กลายเป็นจักรวาลไปแล้ว สำหรับ The Conjuring หลังจากทำภาคแยก Annabelle ออกมา 2 ภาค แล้วประสบความสำเร็จอย่างสูง ก็ถึงคิวภาคแยกเรื่องถัดไป นั่นก็คือ The Nun ผีแม่ชี แล้วกำลังจะมี The Crooked Man เรื่องราวของผีชุดแดงถือร่ม จาก The Conjuring 2 มาเป็นหนังภาคแยกอีกเรื่อง , ใน The Nun จะลงลึกไปถึงต้นกำเนิดของแม่ชีผีเฮี้ยน ที่เริ่มปรากฏตัวครั้งแรกใน The Conjuring 2 แล้วยังแว้บไปโผล่อีกครั้งใน Annabelle : Creation อีกด้วย หลังจากสร้างความสยองในระดับผีรับเชิญมา 2 เรื่องแล้ว ก็ถึงคราวที่เธอจะได้มีหนังของตัวเองเต็ม ๆ เสียที ถึงตอนนี้มารับรู้เรื่องราวน่าสนใจของหนัง The Nun กัน ก่อนที่จะไปสยองด้วยกันในโรง 6 กันยายน นี้

 

1. บทภาพยนตร์ The Nun เขียนโดยผู้เขียนบท "IT"

          แกรี่ เดาเบอร์แมน จากมือเขียนบทโนเนม กลายเป็นมือเขียนบทที่ฮอลลีวู้ดต้องการตัวไปแล้ว หลังจาก "IT"ผลงานเรื่อง ก่อนหน้าที่เขาดัดแปลงบทประพันธ์ของเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญให้ออกมาเป็นบทภาพยนตร์ แล้วหนังก็ฮิตสุดในปี 2017 กลายเป็นหนังสยองขวัญที่ทำเงินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวู้ดไปแล้ว แล้วแกรี่ ก็มั่นใจว่า The Nun จะเป็นผลงานอีกเรื่องของเขาที่ประสบความสำเร็จ เพราะเขามีไอเดียที่แปลกใหม่มาใช้กับบทของ The Nun

 

2. ผู้กำกับมาจากสายมิวสิควีดีโอ

          โคริน ฮาร์ดี้ เป็นผู้กำกับชาวอังกฤษที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมิวสิควีดีโอมาตั้งแต่ปี 2008 - 2011 เขากำกับมิวสิควีดีโอให้กับวง the Prodigy , Biffy Clyro , Olly Murs และ Paolo Nutini พอมาถึงปี 2015 ก็เริ่มเปลี่ยนแนวมาลองกำกับหนัง เรื่องแรกของเขา The Hallow ในปี 2015 เรื่องของครอบครัวชาวไอร์แลนด์ที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในป่าลึก แล้วก็ต้องเผชิญกับปีศาจร้ายที่สิงสู่อยู่ในป่าผืนนั้น หนังได้เสียงตอบรับที่ดี The Hollywood Reporter บอกว่า "นี่มันคือใบเบิกทางที่โคตรเจ๋ง ที่จะพาโคริน ฮาร์ดี ไปสู่โปรเจ็กต์ใหญ่ในเรื่องต่อไป" เว็บไซต์ Rottentomatoes ยกย่องว่า "มองเห็นอนาคตอันยอดเยี่ยมในหนังสยองขวัญของโคริน ฮาร์ดี"

 

3. เดิมทีผู้กำกับโคริน ฮาร์ดี้ ไม่ต้องการ เทสซา ฟาร์มิกา

         บทนำของเรื่องนี้คือ แม่ชีไอรีน ที่ผู้กำกับโคริน ฮาร์ดี้ ต้องนั่งดูนักแสดงที่มาออดิชั่นบทนี้นับ 100 คน แล้วคนที่เขาหนักใจมากที่สุดคือ เทสซา ฟาร์มิกา เพราะว่าเธอคือน้องสาวของ เวรา ฟาร์มิกา เจ้าของบท โลเรน วอร์เรน นักปราบผีหญิงจาก The Conjuring ทั้ง 2 ภาค เพราะเหตุนี้ทำให้เทสซาดูเหมือนเป็นเด็กมีเส้นมีสายจากพี่สาว แต่เมื่อเทสซา เข้าสู่ห้องออดิชั่น เธอก็ทำได้ดีเกินคาด การแสดงของเธอสร้างความประทับใจให้กับโคริน ฮาร์ดี้ ได้จริงๆ "ด้วยความสัตย์จริงครับ แรกเริ่มเดิมทีผมไม่อยากได้เทสซา มาแคสต์บทนี้เลย เพราะว่าเธอเป็นน้องสาวของเวรา มันจะออกมาดูเหมือนเล่นพรรคเล่นพวก แต่แล้วเธอก็ทำได้ดีมากในขั้นตอนออดิชั่น" โคริน ฮาร์ดี้ เผยความในใจ

 

4. เนื้อหามีเรื่องราวของการผจญภัย

      ความน่าสนใจอีกอย่างของ The Nun ก็คือมันไม่ใช่หนังสยองขวัญเพียวๆ แต่ก็มีแนวทางอย่างอื่นมาผสมผสานลงไปด้วย แม้ว่ามันจะเจาะกลุ่มเป้าหมายแฟนๆ หนังสยองขวัญ แต่มันก็พาคนดูร่วมผจญภัยลงไปในมุมมืดของยุคหลังสงครามยุโรป ผู้กำกับโคริน ฮาร์ดี้ แย้มๆ มาว่า"ผมเผยอะไรตอนนี้มากไม่ได้หรอก แต่บอกได้ว่ามันเป็นบทหนังที่ชวนตื่นเต้นมากขณะอ่าน มันพาเราย้อนไปในโรมาเนีย ในยุค 50s มันเป็นโลกที่น่าสนใจ น่าค้นหามาก เป็นหนังสยองขวัญที่มีเรื่องราวของการผจญภัยเจือปนอยู่ด้วย"

เรื่องราวใน The Nun เริ่มต้นเมื่อแม่ชีสาวผู้พำนักประจำอยู่ในโบสถ์ห่างไกลได้กระทำการฆ่าตัวตาย ข่าวร้อนไปถึงกรุงวาติกัน จึงได้ส่งบาทหลวงผู้มีประสบการณ์กับเรื่องลึกลับดำมืด มาพร้อมกับลูกศิษย์ที่เป็นแม่ชีสาวอีก 1 ราย ทั้งคู่มาเพื่อสืบหาเบื้องลึกเบื้องหลังการตายของแม่ชีสาว แต่แล้วก็ต้องพบกับวิญญาณร้ายของแม่ชีปีศาจ"

 

5. หนังไปถ่ายทำกันในทรานซิลวาเนีย

         การต้องยกกองถ่ายไปถ่ายทำกันในโรมาเนีย เป็นการเพิ่มต้นทุนการสร้างที่สตูดิโอจำเป็นต้องจ่าย เพื่อให้ได้ภาพของภูมิประเทศในแถบยุโรปตะวันตกจริงๆ ในทรานซิลวาเนียเต็มไปด้วยปราสาทน่ากลัวมากมาย และเป็นถิ่นฐานเดิมของ วลาดจอมเสียบ ในยุค 1930 ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ บราม สโตคเกอร์ นำเรื่องราวของเขาไปดัดแปลงเป็นนิยาย "แดรคคูล่า" แกรี่ เดาเบอร์แมน ผู้เขียนบทที่ไปอยู่กับกองถ่ายด้วยได้เล่าประสบการณ์ว่า "ที่โรมาเนียนั่นมีทั้งปราสาท สุสานแล้วก็เต็มไปด้วยหมอก เต็มไปด้วยบรรยากาศสไตล์โกธิก ผมได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างแบบไม่รู้ลืมแน่ๆ"

 

6. พลอตเรื่องได้แรงบันดาลใจจากหนัง "The Name Of The Rose"

        The Name Of The Rose หนังปี 1986 ดัดแปลงมากจากบทประพันธ์ของ อัมเบอร์โต เอโก นักประพันธ์ชาวอิตาเลียน หนังได้ ฌอน คอนเนอรี่ มารับบทบาทหลวง วิลเลียม บาสเกอร์วิลล์ ผู้ที่เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของการสร้างตัวละคร เชอร์ล็อค โฮล์ม , วิลเลียม บาสเกอร์วิลล์ และลูกศิษย์ของเขา แอดโซ แห่ง เมลค์. ถูกเรียกตัวมายังโบสถ์ เบเนดิคไทน์ ทางตอนเหนือของอิตาลี เพื่อสืบสวนการตายอย่างประหลาดของบาทหลวงชื่อดัง ที่พบศพของเขาจมอยู่ในถังใส่เลือดหมู และชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็นการกระทำของปีศาจ

เจมส์ วาน อธิบายเรื่องราวของ The Nun ว่าเป็นส่วนผสมของ The Name Of The Rose ที่ตัดผ่านกับโลกของ The Conjuring , ทั้ง The Nun และ The Name Of The Rose ต่างมีส่วนที่เหมือนกันคือเรื่องราวที่เกี่ยวกับศาสนาในยุคโบราณ มีบาทหลวงที่ต้องเดินมายังสถานที่แปลก ๆ เพื่อสืบสวนการตายที่มีปริศนา แต่จุดที่แตกต่างกันก็คือ The Name Of The Rose นั้น ตัวฆาตกรเป็นมนุษย์ แต่ใน The Nun นั้นผู้อยู่เบื้องหลังคือวิญญาณร้ายที่น่ากลัว

 

7. ตัวผีแม่ชีถูกใส่เข้ามาในนาทีสุดท้ายของ The Conjuring 2

           เดิมทีแล้วในบทแรกของ The Conjuring 2 ที่ถ่ายทำเสร็จไป ไม่มีผีแม่ชีด้วยซ้ำ แต่เจมส์ วาน ตัดสินใจเพิ่มเข้าไปในขั้นตอนถ่ายทำซ่อม แล้วผลที่ได้ก็คือ ผีแม่ชีที่โผล่มาในนิมิตของ โลเรน วอร์เรน กลับเป็นที่กล่าวขวัญกันมากหลังหนังออกฉาย ถึงความน่ากลัวของเธอ เจมส์ วาน เล่าว่าเขาได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผีแม่ชีนี้มาจากตอนที่ได้พูดคุยกับโลเรน วอร์เรน ตัวจริง เธอได้เล่าถึงวิญญาณที่ตามหลอกหลอนอยู่ในบ้านของเธอเอง จากจุดนั้นเจมส์ ก็เอามาจินตนาการออกมาเป็นผีแม่ชี "ผมต้องการภาพลักษณ์ของวิญญาณที่น่ากลัวพอที่จะทำลายศรัทธาของโลเรนได้ น่ากลัวพอที่เธอจะไม่รู้สึกปลอดภัยอีกต่อไป แล้วภาพสุดท้ายของวิญญาณร้ายตนนี้ก็ฝังลึกอยู่ในหัวของผม แล้วผมก็ต้องการสร้างภาพมันออกมาให้สมจริงและใช้สเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ให้น้อยที่สุด"

 

8. "วาลัก" คือชื่อของปีศาจร้าย

          ใน The Conjuring 2 โลเรน วอร์เรน รู้ชื่อจริงของผีแม่ชีว่า "วาลัก" แม้ว่าผีแม่ชีคือภาพลักษณ์หนึ่งของวาลักที่เกิดจากจินตนาการของเจมส์ วานเอง แต่ชื่อ "วาลัก" นั้นมีอยู่ในตำนานจริง ซึงมีผู้พบบันทึกที่มีชื่อนี้ย้อนไปถึงศตวรรษที่ 12 นู่น ในบันทึกได้กล่าวไว้ว่าวาลักคือปีศาจผู้มีอำนาจสุดในนรก เป็นผู้นำทัพไพร่พลปีศาจจำนวนมาก สามารถปรากฏกายได้หลายภาพลักษณ์ มักปรากฏตัวในภาพลักษณ์ของเด็กมีปีกขี่มังกร 2 หัวอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ปรากฏตัวเป็นแม่ชีเลยสักครั้ง

 

9. เจมส์ วาน มีแผนสำหรับ The Nun 2 แล้ว

          เราอาจจะได้เห็นโลเรน วอร์เร็น ประทะกับจอมปีศาจวาลักกันอีกสักครั้ง ถ้าไม่ได้เห็นใน The Conjuring 3 ก็ใน The Nun 2 นี่ล่ะ และนี่คือหนึ่งไอเดียที่อยู่ในหัวของเจมส์ วาน ซึ่งเขามั่นใจว่า The Nun จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนและเตรียมแผนการสำหรับ The Nun 2 ไว้เรียบร้อยแล้ว "ผมรู้ศักยภาพของหนังดี ถ้ามันออกมาสำเร็จ ก็จะต่อเนื่องไปถึง The Nun 2 ซึ่งจะมาเชื่อมโยงกับเรื่องราวของโลเรน วอร์เรน ที่เราวางที่มาไว้ใน The Conjuring 2 ภาคแรก สุดท้ายมันก็จะมาบรรจบกันเป็นวงจรที่สมบูรณ์"

ตอนนี้เจมส์ วาน กลายเป็นผู้กำกับระดับแถวหน้าของฮอลลีวู้ดไปแล้ว ซึ่งเขาก็ยุ่งอยู่กับจักรวาลฮีโร่ของดีซี และไม่มีเวลามาควบคุมงานสร้างเท่าใดนัก แล้วเขาก็ไม่สามารถกลับมากำกับ The Conjuring 3 ได้อย่างแน่นอน แต่เจมส์ วาน คาดการณ์ว่า The Nun 2 น่าจะได้เริ่มต้นภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี่ ซึ่งตอนนั้นเขาหวังว่าจะได้ปลีกตัวมาคุมงานสร้างได้ เพราะอยากให้จักรวาลของ The Conjuring อยู่ในทิศทางที่เขาพอใจตามที่เขาได้เป็นผู้ริเริ่มไว้