9 เรื่องที่หลายคนอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ Whitney Houston
หลังจากที่ดีว่าผิวสี Whitney Houston จากไปในปี 2012 จากการเสพยาเกินขนาด จนสร้างความเสียใจให้กับเหล่าแฟนเพลงทั่วโลก หลายๆ ฝ่าย ทั้งค่ายเพลง และค่ายการ์ตูนก็นำเพลง และชีวิตของเธอมาเล่าใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นการไว้อาลัย ล่าสุดก็กำลังจะมีการนำกลับมาเล่าใหม่อีกครั้งในรูปแบบของภาพยนตร์อัตชีวประวัติ ภายใต้ชื่อว่า "I Will Always Love You: The Whitney Houston Story"
ก่อนที่จะได้ชมหนังอัตชีวประวัติเรื่องนี้ SF ขอนำเสนอ 9 เรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับ ผู้หญิงนี้ Whitney Houston มาเป็นการอุ่นเครื่องกันก่อน
1. ความสามารถในการร้องเพลงส่งต่อจากสายเลือด
Whitney Elizabeth Houston เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2506 เธอเป็นลูกสาวของ นักร้อง Gospel ชื่อดัง Cissy Houston ผู้เป็นเจ้าของ Grammy Awards สาขาอัลบั้มเพลง Soul Gospel ยอดเยี่ยม ที่ในอัลบั้มนี้มีเพลงดังอย่าง How Sweet It Is (To Be Loved by You)ในเวอร์ชั่น Gospel
2. เมื่ออายุเพียง 12 ปี เธอได้เป็นผู้ร้องนำของคณะประสานเสียงในโบสถ์
ด้วยความที่เธอเติบโตมากับคุณแม่ที่เป็นนักร้อง Gospel การร้องเพลงในโบสถ์จึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ และเมื่อเธอได้อายุเพียง 12 ปี ก็ได้เป็นผู้ร้องนำของคณะประสานเสียงในโบสถ์ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่พาเธอเข้าสู่วงการในฐานะนักร้องประสานเสียง และเคยร่วมงาน กับชาก้า คาน และไปปรากฏตัวในคอนเสิร์ตของคุณแม่อยู่บ่อยๆ
3. มีเพลงฮิตติดหูตั้งแต่อัลบั้มแรก
อัลบั้มแรกของ Whitney Houston ออกขายในปี พ.ศ. 2528 โดยมีเพลงฮิตเพลงแรกคือ "You Give Good Love" ขึ้นสูงสุดอันดับ 3 ในอเมริกา ตามมาด้วยเพลงอันดับ 1 อีก 3 เพลงคือ "Saving All My Love for You", "How Will I Know" และ "Greatest Love of All"
4. กำเนิดเพลงชาติของบรรดา Jazz Bar ในกรุงเทพฯ
Saving All My Love for You คือเพลงฮิตขึ้นชาร์ตอันดับ 1 จากอัลบั้มเดบิวต์ ที่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเสมือนเพลงชาติของบรรดา Jazz Bar ในกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อปี 1990 เธอได้ขึ้นโชว์เพลงนี้ในขณะที่กำลังไม่สบาย นี่จึงอาจไม่ใช่โชว์สุดเพอร์เฟ็กต์ของเธอ แต่การร้องสดแบบไม่มีลิปซิงก์ ไม่มี autotune หรือเทคนิคใดๆ ช่วย นอกจากเสียงร้องกับดนตรีและแซ็กโซโฟนเพียวๆ ก็ไม่ใช่ว่านักร้องหน้าไหนจะทำได้ดี ตรงกันข้าม ความป่วยของเธอกลับช่วยขับความโรแมนติกแบบเศร้าๆ ให้จมดิ่งลงไปอีกด้วยซ้ำ
5. ชีวิตรักทำให้ดับวูบ
Whitney แต่งงานกับนักร้อง R&B ขื่อ Robert Barisford "Bobby" Brown หรือ Bobby Brown และลูกสาวเพียงแค่คนเดียวคือ Bobbi Kristina Houston Brown แต่ชีวิตรักของเธอแม้จะมีพยานตัวน้อยคอยเป็นกาวใจ แต่ก็ไม่อาจประคับประคองชีวิตคู่ได้ สุดท้ายภายหลังก็ตัดสินใจแยกทางกัน และหย่ากันเมื่อ ปี 2007 ซึ่งในช่วงเวลานั้นชีวิตเธอต้องวุ่นวายเพราะการหย่าร้าง และยังรวมไปถึงเรื่องปัญหาการใช้ยาเสพติดของเธอด้วย
6. พิชิตออสการ์สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม
ในปี พ.ศ. 2541 Whitney ออกอัลบั้ม My Love Is Your Love ชุดแรกในรอบ 8 ปีที่ไม่ใช่อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ อัลบั้มนี้เธอทำงานร่วมกับ ศิลปินหลายคน โดยเพลงแรก "When You Believe" เป็นเพลงที่ร้องคู่กับ Mariah Carey และเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง The Prince of Egypt ซึ่งเพลงนี้ได้รับรางวัลออสการ์ ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
7. ร้องเพลง Cover แจ่มกว่าต้นฉบับ
หลายต่อหลายเพลงที่ Whitney นำมาขับร้องใหม่ในเวอร์ชั่นของเธอเอง แต่ก็กลายเป็นว่าโด่งดังกว่าเจ้าของต้นฉบับ โดยเฉพาะเพลง "I Will Always Love You" ซึ่งต้นฉบับเป็นของ Dolly Parton โดยเพลงต้นฉบับเป็นเพลงแนว Country แต่เมื่อถูกนำมาทำใหม่ก็เปลี่ยนเป็นในเวอร์ชั่น บัลลาด และใช้ เพลง "I Will Always Love You" นี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Bodyguard ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะว่า ครองอันดับ 1 อยู่นานถึง 14 สัปดาห์ แถมยังพ่วงด้วยการชนะรางวัล Grammy สาขาอัลบั้มแห่งปี ในปี พ.ศ. 2536 อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเพลงดังอย่างเพลง "The Greatest Love of All" ที่ต้นฉบับ ร้องโดย Jane Olivor ซึ่งเมื่อ Whitney นำมาร้องใหม่ก็โด่งดังจนใครๆก็นึกว่าเป็นเพลงของเธอ
8. คว้ารางวัล Best Female Pop Vocal Performance จากแกรมมี่
I Wanna Dance With Somebody เพลงจากอัลบั้มชุดที่ 2 ซึ่งคว้ารางวัล Best Female Pop Vocal Performance จากแกรมมี่ที่กลายเป็นเพลงจำเป็นในปาร์ตี้ทั้งหลายทั้งปวงไม่ว่าจะเวอร์ชั่นออริจินัลหรือแบบรีมิกซ์ แถมยังถูกใช้ในภาพยนตร์ด้วย เช่นล่าสุดก็ไปอยู่ในหนังวัยรุ่นเรื่อง Love, Simon (2018)
9. 11 กุมภาพันธ์ 2012 คือวันของข่าวร้าย
ข่าวร้ายสำหรับแฟนเพลงมาถึงในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2012 เมื่อมีการแจ้งความจากพนักงานโรงแรม Beverly Hilton ที่ตั้งอยู่ในเบเวอร์ลีฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งจมน้ำหมดลมหายใจ ก่อนที่จะมีการยืนยันในภายหลังว่า สตรีคนดังกล่าวคือ Whitney Houston ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำเนื่องจากอาการโรคหัวใจกำเริบ รวมถึงมีการใช้โคเคนที่เป็นปัจจัยร่วม และเหมือนเป็นเรื่องตลกร้ายที่วันเสียชีวิตของ Diva คนนี้ เป็นเวลาหนึ่งวันก่อนที่รางวัลแกรมมีประจำปี 2012 จะจัดงานขึ้นเพียงหนึ่งวันเท่านั้น