การต่อสู้เพื่อความหวัง การเอาชนะอคติ ผ่านกลุ่มวัยรุ่นพลังเหนือมนุษย์ใน The Darkest Minds
"The Darkest Minds - จิตทมิฬ" เป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นเรื่องแรกของผู้กำกับฯ เจนนิเฟอร์ ยูห์ เนลสัน ผู้สร้างชื่อจากแฟรนไชส์ Kung Fu Panda ภายใต้การดูแลของทีมงานผู้สร้างฯ Stranger Things และ Arrival โดยภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากหนังสือขายดีของอเล็กซานดร้า แบรคเคน ผลงานตอนแรกจากไตรภาคของ YA (The Darkest Minds, Never Fade และ In the Afterlight)
เรื่องราวของเหล่าวัยรุ่นที่เกิดพัฒนาความสามารถใหม่อันทรงพลังขึ้นมาได้อย่างลึกลับ และพวกเขาได้ถูกทางรัฐบาลข่มขู่คุกคามและถูกคุมขัง "รูบี้" สาวน้อยวัย 16 ปี หนึ่งในวัยรุ่นที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ทุกคนเคยเจอมา ได้หนีออกจากค่ายและเข้าร่วมกับกลุ่มวัยรุ่นผู้หลบหนีคนอื่นๆ เพื่อตามหาที่หลบภัย จนได้พบครอบครัวใหม่ และในไม่ช้าพวกเขาก็ได้พบว่า ในโลกที่ผู้ใหญ่ซึ่งมีอำนาจต่างหักหลังพวกเขา การหลบหนีนั้นไม่เพียงพอ พวกเขาต้องเดิมพันต่อต้าน และใช้พลังที่รวบรวมมาเพื่อทวงคืนสิทธิในการควบคุมอนาคตของตนเอง
"ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของเด็กที่ใช้พลังพวกนี้ในการเอาตัวรอด มีการต่อสู้เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็มีเรื่องของความรู้สึกเยอะมากด้วย" ผู้กำกับฯ เจนนิเฟอร์ ยูห์ เนลสันกล่าว
"ผมคิดว่าประเด็นทั้งหมดในหนังสือ ต้องการสื่อถึงความหวังของผู้คนที่จะเอาชนะอคติเหล่านี้ โดยใช้พลังของพวกเขาและเป็นตัวแทนของครอบครัว และการได้รับการยอมรับจากคนอื่นที่เข้าใจว่าการได้รับอิสรภาพต้องแลกกับอะไร" ผู้อำนวยการสร้าง แดน ลีไวน์ กล่าว
"The Darkest Minds จะทำให้ผู้ชมตื่นเต้นสุดขีดกับการผจญภัย จะเป็นการผจญภัยที่ตื่นเต้นที่มีทั้งฉากแอคชั่น การผจญภัย มีฉากที่สื่อด้วยภาพ มีฉากต่อสู้ มีฉากการใช้พลังและทุกอย่าง แต่ผมคิดว่าผู้ชมคาดเดาถึงเรื่องความรู้สึกที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ได้ เพราะถึงแม้จะเต็มไปด้วยภาพที่น่าตื่นเต้นและฉากที่ดูสะดุดตาแล้ว ยังมีเรื่องของตัวละครที่คอยมองหาว่าตัวเองเหมาะกับที่ไหน และได้รู้ว่าสุดท้ายแล้วคือจุดที่พวกเขาอยู่ด้วยกันนั่นเอง" ผู้อำนวยการสร้าง ชอว์น เลวี่ กล่าวปิดท้าย
"The Darkest Minds - จิตทมิฬ" 2 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์