มือเขียนบทเผยแรงบันดาลในใจขยายเรื่องราวใน Mamma Mia! Here We Go Again เกิดระหว่างบทสนทนากับลูกสาว

Movie News8 สิงหาคม 2561

                การอ้างอิงเรื่องราวจากหนังสือของจอห์นสันสำหรับมิวสิคัลเรื่องนี้และบทภาพยนตร์สำหรับ Mamma Mia! The Movie ของเธอ ทำให้ "ริชาร์ด เคอร์ติส" ต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับ "โอล ปาร์คเกอร์" ผู้กำกับของเรื่องนี้ในร่วมกันเขียนเรื่องราวของ "Mamma Mia! Here We Go Again" สำหรับเคอร์ติส ผู้รับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ความรักที่เขามีต่อโลกใบนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน "ผมได้ดู Mamma Mia! The Movie ครั้งแรกในวันฝนตก โรงหนังคนแน่นเอี้ยด และเราก็รู้สึกเหมือนว่าเรากำลังอยู่ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนภายในเวลาเพียงแค่สองชั่วโมง นั่นคือหนังเรื่องนี้ครับ มันเป็นการนำเสนอความสุขและการมองโลกในแง่ดีแบบเมนสตรีม ที่มีความนัยของเฟมินิสต์ ความรักรุนแรงและความเข้มแข็งครับ"



          ในฐานะผู้ชื่นชมผลงานของริชาร์ด เคอร์ติสมานาน "จูดี้ เครเมอร์" ผู้อำนวยการสร้างได้ทาบทามเขาให้มาขยายเรื่องราวความเป็นมาของ Mamma Mia! "ริชาร์ดคิดเส้นเรื่องขึ้นมาได้และเสนอให้ฉันทาบทามโอล ปาร์คเกอร์ในฐานะมือเขียนบท" ผู้อำนวยการสร้างกล่าว "ระหว่างที่ฉันคุยกับโอล ฉันก็รู้ว่าเขาเข้าใจการเดินทางที่เราต้องการสำหรับเรื่องราวนี้ ที่เต็มไปด้วยความสุขและอารมณ์ที่รุนแรง เพราะตัวละครต้องรับมือกับประเด็นต่างๆ ในชีวิตจริงทั้งการแต่งงาน ความตายและการถือกำเนิดค่ะ"



        แม้ว่ากระบวนการพัฒนาเพื่อทำให้แน่ใจว่าซีเควลจะต่อกับภาคแรกได้อย่างแนบเนียนจะเหนื่อยแสนสาหัส "แกรี โกทซ์แมน" ผู้อำนวยการสร้างอีกหนึ่งคนก็เห็นด้วยกับเพื่อนร่วมงานของเขาว่า มันมีเรื่องราวอีกหนึ่งเรื่องที่จำเป็นต้องได้รับการบอกเล่าออกมาเสมอ "ในตอนที่คุณได้ดู Mamma Mia! มันก็มีเรื่องราวที่คุณจะคิดว่า 'ว้าว น่าจะมีการขยายความออกมาอีกหน่อยนะ' เราคิดว่ามันน่าจะเป็นไอเดียที่ดีที่จะนำเสนอตัวละครที่รักของเราในช่วงเวลาหนุ่มสาว ตอนที่เรื่องราวของภาคแรกเริ่มต้นขึ้นจริงๆ นอกจากนั้น เราก็มีการเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับพวกเขาทั้งหมด เกี่ยวกับตัวละครดั้งเดิมและสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตพวกเขา ทั้งสองเรื่องมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างลงตัว"



           ทางด้านมือเขียนบทอย่างเคอร์ติสก็ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจที่เหมาะสำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวว่า "มันเกิดจากบทสนทนาระหว่างผมกับลูกสาววัย 22 ปีที่ค่อนข้างจะฉลาดของผม ผมถามว่าเธอมีไอเดียสำหรับ Mamma Mia! 2 บ้างรึเปล่า เธอก็บอกว่า มันชัดเจนจะตายไป มันน่าจะเป็นแฟลชแบ็คให้เห็นว่าดอนนาได้พบกับผู้ชายที่อาจจะเป็นพ่อของลูกเธอทั้งสามคนระหว่างฤดูร้อนปี 79 ยังไงก่อนจะตัดภาพมาสู่ปัจจุบันกับโซฟี แล้วก็จะมีวงจรของความเป็นแม่ที่เชื่อมช่วงเวลาทั้งสองไว้ด้วยกันน่ะครับ"

เตรียมระลึกความหลังไปกับการกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์มิวสิคัลที่อยู่ในใจของใครหลายคน "Mamma Mia! Here We Go Again" 9 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์