12 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ"บัมเบิ้ลบี"

Movie News7 ธันวาคม 2561

          หลังจาก มาร์เวล ได้สร้างจักรวาลของตัวเองขึ้นมา มีซูเปอร์ฮีโร่ข้ามเรื่องไปสร้างวีรกรรมยิ่ง ทำรายได้มหาศาลจนหลาย ๆ ค่ายต่างอิจฉา ทำให้เกิดโมเดลใหม่ในฮอลลีวู้ด หลายๆ ค่ายต่างพยายามจะสร้างจักรวาลของตัวเอง ฟอกซ์ก็พยายามขยายจักรวาล เอ็กซ์-เม็น ของตัวเอง ด้วยการสร้างภาคแยก Dark Phoenix , โซนี่ ก็เริ่มขยายจักรวาล spider-man ด้วยการสร้าง venom ออกมาเป็นภาคแยก ส่วนยูนิเวอร์แซล ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่ในมือ ก็เลยพยายามใช้บรรดาปีศาจคลาสิกมาสร้าง dark universe แต่แค่ก้าวแรกกับ the mummy ก็ล่มไม่เป็นท่าเสียแล้ว ทางพาราเมาท์ที่หากินกับ Transformers มาแล้ว 6 ภาค ก็ยังคงเดินหน้ากับเหล่าออโต้บอทต่อไป ด้วยการพักภาคต่อไว้ชั่วคราวแล้วดัน "bumblebee"ออกมาเป็นภาคแยก เพราะเจ้าบัมเบิลบีนี้มีบทบาทมาตั้งแต่ภาคแรก แล้วก็เป็นออโต้บอทที่คนดูรักมากที่สุดด้วย ถ้าประสบผลสำเร็จก็น่าจะขยายจักรวาลทรานสฟอร์มเมอร์สได้สำเร็จ เราคงเห็นเหล่าออโต้บอท และดีเซ็ปติคอนอีกหลายตัวมีหนังของตัวเอง หนัง Bumblebee มีกำหนดฉายวันที่ 20 ธันวาคม นี้ ก่อนไปดูผู้เขียนเอาเรื่องราวน่ารู้ของเจ้าออโต้บอทเหลือง-ดำ ตัวนี้มาฝากกันครับ เชื่อว่าเกร็ดน่ารู้เหล่านี้น่าจะทำให้ดูหนังกันได้สนุกขึ้นครับ

 

1. ทำให้รถเชฟโรเล็ต คามาโรกลับมาได้รับความนิยม



       เชฟโรเล็ต คามาโร เป็น 1 ในรถสปอร์ต 2 ประตูสายพันธุ์อเมริกันที่ได้รับความนิยมมากในยุค 60s - 70s มีชื่อเรียกรถเหล่านี้ว่า มัสเซิลคาร์ , เชฟโรเล็ต คามาโร ถือกำเนิดในปี 1967 และคงเอกลัษณ์ในรูปโฉมเดิมมาหลายทศวรรษจนหยุดสายการผลิตในปี 2002 เนื่องจากยอดขายตกต่ำ จนกระทั่งหนัง Transformers fiออกฉายในปี 2007 และทางผู้สร้างเลือกให้เจ้าหุ่นบัมเบิลบีเป็นหุ่นที่แปลงร่างมาจากรถเชฟโรเล็ต คามาโร ผลจากความฮิตของหนังทำให้เชฟโรเล็ต คามาโร กลับมาเดินสายผลิตอีกครั้ง จนถึงวันนี้เชฟโรเล็ต คามาโร ถูกผลิตออกมาเป็นรุ่นที่ 6 แล้ว ทางเชฟโรเล็ต จะออกคามาโรรุ่นใหม่ ๆ ออกมาตามหลังหนัง Transformers ทุกๆ ภาค

 

2. ร่างรถที่แท้จริงของบัมเบิ้ลบี คือโฟล์คเต่า



แฟนๆ หนัง Transformers จะรู้จักว่าบัมเบิ้ลบีคือออโต้บอท ที่มีร่างรถเป็น เชฟโรเล็ต คามาโร แต่สาวกดั้งเดิมต้งแต่เวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนตั้งแต่ยุค 80s จะรู้ว่าแท้จริงแล้วร่างรถของบัมเบิ้ลบีคือ รถเต่า โฟล์คสวาเก้น ซึ่งเป็นรถที่มีภาพลักษณ์สมถะกว่า เชฟโรเล็ต คามาโร อยู่มาก ซึ่งโฟล์คเต่าก็ดูเหมาะกับบุคลิกของบัมเบิ้ลบีในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนอยู่มาก เพราะเจ้าบัมเบิ้ลบีถูกวางตัวให้เป็นตัวละครเบอร์รองตลอดกาล

แต่เมื่อ transformers ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ก็จำเป็นต้องปรับภาพลักษณ์ให้บัมเบิ้ลบีดูมีความโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น โฟล์คเต่าดูไม่ใช่รถที่ให้ความรู้สึกว่าน่าจะออกไปต่อสู้กับใครได้เลย โดยเฉพาะบัมเบิ้ลบีเองก็เป็นหัวใจของทีมเสียด้วย เชฟโรเล็ต คามาโร จึงเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับร่างรถของบัมเบิ้ลบี แล้วก็กลายเป็นภาพที่ถูกจดจำติดตาไปแล้วเสียด้วย แต่เราจะได้พบบัมเบิ้ลบีในภาพลักษณ์รถโฟล่คเต่าอีกครั้งในหนัง Bumblebee ที่กำลังจะออกฉายนี้ เมื่อหนังย้อนไปเล่าประวัติความเป็นมาในยุคแรกของบัมเบิ้ลบีที่ยังมีโฟล์คเต่าเป็นร่างเริ่มแรกของเขา

 

3. อีกเหตุผลที่บัมเบิ้ลบี ไม่ได้เป็นโฟลค์เต่าอีกต่อไป



          อีกสักข้อเรื่องบัมเบิ้ลบี กับ โฟล์คเต่า สาวกดั้งเดิมของ Transformers ที่ติดตามมาตั้งแต่ตอนเป็นหนังสือการ์ตูนและการ์ตูนทีวี ต่างก็ยึดติดกับภาพลักษณ์ของบัมเบิ้ลบีที่แปลงร่างมาจากรถเต่า โฟล์คสวาเก้นสีเหลือง ซึ่งกลายเป็นภาพลักษณ์จดจำของบัมเบิ้ลบีไปแล้ว พอ Transformers กลายมาเป็นหนังแล้วผู้สร้างเปลี่ยนให้บัมเบิ้ลบีมีร่างรถเป็นเชฟโรเล็ต คามาโร ก็สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าแฟนๆ ดั้งเดิม แต่นั่นก็มีเหตุผลเบื้องหลังที่แท้จริง คือข้อตกลงทางลิขสิทธิ์ซึ่งมาจากทางบริษัทโฟล์คสวาเก้นเอง ที่ไม่อยากให้รถเต่าของตัวเองไปอยู่ในหนังที่มีแต่หุ่นยนต์ฆ่ากัน ส่วนไมเคิล เบย์ ผู้กำกับผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ Transformers เอง ก็ไม่อยากให้บัมเบิ้ลบีมีภาพลักษณ์ไปใกล้เคียงกับเจ้า Herbie รถเต่าที่มีชีวิต อีกหนึ่งแฟรนไชส์ชื่อดังของทางดิสนีย์

 

4. บัมเบิ้ลบียังมีร่างรถอื่นอีกหลายคัน



           แม้ว่าแฟนๆ ดั้งเดิมจะยังคงจดจำภาพลักษณ์ของบัมเบิ้ลบีว่าเป็นรถเต่าสีเหลืองจากหนังสือการ์ตูน และของเล่น จากวันที่บัมเบิ้ลบีถือกำเนิดมาในปี 1984 ไปจนถึงหนัง Transformers ภาคแรกในปี 2007 ที่บัมเบิ้ลบีมีร่างรถเป็นเชฟโรเล็ต คามาโร แล้วนั้น ในช่วงเวลาระหว่างนั้นบัมเบิ้ลบีเอง ก็ยังเคยมีร่างรถอีกหลายยี่ห้อหลายรุ่นเช่นกัน

ในหนังสือการ์ตูนซีรีส์ G.I. Joe vs. The Transformers เป็นการ์ตูนที่ตีพิมพ์โดยมาร์เวล คอมิกส์ เจ้าบัมเบิ้ลบีสามารถเดินทางข้ามกาลเวลาด้วยร่างรถ AMC Pacer , ส่วนในสายการผลิตของเล่นเอง ก็มีการออกแบบให้บัมเบิ้ลบีแปลงร่างเป็นรถได้อีกหลายแบบหลายรุ่น

รุ่นที่ฮิตๆ กันก็จะให้บัมเบิ้ลบีแปลงร่างเป็นรถ Chrysler ME 412 ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถสปอร์ตอเมริกันสองประตู ซึ่งนับวันก็ไกลจากภาพลักษณ์เดิมที่บัมเบิ้ลบีเคยเป็นโฟล์คเต่าในอดีต

 

5. เชฟโรเล็ต คามาโร จากหนัง Transformers ขายได้ 5.5 ล้านบาท



      ปี 2014 ในรัฐอริโซน่า บริษัท บาเร็ตต์-แจ็คสัน ได้เป็นผู้รับผิดชอบจัดประมูลขายบรรดารถที่ใช้ในการถ่ายทำหนัง Transformers ทั้ง 4 ภาคแรก และคันที่โดดเด่นที่สุดก็คือ Chevrolet Camaro SS ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นร่างรถของบัมเบิ้ลบีในหนัง และเจ้าของเดิมของรถคันนี้ก็คือตัวไมเคิล เบย์ ผู้กำกับของหนังนั่นเอง เจ้า Chevrolet Camaro SS คันนี้ ได้รับการประมูลขายไปที่ 5.5 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับตัวละครเบอร์รอง ซึ่งทำราคาได้สูงกว่า รถบรรทุก Peterbilt 379 ซึ่งเป็นร่างรถของออพติมัส ไพรม์ ตัวหัวหน้าออโต้บอท ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่องเสียด้วยซ้ำ ซึ่ง Peterbilt 379 ถูกประมูลขายไปที่ 3.9 ล้านบาท

 

6. เผยเหตุที่บัมเบิ้ลบีพูดไม่ได้



         สำหรับคอหนังที่ได้รู้จักเจ้าบัมเบิ้ลบีจากหนัง Transformers ต่างก็รู้ว่าบัมเบิ้ลบีเป็นหุ่นออโต้บอทตัวเดียวที่พูดไม่ได้ บัมเบิ้ลบีสื่อสารกับเพื่อนๆ ออโต้บอททางคลื่นความคิด ส่วนสาเหตุที่ทำให้บัมเบิ้ลบีพูดไม่ได้นั้น ถูกเล่าไว้ในฉบับการ์ตูนตั้งแต่ยุค 80s ในระหว่างที่บัมเบิ้ลบีหลงทางในระหว่างการเดินทางสู่ออลสปาร์ค จักรวาลคู่ขนานของเหล่าออโต้บอท บัมเบิ้ลบีได้เผชิญหน้ากับเมกาตรอน ตัวร้ายแห่งดีเซ็ปติคอน , บัมเบิ้ลบีเสียท่าโดนเมกาตรอนบีบคอแล้วชูขึ้นกลางอากาศ แต่บัมเบิ้ลบีก็ยังคงโวยวายด่าทอเมกาตรอน ทำให้เมกาตรอนเคืองจัดแล้วออกแรงขย้ำเข้าที่คอของบัมเบิ้ลบีเป็นผลให้กล่องเสียงถูกทำลายตั้งแต่บัดนั้น , ในฉบับหนังสือการ์ตูนนั้น บัมเบิ้ลบีได้รับการซ่อมแซมกล่องเสียง แต่ในหนังยังคงพูดไม่ได้

 

7. บัมเบิ้ลบีได้แก้แค้นเมกาตรอน



         TRANSFORMERS PRIME เป็นการ์ตูนซีรีส์ที่ฉายทางโทรทัศน์ เป็นอีกเวอร์ชั่นของทรานสฟอร์มเมอร์ ที่เนื้อหาค่อนข้างรุนแรงกว่าฉบับภาพยนตร์ และมีตัวละครหลายตัวต้องตายไปในซีรีส์นี้ และในซีรีส์นี้ก็มีฉากที่บัมเบิ้ลบีได้ชำระแค้นเมกาตรอน หลังจากโดนทำลายกล่องเสียง

ในฉากการต่อสู้ระหว่างทัพออโต้บอทและเมกาตรอน บัมเบิ้ลบีพลาดท่าโดนเมกาตรอนยิงจนร่วงจากกลางอากาศ ทำให้บาดเจ็บสาหัสแต่ยังไม่ตาย ออพติมัสไพรม์เข้ามารับช่วงต่อ เดินหน้าพิชิตศึกกับเมกาตรอน แต่ในฐานะหัวหน้าออโต้บอท ทำให้เขายังมีกังวลกับบรรดาเพื่อนๆ ที่บาดเจ็บในการต่อสู้ทำให้ขาดสมาธิและเสียท่าให้กับเมกาตรอน และพ่ายแพ้ , บัมเบิ้ลบีที่บาดเจ็บแต่ยังมีแรงฮึด ได้คว้าดาบใหญ่และบินตรงเข้าหาเมกาตรอน เสียบดาบทะลุเข้าหน้าอกเมกาตรอน บัมเบิ้ลบีซึ่งได้รับการแก้ไขกล่องเสียงแล้ว ได้ตะโกนว่า "แกเคยเอาเสียงของฉันไป จากนี้แกจะพรากอะไรไปจากใครไม่ได้อีกแล้ว" เมกาตรอนทรุดฮวบและสูญเสียพลังไปทั้งหมด ได้ร่วงหล่นจากยาน ร่างลอยดิ่งเข้าสู่พื้นผิวโลกมนุษย์ เป็นชัยชนะของบัมเบิ้ลบี เจ้าหุ่นเบอร์รองที่ชำระแค้นได้สำเร็จ

 

8. บัมเบิ้ลบีในฐานะผู้นำออโต้บอท



         ในตอนจบของการ์ตูน Transformers Prime ออพติมัส ไพรม์ ได้สละชีพของตัวเองเพื่อปกป้องยูนิครอน จากเงื้อมมือของ ไพรมัส , มาถึงปี 2015 กำเนิดการ์ตูนซีรีส์ภาคต่อ Transformers: Robots in Disguise เมื่อโลกตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง หลังจากยานที่ทำหน้าที่คุมขังเหล่าดิเซ็ปติคอน เกิดอับปาง ทำให้เหล่าดีเซ็ปติคอนวายร้ายหลายตัวมุ่งหน้าเข้าสู่โลกมนุษย์ เหล่าออโต้บอท จึงกลับมาช่วยโลกอีกครั้ง และในวันนี้ที่ไม่มีออพติมัส ไพรม์ อีกต่อไปแล้ว บัมเบิ้ลบี จึงถูกเลือกให้เป็นผู้นำเหล่าออโต้บอทคนใหม่ ก็ถึงคราวสำคัญของตัวละครเบอร์รองตลอดกาล ได้เลื่อนขั้นมาเป็นผู้นำในการ์ตูนเสียที ใน Transformers: Robots in Disguise นอกจากเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของออโต้บอท และ ดีเซ็ปติคอนแล้ว ยังเล่าเรื่องราวการพยายามทำหน้าที่ผู้นำของบัมเบิ้ลบีด้วย

 

9. บัมเบิ้ลบีเป็น 1 ใน 5 ตัวละครจากการ์ตูนที่(ยัง)ไม่ถูกฆ่า



        ต้องเน้นว่า "ยัง" ไม่ถูกฆ่า เพราะไมเคิล เบย์ จะยังคงสร้างหนัง Transformers ต่อเนื่องไปอีกหลายภาค ก็ไม่รู้ว่าเขาจะใจร้ายเขียนให้บัมเบิ้ล บี ตายในภาคไหนหรือเปล่า เพราะแม้แต่ออพติมัส ไพรม์ ผู้นำของเหล่าออโต้บอทยังตายตั้ง 2 ครั้งแล้วในภาค Revenge of the Fallen และ Age of Extinction แต่ก็ฟื้นกลับมาได้ทั้ง 2 ครั้ง มีตัวละครดั้งเดิมจากเวอร์ชั่นการ์ตูนอีกหลายตัวที่ต้องมาตายในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ อย่างเช่น JAZZ เขาต้องตายอย่างสยดสยอง ด้วยการถูกเมกาตรอนกระชากแยกเป็น 2 ส่วนใน Transformers (2007) , Ironhide พลาดท่าโดนปืนใหญ่ของเซ็นทิเนลยิง แล้วก็ค่อย ๆ ตายลงใน Transformers: Age of Extinction (2014) และในภาคเดียวกัน Ratchet ที่บาดเจ็บช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็ถูก Lockdown สังหารอย่างเลือดเย็น

 

10. ฮาสโบรเคยเสียลิขสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของชื่อ "บัมเบิ้ลบี"



         ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ ฮาสโบร บริษัทผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของเล่น Transformers ที่กลายมาเป็นหนังสือการ์ตูน , อนิเมชั่น และภาพยนตร์ ที่ไม่ได้จดลิขสิทธิ์การเป็นเจ้าของชื่อบรรดาตัวละครของเขา ในช่วง 1990s ฮาสโบรได้สูญเสียการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ชื่อ "Bumblebee" แหล่งข่าวไม่ได้บอกว่าบริษัทใดได้ไป ทำให้ในการ์ตูนซีรีส์ Beast Wars และ Beast Machines จึงไม่มีออโตบอทชื่อ "บัมเบิ้ลบี" ร่วมอยู่ด้วย แต่มีออโต้บอทที่มีภาพลักษณ์ชัดเจนด้วยการเป็นรถสีเหลือง ดูออกว่าเป็นบัมเบิ้ลบี แต่ใช้ชื่อว่า "Hot Shot"แทนใน 2 เรื่องนั้น แต่ไม่นานจากนั้นฮาสโบรก็ได้ชื่อ บัมเบิ้ลบี กลับมาเป็นของตัวเอง และในปีนี้ ฮาสโบรก็ฟ้องร้อง ดีซี คอมิกส์ ในกรณีที่ฝ่ายหลังสร้างซูเปอร์ฮีโร่สาวรายใหม่จากของเล่นของ "แมทเท็ล" ในชื่อ "บัมเบิ้ลบี"

 

11. ในเวอร์ชั่นการ์ตูน บัมเบิ้ลบี ตายแล้วมากกว่า 1 ครั้ง



        ในจักรวาล Transformers มีตัวละครที่คนดูรักมากอยู่ 2 รายก็คือ ออพติมัส ไพรม์ และ บัมเบิ้ล บี ซึ่งตัวออพติมัส ไพรม์ ก็ถูกฆ่าตายมาแล้วหลายครั้ง แต่เขาก็ฟื้นกลับมาได้ทุกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าในจักรวาล Transformers นั้น บัมเบิ้ล บี ก็ถูกดีเซ็ปติคอนสังหารมาแล้วหลายครั้ง เพียงแต่ว่าบนจอภาพยนตร์ บัมเบิ้ล บี ยังอยู่รอดปลอดภัยมาทุกภาค

ในตอน "Dark Cybertron" ช็อคเวฟ หุ่นดีเซ็ปติคอนได้รับมอบพลังมหาศาล และเกิดคุ้มคลั่ง อยากจะฆ่าหุ่นทุกตัวไม่ว่าจะเป็นดีเซ็ปติคอน หรือออโต้บอท แล้วรายที่โชคร้ายก็คือ บัมเบิ้ลบี ที่โดนช็อคเวฟสังหาร ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มของเหล่าหุ่นเพื่อตามกำจัดช็อคเวฟ

ในการ์ตูน Transformers vs. G.I. บัมเบิ้ลบี ก็ตายอีกเช่นกัน เริ่มจากบัมเบิ้ลบีขับยานหนีการตามล่าของ สตาร์สครีม ยานของบัมเบิ้ลบีถูกยิงร่วงลงมาบนพื้นโลก ในช่วงนั้นกลุ่ม จี.ไอ.โจ กำลังต่อสู้กับแก๊งคอบร้า บัมเบิ้ลบีเข้าไปช่วยกลุ่ จี.ไอ.โจ แล้วก็เสียท่าโดนมิสไซล์ยิงร่างหลุดเป็นชิ้น โชคร้ายกว่านั้น สตาร์สครีมตามมาแล้วกระชากหัวของบัมเบิ้ลบีไปเป็นของบรรณาการมอบให้เมก้าตรอน เมก้าตรอนรับไป แล้วเอาทำเป็นเครื่องประดับร้อยใส่ในสร้อยคอ ซึ่งภายหลังเหล่าออโต้บอทไปชิงหัวบัมเบิ้ลบีกลับคืนมาใส่ร่างได้

 

12. บุคลิกของบัมเบิ้ลบีในหนัง Transformers อิงมาจาก ไมเคิล เจ.ฟอกซ์



          ไมเคิล เบย์ เคยเปิดเผยมาว่าเหล่าหุ่นออโต้บอทในหนังของเขาล้วนอิงบุคลิกมาจากดาราดัง อย่างออพติมัส ไพรม์ ในฐานะผู้นำออโต้บอทนั้นก็อิงบุคลิกของเลียม นีสัน ส่วนบัมเบิ้ลบีนั้นก็อิงมาจากไมเคิล เจ.ฟอกซ์ ดาราดังในยุค 80s แล้วไมเคิล เบย์ ก็เจาะจงลงไปอีกว่าเขาตั้งใจเอาบุคลิกของ มาร์ตี้ แม็คฟลาย ตัวละครดังจากหนังไตรภาคอมตะ Back to the future นั่นเอง ว่ามาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันมีบุคลิกของ มาร์ตี้ แม็คฟลาย ตรงไหน เพราะบัมเบิ้ลบี นั่นก็พะบู๊พอควร ทั้งหกคะเมนตีลังกา เตะ ต่อย แต่มาร์ตี้ แม็คฟลาย แทบไม่ได้มีบทบู๊เลย อย่างมากก็เห็นแค่เล่นสเก็ต กับลีดกีตาร์โชว์ ซึ่งไมเคิล เบย์ ก็ตอบข้อสงสัยว่าให้สังเกตท่าเดินแบบขาโก่งๆ ของบัมเบิ้ลบี และท่าทางตอนที่เขาเพลิดเพลินสบาย ๆ ตอนอยู่กับเพื่อนรักแซม วิตวิคกี้ นั่นล่ะ น่าจะพอมองเห็นตัวตนของมาร์ตี้ แม็คฟลาย แอบซ่อนอยู่

คอยพบกับวีรกรรมแบบฉายเดี่ยวครั้งแรกของ Bumblebee ออโต้บอทที่คนดูรักที่สุด พร้อมกันวันที่ 20 ธันวาคม นี้

 

ตัวอย่างภาพยนตร์