบบท่าเต้นอันทรงพลังของเธอ

ส่วนบทพากย์ไทยก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นบียอนเซ่เมืองไทยอย่าง "แก้ม เดอะสตาร์" ที่ถึงกับเนื้อเต้นและภูมิใจที่ได้พากย์บทเดียวกับไอดอลของเธอ

นอกจากนี้เรายังจะได้ฟังเสียง "เจมส์ เอิร์ล โจนส์ (James Earl Jones)" เจ้าของเสียงมูฟาซาในภาคแอนิเมชั่นในตำนาน กลับมาพากย์เสียงเดิมอีกครั้ง เรียกได้ว่างานนี้ถูกใจคอหนังดิสนีย์เต็มๆ

ห้ามพลาด!! คมเขี้ยวแห่งราชาจะกลับมาผงาด ทุกโรงภาพยนตร์!

 

ตัวอย่างภาพยนตร์