การกลับมาของเฟรนไชส์มนุษย์กลายพันธุ์ในครั้งนี้ได้นักแสดงนำชุดเดิม แต่ได้ผู้กำกับคนใหม่ Simon Kinburg มาทำหน้าที่แทน Bryan Singer ที่กำกับมาแล้วสองภาคก่อนหน้านี้ ได้แก่ X-Men: Days of Future Past (2014) และ X-Men: Apocalypse (2016)

ในระหว่างเดินสายเพื่อโปรโมตหนังที่เตรียมจะเข้าฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้ากับทาง The Hollywood Reporter ช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์นั้นทางผู้กำกับถูกถามในประเด็นที่ว่านักแสดงนำของเรื่องหลายคนรวมไปถึงนักแสดงสาวคนดัง Jennfer Lawrence ทำไมถึงกลับมาแสดงในหนังเฟรนไชส์นี้ เพราะเท่าที่ทราบตัวเธอเองไม่ได้มีสัญญาในการเล่นหนังภาคต่อของเอ็กซ์เม็น ถ้าเธอไม่กลับมาแสดงบทหนัง Dark Phoenix ต้องปรับแก้เผื่อรับสถานการณ์ดังกล่าวบ้างไหม

        ทางผู้กำกับได้ออกมาตอบประเด็นดังกล่าวอย่างหมดเปลือกว่า "เราหวังใจว่าเราจะได้นักแสดงในหนัง First Class อย่าง Fassbender, McAvoy, Jennifer และ Nic กลับมาในหนังภาคนี้ ส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ผมคิดแบบนั้นเพราะว่ามันสิ้นสุดเรื่องราวจากในหนัง X-Men: Apocalypse ขณะเดียวกันก็ชัดเจนว่า Bryan Singer ไม่ได้กำกับหนังเรื่องต่อไป เหล่านักแสดงมาคุยกับผมให้กำกับหนังเอ็กซ์เม็นภาคต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Jennifer ที่บอกกับผมว่าเธอจะไม่กลับมาแสดงหนังเรื่องอื่นๆ อีก ถ้าไม่ได้ผมกำกับ ผมได้รับการสนับสนุนจากพวกเขามาก"

X-Men: Dark Phoenix จะเล่าเรื่องราวเมื่อเหล่าทีม X-Men ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าหวั่นเกรงและแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยเจอมา นั่นก็คือ Jean Grey หนึ่งในสมาชิกของทีม ผู้ถูกโจมตีด้วยพลังลึกลับระดับคอสมิคขณะปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ ซึ่งแม้พลังลึกลับนี้จะมอบความแข็งแกร่งแบบไม่จำกัดให้ก็จริง แต่กลับเป็นพลังอันมหาศาลที่แม้แต่ตัวของจีนเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ ด้วยพละกำลังและอารมณ์ที่แปรปรวนเข้าขั้นวิกฤติ ทำให้จีนแบกรับต่อไปไม่ไหวแล้วระเบิดทุกสิ่งอย่างออกมา และเลวร้ายขนาดกล้าทำร้ายคนที่เธอรักมากที่สุด รวมถึงทำลายหัวใจสำคัญที่รวมทีม X-Men เข้าไว้ด้วยกัน

       เตรียมสู้ศึกไปพร้อมกับฮีโร่กลายพันธุ์เหล่านี้ได้ใน "X-Men: Dark Phoenix - x-เม็น ดาร์ก ฟีนิกซ์" 6 มิถุนายน นี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์