พาทัวร์โลกของอลิตา ก่อนชม Alita: Battle Angel
Alita: Battle Angel ผลงานกำกับเรื่องล่าสุดของผู้กำกับโรเบิร์ต โรดริเกซ ที่เปลี่ยนแนวจากบู๊ดุดิบจากที่เราเคยคุ้นกันอย่าง Desperado , From Dusk til Dawn , Machete และ Sin City มาลองจับแนวแอ็คชั่น-ไซไฟดูบ้าง กับเรื่องราวของหุ่นยนต์สาวในโลกอนาคตที่ความจำเสื่อม ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดัง Gunnm การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องดังตั้งแต่ยุค 90s คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ "เพชฌฆาตไซบอร์ก" ซึ่งมีแนวโน้มว่าหนังจะลากยาวต่อไปอีกหลายภาค เพราะการ์ตูนต้นฉบับนั้นก็มีออกมาหลายภาค รวมแล้วหลายสิบเล่ม แต่สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านการ์ตูนต้นฉบับ หรือเคยอ่านมานานจนลืมไปแล้ว บทความนี้จะสรุปพื้นฐานแบบสั้น ๆ ให้เพื่อการไปรับชมแบบได้อรรถรสพร้อมกัน 13 กุมภาพันธ์นี้
ฉากหลังของเรื่องราว
เรื่องราวของ Alita: Battle Angel เกิดในศตรวรรษที่ 26 เรื่องราวเจาะลึกลงไปในปีที่ 300 หลังสงครามที่ชื่อว่า 'The Fall' ด้วยความเจริญสุดขีดของมนุษยชาติในวันนั้นก่อให้เกิดสงครามเทคโนโลยี แล้วแบ่งมนุษย์ออกเป็น 2 วรรณะ อย่างชัดเจน กลุ่มที่เจริญแล้วและใช้ชีวิตอยู่กับวิทยาการอนาคตจะอยู่บนเมืองลอยฟ้าขนาดยักษ์ที่ชื่อว่า "ซาเล็ม" และมนุษย์ส่วนใหญ่ที่เหลือยังคงใช้ชีวิตบนผิวโลก ดำเนินชีวิตไปกับวิทยาการที่ล้าหลัง แล้วค่อยๆ ก่อร่างสังคมกันขึ้นมาใหม่
ซาเล็ม
วิทยาการจากฝีมือมนุษย์ในยุคนั้น ได้สร้างเมืองขนาดยักษ์ลอยตัวอยู่บนท้องฟ้า เพื่อแบ่งแยกมนุษย์ที่มีความร่ำรวย มีสติปัญญาขั้นสูง ให้แบ่งแยกสังคมถิ่นฐานไปอยู่บนเมืองลอยฟ้า ในช่วงเริ่มต้นมีเมืองลอยฟ้าหลายแห่ง แต่เหตุจากการแบ่งแยกก่อให้เกิดสงคราม "The Fall" เมืองลอยฟ้าถูกทำลายในสงครามทั้งหมด เหลือเพียง "ซาเล็ม" ที่รอดจากสงครามครั้งนั้น และซาเล็มก็ลอยอยู่บนท้องฟ้ามากว่า 300 ปีแล้ว จากความตั้งใจเมื่อแรกเริ่มนั้น เมืองลอยฟ้าจะมีปล่องลิฟต์อยู่กลางเมืองเพื่อให้ประชากรบนพื้นโลกและซาเล็มไปมาหาสู่กันได้ แต่แล้วปล่องลิฟต์ก็ถูกทำลายในระหว่างสงคราม ทำให้ปัจจุบันคงเหลือแต่ปากปล่องลิฟต์ที่อยู่ในสภาพฉีกขาดให้เห็นอยู่ด้านใต้ของซาเล็ม ซาเล็มถูกตัดขาดการติดต่อกับพื้นโลกมาแล้วกว่า 300 ปี
ด้วยระยะเวลายาวนานเพียงนี้ทำให้ประชากรบนซาเล็ม เป็นประชากรรุ่นใหม่ที่ถือกำเนิดบนซาเล็ม และเชื่อว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่บริสุทธิ์ไม่มีการปนเปื้อนสิ่งสกปรกจากพื้นโลก และไม่ต้องการให้มีประชากรจากพื้นโลกเข้ามาปะปนในซาเล็ม เพราะอาจจะแพร่เชื้อโรค ถ้ามีประชากรบนซาเล็มเกิดเป็นโรคร้าย พวกเขาจะถูกเนรเทศให้มาอยู่บนพื้นโลก มนุษย์ที่เจ็บป่วยเมื่อมาอยู่บนพื้นโลกจะสามารถปรับเปลี่ยนอวัยวะใหม่ให้ตัวเอง ด้วยการใช้อวัยวะแมคคานิคส์มาทดแทน ทำให้กลายเป็นมนุษย์ผสมไซบอร์กแต่ก็สามารถมีชีวิตต่อไปได้อีกนาน
ลานขยะ
ตำแหน่งที่อยู่ใต้ซาเล็มคือ Iron City หรือ เมืองเหล็ก และตำแหน่งที่ตรงกับปากปล่องลิฟต์เดิมก็คือ "ลานขยะ" ทีกินบริเวณกว้าง เพราะซาเล็มจะทิ้งขยะลงมาทางปล่องนี้ และลานขยะนี้ล่ะ เปรียบเสมือนลานสมบัติที่มีค่าของ ดร.อิโด เขาเป็นพระผู้มาโปรดของเหล่าชนชั้นแรงงาน เพราะ ดร.อิโด คอยช่วยเหลือซ่อมแซมชิ้นส่วนจักรกลให้กับบรรดาคนยากจน ที่ต้องการแค่อะไหล่ถูกๆ เพียงพอให้พวกเขาทำงานต่อไปได้ในแต่ละวัน ชนชั้นแรงงานพวกนี้ต่างทำงานในโรงงาน ที่คอยผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์เพื่อส่งขึ้นไปที่ซาเล็ม แล้วตำนานระหว่าง ดร.อิโด กับ อลิตา ก็เริ่มมาจากลานขยะนี้ล่ะ เมื่อ ดร.อิโด มาขุดคุ้ยหาชิ้นส่วนเพื่อไปทำอะไหล่มนุษย์เช่นเคย แต่วันหนึ่งเขาก็พบซากไซบอร์ก ที่มีส่วนหัวต่อเนื่องกับกระดูกสันหลัง ภายในหัวนั้นมีมันสมองมนุษย์ที่ยังทำงานอยู่ปกติ ดร.อิโด จึงนำกลับที่พักและประกอบร่างขึ้นมาจนมีชีวิตแล้วก็ตั้งชื่อเธอว่า "อลิตา"
เมืองเหล็ก Iron City
ห่างออกไปรอบๆ ลานขยะคือบริเวณของเมืองเหล็ก อุตสาหกรรมหลักของเมืองเหล็กคือเป็นแหล่งผลิตสรรพสิ่ง เครื่องอุปโภคหลักส่งไปเลี้ยงชาวซาเล็ม ในหนังเราจะได้รู้จักเมืองเหล็กผ่านสายตาของอลิตา ที่เริ่มเรียนรู้ชีวิตของเมืองเหล็กด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ มองเห็นแต่ด้านสวยงามของชีวิตผู้คนในเมืองนี้ แต่ฮิวโก้เพื่อนชายคนสนิทของอลิต้าก็เตือนเธออยู่เสมอว่า "โลกข้างล่างนี้มันอยู่ยากนะ" นั่นเพราะฮิวโก้เกิดและเติบโตมาในเมืองเหล็ก เลยรู้จักด้านที่โหดร้ายของเมืองนี้ แต่สุดท้ายแล้วอลิต้าก็ได้รู้จักกับด้านมืดของเมืองเหล็กด้วยตัวของเธอเอง ขณะเดียวกันอันตรายต่าง ๆ ที่มาถึงตัวเธอก็ดึงศักยภาพด้านการต่อสู้ที่ฝังอยู่ภายในตัวเธอออกมาเช่นกัน
กำแพงไฮโดร
เป็นกำแพงน้ำที่ล้อมรอบเมืองเหล็ก และกันชาวเมืองให้ห่างออกจากสถานีขนส่งที่เชื่อมต่อระหว่างโลกเบื้องล่างกับซาเล็ม ดูด้วยสายตากำแพงไฮโดรที่เป็นกำแพงน้ำดูไม่น่าจะมีอันตราย แต่แค่เพียงเรายืนมือเข้าไปในกำแพงน้ำ มือก็จะหายไปในพริบตา กำแพงไฮโดร เป็นหนึ่งในวิทยาการล้ำหน้าที่มาจากซาเล็ม
เดอะ แฟคทอรี
คือสำนักงานใหญ่ที่ควบคุมและดูแลความสงบเรียบร้อยในเมืองเหล็ก และขึ้นตรงกับซาเล็ม เดอะ แฟคทอรี มีความปลอดภัยหนาแน่นด้วยกำแพงสูง และมีหุ่นยนต์แมงมุมคอยรักษาการณ์ หัวหน้าใหญ่ที่คอยบัญชาการอยู่ใน เดอะ แฟคทอรี คือ "เว็คเตอร์" เขาเป็นผู้บังคับบัญชาของเหล่า เดอะ เซ็นจูเรียน ผู้ทำหน้าที่ผู้คุ้มกฏเช่นเดียวกับตำรวจที่คอยลาดตระเวณอยู่ในเมืองเหล็ก เว็คเตอร์ ยังมีหน้าที่ในการส่งสินค้าต่างๆ นานาไปยังซาเล็ม และยังเป็นผู้จัดการแข่งขัน มอเตอร์เกม เป็นคนจ่ายรางวัลนำจับให้กับบรรดานักล่าค่าหัว ที่ตามเก็บเหล่าอาชญากรที่เป็นอันตรายต่อซาเล็ม
สนามแข่งขัน มอเตอร์บอล
ฉากหนึ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ มังงะ หลังจากทราบข่าวว่า Gunnm จะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ก็คือการที่พวกเขาจะได้เห็นภาพการแข่งขันมอเตอร์บอลที่เข้มข้นสนุกสนานเป็นภาพเคลื่อนไหวที่สมจริงสักที การแข่งขันมอเตอร์บอล เป็นเกมการประลองที่คิดค้นและลงทุนโดยซาเล็ม เป็นเกมที่ให้ตัวแทนจากเมืองเหล็กได้เข้ารวมการประลองความเร็วและสังหารผู้ร่วมแข่งขันเพื่อชัยชนะ จุดประสงค์เพื่อความบันเทิงของชาวซาเล็มโดยเฉพาะ
เดอะ แบดแลนด์
คือดินแดนรายล้อมเมืองเหล็ก ที่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าและแม่น้ำ ขณะเดียวกันบริเวณแบดแลนด์ก็ยังคงมีซากของยานรบจากครั้งสงครามตกค้างอยู่ให้เห็น และยังเป็นที่ซ่อนตัวของเหล่ากบฏที่ไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของซาเล็ม บรรยากาศของแบดแลนด์ยังเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์แตกต่างจากความอึกทึกคึกโครมของเมืองเหล็กอย่างมาก ที่นี่ไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง และก็เป็นฉากสำคัญที่อลิตาและฮิวโก้ได้ออกมาหาคำตอบบางอย่างในแบดแลนด์นี้
ตัวอย่างภาพยนตร์