6 ฉากแอ็คชั่นสุดระทึกจากแฟรนไชส์ Mission : Impossible
แล้วแฟรนไชส์ Mission : Impossible ก็เดินทางมาถึงภาคที่ 6 กลายเป็นหนังภาคต่อที่มีฉากแอ็คชั่นเสี่ยงตายเป็นจุดขายประจำไปแล้ว แฟนๆ เฝ้าคอยว่าภาคต่อไปเราจะได้เห็นทอม ครูซ เล่นฉากแอ็คชั่นเสี่ยงตายอะไรด้วยตัวเองอีก ในภาคนี้เราจะได้เห็นทอม ครูซ ในบทอีธาน ฮันต์ กระโดดข้ามตึกสูง ไม่เหมือน Skyscraper นะ เพราะทอม โดดจริง ข้อเท้าหักจริง และบ้าระห่ำสุดก็คือการกระโดดร่มจากความสูงที่ 7 กม. แน่ว่าไม่มีดาราคนไหนกล้าทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ก่อนที่เราจะไปสัมผัสฉากแอ็คชั่นระทึกในภาคใหม่นี้ มาย้อนดูกันซิว่า 5 ภาคที่ผ่านมา มีฉากแอ็คชั่นไหนที่ตื่นเต้นชวนระทึกควรค่าแก่การจดจำอยู่บ้าง
1. โรยตัวจารกรรมข้อมูล จาก Mission: Impossible (1996)
แค่ภาคแรกก็มีฉากชวนระทึกมากมาย โดยเฉพาะฉากนี้ ทำให้ภาพทอม ครูซ ในท่าลอยตัวด้วยลวดกลางอากาศกลายเป็นภาพคลาสสิกที่ทุกคนเห็นก็จำได้ทันทีว่ามาจากหนัง Mission: Impossible (1996) และเป็นการเปิดฉากตำนาน Mission: Impossible ได้อย่างสวยงาม แน่นอนว่าการมีฉากนี้ในหนังภาคแรก มีผลสำคัญในการผลักดันให้แฟรนไชส์นี้สืบต่อมาได้ทุกวันนี้หลายคนที่ได้ชมภาคแรก น่าจะจำได้ว่าฉากนี้ชวนลุ้นขนาดไหน กับภารกิจที่อีธาน ฮันต์ จะต้องโรยตัวจากเพดานเข้าห้องเซิร์ฟเวอร์ของ CIA เพื่อไปแฮ็คข้อมูล และเป็นห้องที่มีระบบความปลอดภัยระดับไฮเทคสุดๆ จุดที่ลุ้นมากคือเราเห็นเหงื่อของอีธาน ฮันต์ กำลังจะหยดลงจากคิ้ว และถ้าเหงื่อเพียงแค่หยดเดียวแตะลงพื้น ระบบนิรภัยของห้องจะล็อคตัวเองทันที เป็นอันจบเห่ สุดท้ายเป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่แล้ว และที่สำคัญนี่ก็เป็นอีกฉากที่ทอม ครูซ เล่นฉากสตันท์ด้วยตัวเอง แต่ที่เราไม่รู้ก็คือตั้งแต่นี้ไป ทอม ก็ยึดเป็นระเบียบการกับทุกภาคต่อว่าเขาจะต้องเล่นฉากสตันท์เองตลอดไป
2. ฉากปีนเขา จาก Mission: Impossible II (2000)
แม้ว่าภาค 2 ที่ได้จอห์น วู มากุมบังเหียนนี่จะมีฉากแอ็คชั่นระทึกมากมายพร้อมด้วยฉากสโลว์สไตล์จอห์น วู แต่ว่าฉากที่น่าจดจำสุดก็คือฉากเปิดเรื่องนี่ล่ะ เป็นภาพมุมกว้างกับทิวทัศน์ของ เดดฮอร์สพอยต์ ในรัฐยูทาห์ มองเห็นเทือกเขาทอด ยาวกว้างไกล มีภาพอีธาน ฮันต์ กำลังไต่หน้าผาขึ้นด้านบน และช่วงหนึ่งเขาก็โหนตัวกับหน้าผาด้วยมือเปล่าชวนหวาดเสียวสุดๆ และแน่นอนฉากเสี่ยงตายแบบนี้ ทอม ครูซ ก็เล่นเองอีกแล้ว แต่ก็อยู่ภายใต้การรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดกับดาราใหญ่ระดับนี้
3. ฉากโจมตีสะพานข้ามอ่าว จาก Mission: Impossible III (2006)
ฉากไคลแมกซ์หนึ่งในภาค 3 นี้ ภายใต้การกำกับของ เจ.เจ. อบรามส์ ภาคนี้ได้ดาราออสการ์ ฟิลลิปส์ ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน มารับบท โอเว็น ดาเวียน ตัวร้ายประจำภาค โอเว็น อยู่ภายใต้การอารักขาของหน่วย IMF แล้วก็โดนลูกสมุนดักโจมตีเพื่อชิงตัว ในฉากนี้ทอม ครูซ ได้โชว์ฉากแอ็คชั่นหวาดเสียว 2 ครั้งต่อเนื่อง ครั้งแรก อีธาน ฮันท์ มองเห็นเครื่องบินโจมตีกำลังจะยิงจรวดใส่เขา ขณะที่ติดอยู่ในรถที่หงายท้องอยู่กลางสะพาน อีธาน พาตัวเองออกจากซากรถได้ฉิวเฉียดขณะที่มิสไซล์พุ่งเข้าหาตัวรถ เกิดระเบิดลูกใหญ่ร่างอีธาน ฮันท์ กระเด็นตามแรงระเบิดปลิวเข้าหารถอีกคัน ดูแล้วน่าเจ็บแทน อีธาน ยังไม่หยุดไล่ล่า โอเว็น ที่อยู่อีกฝั่งของสะพาน มีหลุมใหญ่จากแรงระเบิดกั้นกลางระหว่างเขากับโอเว็น แต่ก็หาใช่อุปสรรคไม่ สำหรับอีธาน เขากระโจนข้ามหลุมใหญ่นั้น โดยไม่ต้องยั้งคิดว่าเบื้องล่างนั้นคือมหาสมุทรสุดลึก เพื่อเพิ่มความระทึกช่วงที่อีธาน กระโดดข้ามจึงต้องเป็นภาพสโลว์โมชั่นมองเห็นอีธานกระแทกตัวเข้ากับขอบถนน หวุดหวิดจะร่วงลงเบื้องล่าง แต่ก็คว้าขอบถนนไว้ได้ฉิวเฉียด
4. ปีนตึกเบิร์จคาลิฟา จาก Mission: Impossible - Ghost Protocol (2011)
ขึ้นชื่อว่า Mission : Impossible แล้วต้องเล่นใหญ่ เมื่อเบิร์จ คาลิฟา อาคารระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกสร้างเสร็จหมาด ๆ ด้วยความสูง 2,700 ฟุต 160 ชั้น ทอม ครูซ ก็เลือกที่จะเป็นคนแรกที่ใช้ตึกนี้ในฉากแอ็คชั่นระทึก ด้วยการให้อีธาน ฮันท์ ต้องหาทางลอบเข้าห้องเซิร์ฟเวอร์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาอยู่ชั้นบนของอาคาร ทางเดียวที่จะเข้าไปได้ คือต้องเข้าทางด้านนอกตึก อีธาน ก็เลือกใช้ทางนี้ ด้วยการปีนจากด้านนอกแล้วไต่สูงขึ้นไปอีก 11 ชั้น ด้วยถุงมือที่ออกแบบพิเศษ มีแรงในการยึดเกาะสูง และแน่นอนเรื่องเสี่ยงตายแบบนี้ ทอม ครูซ ก็ยังเลือกที่จะแสดงฉากสตันท์ด้วยตัวเองเช่นเคย
5. เกาะเครื่องบินขนส่งตอนเทคออฟ จาก Mission: Impossible - Rogue Nation (2015)
เป็นอีกภาคที่เล่นใหญ่ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง ภารกิจนี้หน่วย IMF จะต้องฉกหัวรบมิสไซล์จำนวนมากจากเครื่อง แอร์บัส 400 ของข้าศึก แต่อีธาน ฮันท์ มาช้ากว่ากำหนด เครื่องบินกำลังจะเทคออฟแล้ว เขาไม่สามารถลักลอบเข้าไปในเครื่อง ได้ทัน ด้วยความบ้าระห่ำ เขาไม่ยอมให้ภารกิจล้มเหลวแต่เลือกที่จะเกาะอยู่ภายนอกประตูแล้วขึ้นไปกับเครื่องบิน ในขณะที่เบนจี้ เพื่อนร่วมทีมกำลังแฮคประตูเครื่องบินให้เปิด และแน่นอนนี่ก็เป็นอีกฉากที่ ทอม ครูซ เล่นฉากสตันท์เอง โดยไม่มี เทคนิคซีจีเข้ามาช่วยแต่อย่างใด
6. เฮลิคอปเตอร์ไล่ล่า จาก Mission: Impossible - Fallout (2018)
เป็นภาคที่อัดแน่นไปด้วยฉากสตันท์ อย่างที่ผ่านตากันไปกับฉากกระโดดร่ม Halo Jump และฉากกระโดดข้ามตึกสูงแล้วพลาดจนข้อเท้าหักจริง ถ้า 2 ฉากนี้ยังไม่บ้าระห่ำพอ มาดูฉากนี้ครับ ฉากเฮลิคอปเตอร์ไล่ล่า ในฉากนี้อีธาน ฮันต์ ต้องขับเฮลิคอปเตอร์ หนี ออกัสต์ วอล์คเกอร์ ตัวร้ายของเรื่องที่สวมบทโดย เฮนรี่ คาวิลล์ ที่ขับไล่กวดหลังและระดมยิงเข้าใส่อยู่
ความพิเศษของฉากนี้ก็เช่นเคยครับ ทอม ครูซ ขับเฮลิคอปเตอร์ด้วยตัวเอง ซึ่งเขาฝึกขับวันละ 8 ชั่วโมงมาตลอด 3 เดือนเพื่อฉากนี้ แล้วต้องให้ดูสมจริงว่าเป็นนักบินที่ชำนาญ แล้วนอกจากที่เขาต้องแสดงสีหน้าอาการอยู่หน้ากล้อง ทอม ยังเป็นผู้ควบคุมกล้องที่ติดอยู่นอกเฮลิคอปเตอร์เองอีกด้วย เรียกว่าต้องแยกสมองหลายส่วนเลยทีเดียว ทั้งขับ ทั้งแสดง และควบคุมกล้อง วันที่ 26 กรกฎาคม นี้ไปพิสูจน์ฉากนี้ด้วยกัน และคอยจับตาฉากที่เฮลิคอปเตอร์ของอีธาน ฮันต์ไต่ระดับลงด้วยการหมุนรอบตัว 360 องศา เป็นเทคนิคที่ยากและเสี่ยงตายมาก และแน่นอนครับ ทอม ครูซ ขับด้วยตัวเอง