13 เรื่อง เบื้องลึกของเดนเซล วอชิงตัน
เดนเซล วอชิงตัน เขาเป็นทั้งผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ และดารามากความสามารถ ตลอด 30 ปีในวงการ เขาได้พิสูจน์ความสามารถให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถแสดงได้ทุกบทบาทจริงๆ จนถึงวันนี้ ในวัย 64 ปี เขาก็ยังไม่หยุดสร้างผลงานดีๆ ให้กับบรรดาแฟนเก่าและแฟนใหม่ของเขา
เดนเซล เริ่มเข้าวงการแสดงในปี 1977 และเริ่มเป็นที่รู้จักจากทีวีซีรีส์ "St. Elsewhere"ที่แพร่ภาพระหว่างปี 1982 - 1988 ได้เข้าชิงออสการ์ครั้งแรกในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากหนัง "Cry Freedom"ปี 1987 แต่ก็พลาดไป ใน 2 ปีต่อมาเขาก็คว้าออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมได้สำเร็จจาก "Glory"ปี 1989 และในปี 2002 ก็คว้าออสการนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก "Training Day" ทำให้เดนเซล เป็นนักแสดงผิวสีคนแรกที่คว้าออสการ์ได้ 2 ตัว
ถึงวันนี้ เดนเซล แสดงหนังโรงและทีวีมาแล้วถึง 56 เรื่อง มีผลงานเด่นๆ อย่างเช่น Philadelphia , The Book of Eli ,Safe House , The Pelican Brief , Crimson Tide Courage Under Fire เดนเซล เป็นนักแสดงชายที่เลือกงานแสดงได้ดี เขามีผลงานทั้งหนังคุณภาพที่หวังรางวัล โชว์ฝีมือการแสดง และหนังในกลุ่มเอาใจตลาด ทำให้เขาอยู่ในวงการได้ยาวนานไม่เสื่อมความนิยม ชื่อเสียงของเขาก็ใช้เรียกผู้ชมได้ดี มีแฟนๆ ประจำมากมายทั่วโลก
วันนี้เดนเซล วอชิงตัน ในวัย 64 ปีเป็นคุณพ่อของลูก 4 คน จอห์น เดวิด , เคธี และฝาแฝด โอลิเวีย และ มัลคอล์ม เขาเริ่มให้เวลากับครอบครัวมากขึ้นและรับงานแสดงน้อยลง มีหนังออกมาเฉลี่ยปีละ 1 เรื่องเท่านั้น และบางปีก็ไม่มีเลย สำหรับใครที่คิดถึงบทบาทการแสดงของเดนเซล ก็ไม่ควรพลาด Equalizer 2 ครับ ที่เขากลับมารับบท โรเบิร์ต แมคคอลล์ มือสังหารศาลเตี้ย ที่ทนไม่ได้กับความอยุติธรรมจนต้องลงมือจัดการเองไม่พึ่งระบบตุลาการ เพราะหลังจากนี้ยังไม่มีข่าวคราวว่าเดนเซลจะมีผลงานการแสดงเรื่องต่อไปเมื่อไหร่ แม้จะมีผลงานการแสดงมาแล้วมากมายแต่ Equalizer 2 ก็เป็นหนังภาคต่อเรื่องแรกในชีวิตของเดนเซลเลยครับ หนังจะมีกำหนดฉายในวันที่ 30 สิงหาคม นี้ ถึงตรงนี้เรามาทำความรู้จักนักแสดงมากฝีมือคนนี้กันให้มากขึ้นครับ
1. เขาเคยเป็นสมาชิกของ ชมรม YMCA และ the Boys & Girls Club เขาเคยขึ้นแสดงโชว์บนเวที และเป็นที่ประทับใจต่อผู้ชม ทำให้เดนเซล มีความมั่นใจมากขึ้นที่จะเดินเข้าสู่วงการแสดง เขาจึงตัดสินใจเข้าเรียนสาขา วารสารและการละคร ที่มหาวิทยาลัย ฟอร์ดแฮม เมื่อจบมาและมีชื่อเสียงในฮอลลีวู้ด เดนเซล ก็ยังไม่ลืม YMCA และ the Boys & Girls Club และกลับมาเป็นโฆษกให้กับทั้ง 2 ที่
2. เขาชื่นชอบวิธนีย์ ฮุสตันมาก ครั้งหนึ่งวิธนีย์ เคยบอกปัดบท จูเลีย บริกก์ ในหนัง The Preacher's Wife (1996) หนังที่เดนเซลรับบทนำ ก็มีแต่เดนเซล นี่ล่ะ ที่คอยตื้อวิธนีย์ อยู่เป็นปี ให้ตัดสินใจรับบทนี้ แล้วท้ายที่สุดวิธนีย์ก็ใจอ่อนยอมรับบท
3.ในหนังสุดมันส์ The Book of Eli ปี 2010 เดนเซล ขอเล่นฉากสตันท์เอง ฉะนั้นฉากต่อสู้ที่เราเห็นในหนังนั้น เป็นตัวเขาเองล้วน ๆ ไม่ใช่นักแสดงแทน แล้วเขาก็บอกว่าเขาชอบมันมากด้วย
4.ตอนอายุ 14 พ่อแม่ส่งเดนเซล ไปเข้าโรงเรียนทหาร สถาบันทางการทหารโอคแลนด์ ในนิวยอร์ค แม้ในวันนี้โรงเรียนนี้จะปิดตัวไปแล้ว แต่เดนเซลก็ยังกล่าวถึงโรงเรียนอยู่เสมอว่า ที่นี่คือที่สั่งสอนให้เขาเป็นคนดี อยู่ห่าง ๆ จากปัญหาเรื่องร้าย เพราะในวัยเด็กเขาเคยเป็นเด็กเกเร เพื่อน ๆ ในวัยเด็กหลายคนต่างก็หลงเดินทางผิดกันไปมากแล้ว
5.เมื่อวัย 20 ปี เดนเซล ประสบปัญหาเครียดในระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย เขาไปนั่งเล่นในร้านเสริมสวยของแม่ แต่แล้วหนึ่งในลูกค้าของแม่ก็ยัดเศษกระดาษใส่มือเขา "วันหนึ่งเธอจะไปอยู่เบื้องหน้าคนนับล้าน เธอกำลังก้าวไปทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่" ข้อความในกระดาษแผ่นนั้นสร้างความฉงนให้กับเขา แต่มันก็เป็นกำลังใจให้เขาต่อสู้กับการเรียนจนจบการศึกษา วันนี้เขายังเก็บกระดาษแผ่นนี้ไว้อยู่
6.เขาเกิดมาในครอบครัวที่เคร่งศาสนา เพราะพ่อของเขาเป็นบาทหลวงในนิกายเพนเทคอสต์ และประจำการถึง 2 โบสถ์ เขาเผยแพร่คำสอนของพระเจ้าจนจากโลกไปในปี 1991
7. ตอนเด็กๆ เดนเซล เล่นเบสบอล แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ ทำให้นิ้วก้อยหัก ทุกวันนี้แม้จะหายแล้ว แต่ก็ยังโค้งงออยู่ แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการแสดง ตอนไปดู Equalizer 2 ลองสังเกตกันนะ
8. นิตยสาร Newsweek เคยเขียนบทความเรื่อง "ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ" ในช่วงปี 1990s ในบทความกล่าวว่า ความสมมาตรของรูปหน้าจะเป็นตัวชี้วัดถึงความงาม แล้วผู้เขียนก็ยกตัวอย่างใบหน้าของ เดนเซล วอชิงตัน นี่คือตัวอย่างที่ดี ของบุคคลผู้มีสมมาตรของใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ เขามีจมูกที่อยู่กลางเด่นบนใบหน้า และการเรียงตัวของตา ริมฝีปาก และหู ที่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
9. ปี 1995 นิตยสารเอ็มไพร์ จัดอันดับ 100 ดาราทีเซ็กซี่ที่สุด และมีชื่อของเดนเซล วอชิงตันอยู่ด้วย เจ้าตัวบอกว่าประหลาดใจมาก ที่เขาติดอันดับนี้ด้วย
10. เขาได้รับบทเป็น มัลคอล์ม เอ็กซ์ ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในหนัง "Malcolm X" ของผู้กำกับ สไปค์ ลี และอีกครั้งในละครเวทีที่ชื่อ "When the Chickens Came Home to Roost" เดนเซล เลยตั้งชื่อลูกชายคนเล็กว่า "มัลคอล์ม"
11. ปี 1995 เดนเซล บอกปัดบทนำในหนัง "se7en" บทนี้จึงตกเป็นของ แบรด พิตต์ ไปในที่สุด และหนังก็กลายเป็นหนังฮิตระดับตำนาน ก็นึกไม่ออกเหมือนกันนะ ถ้าบทนี้เป็นของเดนเซล จะยังฮิตเหมือนเดิมไหม
12. เขาต้องรับบทเป็นทหารใน "Courage Under Fire" เลยต้องเข้ารับการฝึกเข้มที่ สถาบันฝึกหัดแห่งชาติที่ ฟอร์ต เออร์วิน เดนเซลบอกว่าการฝึกฝนที่สถาบันนี้ทำให้เขามีความเข้าใจตระหนักรู้ในตัวเองมากขึ้น แล้วยังทำให้เขาถ่ายทอดบทบาทในหนังได้ดูเป็นทหารอย่างสมจริง
13. ปี 2006 เดนเซล บอกปัดบท เคอร์ติส เทย์เลอร์ จูเนียร์ ในหนัง Dreamgirls ทำให้บทนี้ตกเป็นของ เจมี่ ฟอกซ์ แล้วสุดท้ายหนังก็เป็นเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์