ถ้าคุณมีปัญหาและไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปทางไหน "โรเบิร์ต แม็คคอล" จะช่วยคุณ เขาคือมัจจุราชไร้เงา แม็คคอลคอยช่วยเหลือพวกที่ถูกทำร้าย ทารุณและกดขี่ด้วยการจัดความยุติธรรมแบบไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหม แต่ในตอนที่อดีตอันตรายของเขาเข้ามาส่งผลต่อเขา เขาก็ต้องอาศัยความสามารถทุกอย่างที่มีเพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ครั้งนี้ เขาต้องเผชิญหน้ากับมือสังหารที่ผ่านการฝึกมาอย่างโชกโชน ผู้มุ่งมั่นจะทำลายเขาโดยไม่ยอมให้อะไรมาหยุดยั้ง "เดนเซล วอชิงตัน" กลับมารับบทหนึ่งในบทบาทที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ในซีเควลเรื่องแรกของอาชีพนักแสดงของเขา

             "ผมคิดว่าคนชื่นชอบไอเดียนี้ ตำนานนี้ที่ว่าคนอย่างโรเบิร์ต แม็คคอลมีตัวตนอยู่จริง แม็คคอลเป็นเหมือนเทวดาด้านมืด เทวดาที่เราหวังว่าจะลงมาจัดการคนที่สมควรจะได้รับโทษอย่างยุติธรรม" ผู้กำกับ "อังตวน ฟูกัว" ผู้กลับมาร่วมงานกับเดนเซล วอชิงตันเป็นครั้งที่สี่ใน The Equalizer 2 หลังจากความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จของพวกเขาใน Training Day, The Magnificent Seven และ Equalizer ภาคแรก กล่าว "เขาพบวัตถุประสงค์ของตัวเอง ในการกลายเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม จนกระทั่งถึงตอนนี้ ความยุติธรรมนั้นเป็นเพื่อคนแปลกหน้า แต่เมื่อคนใกล้ชิดกับแม็คคอลถูกฆ่า เขาก็ออกล้างแค้นเพื่อเพื่อน และเพื่อตัวเองครับ"

          สำหรับวอชิงตัน เสน่ห์ของแม็คคอลช่างเรียบง่าย "เขาซ่อนตัวเองอยู่ในที่แจ้ง เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง" นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์สองสมัยกล่าว ในครั้งนี้ เขาพัฒนาแล้ว แทนที่เขาจะขายสินค้าเพื่อปรับปรุงบ้านของคุณ ตอนนี้ เขาเป็นคนขับรถลิฟท์ แต่จริงๆ แล้ว เขาคือเทวดาเพชฌฆาต ผู้ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมสำหรับคนแปลกหน้า ผู้พบว่าตัวเองต้องต่อสู้ในสงครามที่ใกล้ตัวเขามากกว่าแต่ก่อน "ตอนที่เราเห็นแม็คคอลครั้งแรก เขาพยายามจะช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่เรื่องนั้นก็กลายมาเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา"

           สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับ The Equalizer 2 คือเลข 2 นั้นเอง นี่เป็นซีเควลเรื่องแรกในอาชีพนักแสดงของเดนเซล วอชิงตัน "ผมอยู่ในวงการนี้มาสี่สิบปีแล้ว และผมก็ไม่เคยทำอะไรซ้ำสอง" เขากล่าว "สำหรับผม ความตื่นเต้นจะเกิดขึ้นเมื่อผมทำอะไรใหม่ๆ สำหรับบทหนังเรื่องนี้ ความใหม่อยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซูซาน ตัวละครของเมลิสซา โอ และความสัมพันธ์กับไมลส์ เด็กหนุ่มที่รับบทโดยแอชตัน แซนเดอร์ส หนังเรื่องนี้เป็นการเดินทางที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับแม็คคอลเพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่เขายอมให้เข้ามาในชีวิตเขา เขาเป็นคนที่ไม่เคยยอมให้ใครเข้ามาในชีวิตเขา แต่ตอนนี้เมื่อเขาเปิดใจให้คนอื่น มันกลับไม่ใช่เรื่องดี"

            สำหรับฟูกัวและผู้อำนวยการสร้างของเรื่อง การเพิ่มเรื่องส่วนตัวเข้าไปให้กับแม็คคอลในการต่อสู้ครั้งนี้กลายเป็นแรงผลักดัน "ในหนังเรื่องแรก ผมไม่แปลกใจที่คนตีตั๋วเข้าไปดูเดนเซล แต่ผมแปลกใจกับการที่พวกเขาตอบสนองกับไอเดียของความยุติธรรมมากกว่าเรื่องอื่นๆ ในหนัง" ฟูกัวกล่าว "ผมคิดว่าพวกเขารู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ที่ไม่สามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้และเราทุกคนต่างก็หวังว่าเราจะมีแม็คคอลในชีวิตที่สามารถโผล่ขึ้นมาและพาเราไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้ เขาไม่จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาให้เราทั้งหมด แต่แค่ให้โอกาสเราในการเดินไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องเท่านั้นเองครับ"

"TheEqualizer2: มัจจุราชไร้เงา 2" 30 สิงหาคม นี้ ระห่ำแน่! ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์