The Lion King (2019) อาจจะเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
หลังจากที่ดิสนีย์ทยอยเอาอนิเมชั่นคลาสสิคมาสร้างใหม่ในรูปแบบภาพยนตร์คนแสดงหรือ Live Action ตั้งแต่ Dumbo , Aladdin แล้วก็มาถึงคิว The Lion King ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จมากสุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ และการกลับมาในรอบ 25 ปี จะต้องยิ่งใหญ่กว่าทุกเรื่องที่กล่าวมา ทางดิสนีย์จึงเลือกให้ จอน แฟฟโรว์ ผู้กำกับที่มีประสบการณ์ในการทำหนัง Live Action คนแสดงผสมสัตว์ที่สร้างด้วยภาพซีจีมาแล้วใน The Jungle Book เมื่อมาถึง The Lion King ผลงานสุดรักของดิสนีย์และคนค่อนโลก มันจะต้องมาพร้อมภาพที่สมจริงที่สุดที่ผู้ชมเคยเห็นมาบนจอภาพยนตร์ นอกจากหนังจะมาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดในการสร้างภาพซีจีอนิเมชั่นแล้ว หนังยังได้นักแสดงแถวหน้ามากมายมาให้เสียงพากย์
- โดนัลด์ โกลเวอร์ มาให้เสียง "ซิมบา"
- บียอนเซ่ มาให้เสียง "นาลา"
- เจม เอิร์ล โจนส์ นักแสดงอาวุโสที่เหล่านักแสดงด้วยกันให้การนับถือกลับมาให้เสียง "มุฟาซา" บทเดิมที่เขาให้เสียงพากย์ไว้ในอนิเมชั่นต้นฉบับ
- ชิเวเทล อีจิโอฟอร์ มาให้เสียง "สการ์" สิงโตตัวร้ายของเรื่อง
- เซ็ธ โรเจ็น นักแสดงตลกร่างท้วมมาให้เสียง "พุมบา" ตัวละครชื่อดังที่เด็กๆ รัก
ส่วน ฮาน ซิมเมอร์ ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบจากเวอร์ชั่นต้นฉบับและเป็นงานที่ส่งให้เขาคว้าออสการ์ สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาแล้ว ฮานก็กลับมารับหน้าที่เดิมในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ข้างต้น บวกกับทีมงานระดับแถวหน้ามากมาย ล้วนทำให้ประมาณการได้ว่า The Lion King (2019) น่าจะเป็นที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของดิสนีย์ ก็เป็นได้
ผู้กำกับ จอน แฟฟโรว์
ย้อนกลับไปมอง The Lion King ต้นฉบับปี 1994 เป็นหนังอนิเมชั่นล้วน ที่ยังไม่ใช้เทคโนโลยีอะไรมากมาย หนังใช้ทุนสร้างไปเพียง 45 ล้านเหรียญ ซึ่งก็นับว่าสูงแล้วสำหรับยุคนั้น แต่แล้วหนังก็ประสบความสำเร็จเกินคาดทั้งด้านรายได้และรางวัล ซึ่งทางดิสนีย์วางแผนการตลาดไว้เพียงว่าจะเจาะไปที่กลุ่มผู้ชมรุ่นเล็ก แต่แล้วด้วยเนื้อหาที่เล่าเรื่องง่าย ๆ มีตัวละครที่น่ารักชวนประทับใจมากมาย และที่่สำคัญเพลงประกอบหนังหลายเพลงที่ขึ้นแท่นกลายเป็นเพลงคลาสสิคไปแล้ว ด้วยองค์ประกอบที่ครบถ้วนเหล่านี้ทำให้ The Lion King กลายเป็นหนังที่เข้าถึงผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย ส่งให้หนังลาโรงไปด้วยตัวเลขมหาศาลถึง 968.5 ล้านเหรียญ
ส่วนต้นทุนสำหรับ The Lion King (2019) นั้นยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่แน่นอนจากดิสนีย์ แต่ถ้ามองจากผลงานที่ผ่านมาดิสนีย์ก็นับว่าเป็นค่ายที่ใจถึงเงินถึง ดิสนีย์จ่ายไปกับ The Jungle Book (2016) ถึง 177 ล้านเหรียญ ดิสนีย์เคยจ่ายเงินมากถึง 260 ล้่านเหรียญให้กับ Tangled อนิเมชั่นที่แทบไม่มีจุดขายใดๆ เลย แค่เพียงเป็นอนิเมชั่นที่รีเมค Rapunzel นิทานเจ้าหญิงที่เด็กๆ ฝั่งตะวันตกรู้จักกันดี กลายเป็นอนิเมชั่นที่มีต้นทุนสูงที่สุดตลอดกาล ดิสนีย์เคยมั่นอกมั่นใจกับการผจญภัยครั้งที่ 4 ของกัปตันสแปโรว์ ถึงกับยอมควักกระเป๋าไป 412 ล้านเหรียญ ให้กับหนัง Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides กลายเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
ทีโมน และ พุมบา ตัวละครที่ผู้ชมทั่วโลกรักใคร่ กลับมาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่สมจริง
พิจารณาจากตัวอย่างที่ผ่านมา แล้วลองหันมามอง The Lion King (2019) รีเมคจากอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ตัวอย่างหนังที่ปล่อยมาได้รับเสียงตอบรับที่ดี กับภาพสัตว์ต่างๆ นานา ที่ออกมาสมจริงมาก กระตุ้นความอยากดูทั้งแฟนเก่าที่เคยประทับใจมาแล้วกับหนังเวอร์ชั่นเก่า รวมทั้งผู้ชมรุ่นใหม่ที่เคยรับชม The Lion King ในเวอร์ชั่นวีดีโอหรือแผ่นดีวีดีก็เป็นโอกาสสำคัญที่เขาจะได้ชมหนังเวอร์ชั่นใหม่บนจอภาพยนตร์ เหตุผลดังกล่าวล้วนสนับสนุนให้ The Lion King เป็นหนังที่ดิสนีย์พิจารณาแล้วว่ามีศักยภาพสูงที่จะทำรายได้ถล่มทลาย นั่นทำให้ดิสนีย์เปิดไฟเขียวเต็มที่สำหรับทุนสร้างที่จะเทให้กับโพรเจกต์นี้ ซึ่งอาจจะสูงกว่าตัวเลข 412 ล้านเหรียญ ที่ดิสนีย์เคยจ่ายให้กับ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides มาแล้ว นั่นหมายความว่า The Lion King (2019) อาจจะขึ้นแท่นหนังที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ก็เป็นได้
ทั้งหมดนี้ดิสนีย์ขอเพียงให้จอห์น แฟฟโรว์ และทีมงานทุ่มเทพลังและความสามารถทั้งหมด ทำให้หนังมีภาพลักษณ์ที่ดี เสียงตอบรับดี ผู้ชมดูแล้วรู้สึกดีประทับใจ แน่นอนว่าหนังได้ทุนสร้างกลับคืนแน่นอน ที่ต้องลุ้นกันต่อไปก็คือหนังจะทำรายได้ไปได้สูงแค่ไหน อาจจะเป็นรองก็แค่ Avengers : End Game สำหรับหนังทั้งหมดที่เข้าฉายในปีนี้
ตัวอย่างภาพยนตร์