หัวใจสำคัญของ Mission: Impossible แต่ละภาคคือกลุ่มสายลับทีมไอเอ็มเอฟ ที่นำทีมโดยอีธาน ฮันท์

Movie News24 กรกฎาคม 2561

          หัวใจสำคัญของ Mission: Impossible แต่ละภาคคือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการเป็นสายลับที่รักกันแน่นแฟ้น ซึ่งเป็นสมาชิกของทีมไอเอ็มเอฟ ที่นำทีมโดยอีธาน ฮันท์ ตัวละครของครูซ

"สมาชิกของทีมนี้มีการผ่านมาและผ่านไป แต่มันก็มีแกนกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ" เฟอร์กูสันตั้งข้อสังเกต "คุณจะมีซูเปอร์สตาร์ มีตัวตลก มีคนพิลึก มีคนสวย มีองค์ประกอบสารพัดรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการสร้างชิ้นส่วนความบันเทิงเหลือเชื่อ ซึ่งก็คือ Mission: Impossible ค่ะ"



        เสน่ห์และความมีชีวิตชีวาของนักแสดงแต่ละคนที่รับบทเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เหล่านี้พิเศษสุด ครูซกล่าวว่า "ช่วงเวลาที่ผมชื่นชอบในหนังเรื่องนี้คือตอนที่คุณได้นักแสดงดีๆ มาทำงานของพวกเขา แม็คคิวกับผมทำงานกันอย่างหนักมากเพื่อให้เป็นแบบนั้น นั่นคือสิ่งที่เรารักเกี่ยวกับหนังและการเล่าเรื่องครับ"

วิง รามส์ รับบท ลูเธอร์ สติคเกล ตั้งแต่ Mission: Impossible ภาคแรกในปี 1996 "แม็คควอร์รีย์พูดถึงบทของผมว่าเป็น 'จิตวิญญาณของเรื่อง'" นักแสดงรางวัลลูกโลกทองคำเล่า "ตอนแรก ผมไม่รู้หรอกว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ผมก็คิดว่ามันเป็นความนึกคิดบางอย่างที่ผมส่งต่อไปให้กับอีธาน ในหนังเรื่องนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีการทะเลาะกันระหว่างพวกเขา มันเกิดขึ้นบางครั้งกับคนที่แคร์กันและกัน ผมคิดว่า มันทำให้ลูเธอร์มีความเป็นมนุษย์และคุณก็จะได้เห็นนิสัยอื่นๆ ของเขามากขึ้นด้วย นอกจากนั้น มันยังมีฉากที่ทรงพลังกับอิลซา ที่คุณจะรู้สึกถึงความรักที่ลูเธอร์มีต่ออีธานครับ"



          ตามที่ครูซอธิบาย ตอนแรก ลูเธอร์น่าจะตายไปตั้งแต่ภาคแรก "ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น" เขากล่าว "ไม่เพียงแต่เพราะวิงเก่งเหลือเกิน แต่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างอีธานและลูเธอร์ด้วยครับ มีบางสิ่งเกี่ยวกับการที่เขารับบทนี้ ที่น่าติดตามเหลือเกิน และผมก็คิดว่าคุณจะมองเห็นเรื่องนั้นผ่านทางภาคที่ผ่านๆ มา ในภาคนี้ วิงมีการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมครับ"

เบนจี้ ดันน์ หนึ่งในตัวละครที่เป็นที่รักที่สุดใน Mission: Impossible สามภาคล่าสุด รับบทโดยนักแสดง นักแสดงตลกและผู้กำกับ ไซมอน เพ็กก์ "หนังพวกนี้มักพยายามก้าวแซงผู้ชมไปเสมอครับ" เพ็กก์กล่าว "พวกมันเต็มไปด้วยปริศนา การหักหลังและการตีสองหน้า แต่มันก็มักจะมีความเบาสมองใส่เข้ามาด้วย คุณจะตึงเครียดแบบนั้นสองชั่วโมงโดยไม่มีการพักไม่ได้หรอกครับ เป็นเรื่องดีที่เราจะได้ผ่อนคลายและหัวเราะชั่วครู่หนึ่ง และหลายครั้งก็เป็นตอนที่เบนจี้เข้ามาครับ"



         เบนจี้เริ่มต้นจากการเป็นนักวิเคราะห์ระบบในห้องแล็บของไอเอ็มเอฟก่อนที่จะได้ลิ้มรสการผจญภัยในตอนที่เขาถูกเลือกให้มาช่วยเหลืออีธานแบบทางไกลใน Mission: Impossible III "ใน Ghost Protocol เราเจอเขาอยู่ภาคสนามเป็นครั้งแรก และใน Rogue Nation เขาก็ประสบความสำเร็จมากขึ้นและเคยชินกับไอเดียในการได้เป็นสายลับ แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้มองทุกอย่างจริงจังไปหมดเหมือนเดิมก็ตาม" เพ็กก์กล่าว "ผมรู้สึกดีที่ได้เล่นตัวละครตัวหนึ่งนานขนาดนี้และได้เห็นเขาพัฒนาจากการเป็นเจ้าหน้าที่แล็บ ทั้งหน้าตาและนิสัย ผมหน้าตาแบบนั้นจริงๆ น่ะแหละในภาคสาม ไปสู่การเป็นเจ้าหน้าที่สายลับที่ฟิตและมีความสามารถมากขึ้น และมีทักษะที่น่าประทับใจด้วยครับ" ครูซกล่าวว่าเขาตื่นเต้นที่บทบาทของเพ็กก์ในภาพยนตร์เหล่านี้ได้ถูกขยายออกไปนับตั้งแต่ที่เขาเข้าร่วมทีมเมื่อกว่าสิบปีที่ผ่านมา "เจ.เจ.อับรามส์กับผมได้เห็นเขาใน Shaun of the Dead และคิดว่าเขาเยี่ยมมาก เขาเข้ามาและแสดงใน MI:3 วันหรือสองวัน แล้วดูความก้าวหน้าของตัวละครของเขาตั้งแต่นั้นมาสิครับ"



        ผู้ที่ปรากฏตัวในแฟรนไชส์นี้เป็นครั้งที่สองคืออเล็ค บัลด์วิน ในบทอลัน ฮันลีย์ อดีตผู้อำนวยการซีไอเอ ผู้เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลกลุ่มไอเอ็มเอฟ "เราต้องให้เขากลับมาครับ" แม็คควอร์รีย์กล่าว "คนมักจะถามผมว่าใครเป็นคนที่ตลกที่สุดในกองถ่าย การร่วมงานกับทุกคนเป็นเรื่องสนุกมาก แต่ไม่มีใครตลกเท่าอเล็ค บัลด์วินอีกแล้ว การร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งครับ"

Mission: Impossible - Fallout 26 กรกฏาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์