ถือว่าเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่หน้าใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2015 แอนท์-แมน มากับพลังความสามารถที่แปลกใหม่กว่าเหล่ารุ่นพี่ซูเปอร์ฮีโร่ ด้วยความสามารถในการย่อร่างจนเล็กจิ๋วแต่ยังคงพละกำลังมหาศาลไว้ แล้วภายหลังก็เพิ่มความสามารถในทิศทางตรงกันข้าม ด้วยการขยายร่างให้กลายเป็นยักษ์ ยิ่งเพิ่มสีสันให้กับซูเปอร์ฮีโร่ตัวนี้มากขึ้น  แม้หนังจะไม่ฮิตเปรี้ยงปร้าง กวาดรายได้ไป 519 ล้านเหรียญ จัดอยู่ในกลุ่มหนังทำเงินระดับล่าง ๆ ของจักรวาลมาร์เวล  แต่ถึงกระนั้น แอนท์-แมน ก็ยังได้กลับมาสานต่อภารกิจในภาค 2 และภาคนี้เพิ่มความน่าสนใจด้วยการเพิ่ม เดอะวอสป์ มาเป็นคู่หู และ หลุยส์ บทของไมเคิล พีนา ก็ยังมาทำหน้าที่ตัวชงมุกเช่นเดิม ดูวี่แววแล้วหนังน่าจะทำรายได้สวยหรูกว่าภาคแรกนะ แต่ก่อนจะได้ไปพิสูจน์กันในวันที่ 4 ก.ค. นี้ เรามาอ่านเรื่องราวน่ารู้ ที่ช่วยให้ดูหนังสนุกกันมากขึ้นดีกว่า

เหตุการณ์ในหนังเกิดขึ้นระหว่าง Captain America : Civil War และ Avengers : Infinity War

          หลังจาก แอนท์-แมน ไปร่วมพะบู๊กับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ โดยเลือกอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล  ทำให้ชะตากรรมสุดท้ายเขาต้องถูกคุมขังบนแพลอยน้ำ แต่สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือจากกัปตันอเมริกา แล้ว สก็อตต์ แลง ก็ยืนกรานไม่รับข้อเสนอใด ๆ จากรัฐบาล ทำให้เขาต้องโดนสวมเครื่องติดตามที่ข้อเท้าและจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ในบ้าน เป็นเหตุให้เราไม่เห็นแอนท์-แมน ไปร่วมกับเหล่าอเวนเจอร์สต่อสู้กับธานอสใน Avengers : Infinity War แต่ใน Avengers 4 เราจะได้เห็น แอนท์-แมน แน่นอน และน่าจะมีบทบาทสำคัญด้วยสิ

 

โฮป แวน ไดน์ ไม่ใช่ เดอะ วอสป์ คนแรก

         เดอะ วอสป์ หรือ "มนุษย์พลังตัวต่อ" ที่ต่อสู้เคียงข้างแอนท์-แมน ในภาคนี้ และได้รับเกียรติมีชื่อของเธอขึ้นร่วมในชื่อเรื่องด้วย ตัวจริงของเดอะ วอสป์ ในภาคนี้คือ โฮป แวน ไดน์ ลูกสาวของแฮงค์ พิม แต่เธอเป็น เดอะ วอสป์ คนที่ 2 ส่วนผู้ที่สวมชุด เดอะ วอสป์ คนแรกนั้นคือ เจเน็ต แวน ไดน์ แม่ของเธอและภรรยาของแฮงค์ พิม  เช่นเดียวกับสก็อตต์ แลง ก็ไม่ใช่ แอนท์-แมน คนแรกเช่นกัน แต่เป็นแฮงค์ พิม เองที่เป็นคนค้นพบความสามารถในการย่อและขยายร่าง และสร้างชุดแอนท์-แมนขึ้นมา แล้วสวมชุดออกปฏิบัติการเป็นคนแรก แต่เมื่อ เดอะ วอสป์ คู่หูและภรรยาของเขาหายสาบสูญไปในแควนตัม รีล์ม ระหว่างทำภารกิจ ทำให้แฮงค์ พิม แขวนชุดแอนท์-แมน และปลดเกษียณตัวเองออกจากหน้าที่

 

เดอะ วอสป์ คนแรกยังมีชีวิตอยู่

            แฮงค์ พิม เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในภาคแรกว่า เจเน็ต แวน ไดน์ ขณะเป็นเดอะ วอสป์ ได้ย่อร่างตัวเองจนเล็กมากแล้วพาตัวเองเข้าไปอยู่ในแควนตัม รีล์ม มิติพิศดารที่อยู่ระหว่างอะตอมกับโมเลกุล เพื่อหยุดยั้งมิสไซล์ แล้วเธอก็ติดค้างอยู่ในมิตินั้น แฮงค์ พิม สันนิษฐานว่าเธอเสียชิวิตไปแล้ว

แต่ในภาคนี้ เจเน็ต แวน ไดน์ จะกลับมา คาดว่า แอนท์-แมน น่าจะช่วยเธอกลับมาได้จาก แควนตัม รีล์ม ลองสังเกตได้จากตัวอย่างหนังในช่วงที่แอนท์-แมน กำลังย่อร่างตัวเองเข้าไปในแควนตัม รีล์ม เราจะมองเห็นเงาร่างของบางคนในชุดเดอะ วอสป์ อยู่ในฉากหลัง

เดอะวอสป์ ในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน มีบทบาทสำคัญมาก เธอเป็นทั้งนางแบบและดีไซเนอร์ และยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งอเวนเจอร์สด้วย

 

ตัวร้ายในภาคนี้ ยืมมาจาก ไอออนแมน

           เรารู้กันแล้วว่าตัวร้ายในภาคนี้มีนามว่า "เดอะ โกสต์" และเป็นวายร้ายเพศหญิง จุดประสงค์ของเธอยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเธอออกมาอาละวาดเพราะต้องการอะไร  แต่เรารู้ว่าเธอมีความสามารถหลากหลาย ทั้งหายตัวได้ และไม่มีใครสามารถสัมผัสเธอได้ เธอยังยิงพลังแสงไฟฟ้าออกจากร่างได้ด้วย , เดอะ โกสต์ ในเวอร์ชั่นการ์ตูนนั้นเป็นผู้ชาย และเป็นตัวร้ายในเรื่องไอออนแมน ในภาคนี้ยังมีตัวร้ายคนที่ 2 ซึ่งเรายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับวายร้ายตัวนี้แต่อย่างใด

 

แคสซี ลูกสาวของ สก็อตต์ แลง ก็เป็นซูเปอร์ฮีโร่

         ในภาคนี้เราจะเห็นสก็อตต์คลุกคลีใกล้ชิดอยู่กับแคสซี ลูกสาวของเขาที่ยังเด็กอยู่ แต่ในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนนั้น แคสซี โตเป็นสาวแล้ว และเธอก็เป็นซูเปอร์ฮีโร่ด้วยมีฉายามากมายเช่น แอนท์-เกิร์ล , สติงเกอร์ , สตาร์เจอร์ เธอออกโรงต่อสู้กับวายร้ายมากมายเช่น ไฮดรา , ครอสไฟร์ และ ดอกเตอร์ดูม ไม่แน่เราอาจได้เห็นพัฒนาการในอนาคตของ แคสซี ก็เป็นได้

 

คู่หูมีพลังและความสามารถใหม่ๆ

          จากที่เห็นในตัวอย่างเรารู้แล้วว่า เดอะ วอสป์ เธอสามารถบินได้ด้วย ทำให้เธอมีความคล่องตัวในการต่อสู้เหนือกว่า แอนท์-แมน เสียอีก ไม่เพียงแค่นั้นชุดของเธอยังยิงพลังแสงได้อีกด้วย ยิ่งทำให้สก็อตต์รู้สึกอิจฉาความสามารถของเดอะ วอสป์อยู่พอควร แต่ภาคนี้เราก็ยังจะได้เห็นแอนท์-แมน ใช้หมวกของเขาสื่อสารกองทัพมดให้ช่วยงานได้เหมือนเคย ทั้งคู่ต้องขุดทุกความสามารถมาใช้กันล่ะ เพราะเดอะ โกสต์ ตัวร้ายในภาคนี้ก็มีความสามารถมากหลายเลยล่ะ สมกับชื่อของเธอ

 

ภาคนี้เป็นการรวมดารา

         จากภาคแรกที่มีดาราแถวหน้ากันมากอยู่แล้ว ทั้ง พอล รัดด์ , ไมเคิล ดักลาส ที่ 73 แล้วก็ยังแจ๋วอยู่ เล่นหนังได้อีกนาน , อีแวนเจลีน ลิลลี่ ดาราสาวสวยที่เลื่อนขั้นจากบทสมทบในภาคที่แล้ว ขึ้นมาเป็นดารานำในฐานะ เดอะ วอสป์ ซูเปอร์ฮีโร่หน้าใหม่ของจักรวาลมาร์เวล หลายๆ คนน่าจะคุ้นหน้าของอีเวนเจลีน เพราะเธอคือนางเอกจากซีรีส์สุดฮิตที่แพร่ภาพเมื่อปี 2004 - 2010 แล้วก็มารับบท เทารีล ในไตรภาค Hobbit

      ภาคนี้ยังเพิ่มสมาชิกใหม่รุ่นใหญ่มาอีก 2 รายแรกคือ มิเชลล์ ไฟเฟอร์ ในบท เจเน็ต แวน ไดน์ แม่ของ โฮป ภรรยาของ แฮงค์ พิม และเธอเป็น เดอะ วอสป์ คนแรก มิเชลล์ ไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกซูเปอร์ฮีโร่เลย เพราะครั้งหนึ่งเธอก็เคยเป็น แคทวูเมน มาแล้ว และอีกรายคือ ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น ดาราเจ้าบทบาท ที่เล่นหนังมาไม่รู้กี่เรื่องแล้ว แต่หลายคนน่าจะจำเขาได้ดีในบท มอร์เฟียซ จาก The Matrix ในเรื่องนี้ ลอเรนซ์ มารับบทเป็น ดร.บิล ฟอสเตอร์ ผู้ร่วมคิดค้นชุด แอนท์-แมน ร่วมกับ แฮงค์ พิม

แล้วที่ขาดไปไม่ได้เลย คือ ไมเคิล พีนา ในบท หลุยส์ เพื่อนจอมพูดมากของสก็อตต์ ผู้ทำหน้าที่สีสันได้อย่างมาก และเป็นตัวละครที่หลายๆ คนประทับใจกับการเป็นตัวเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างมากจากภาคแรก

เตรียมพบกับฮีโร่ตัวจิ๋วกับการปฏิบัติภารกิจสุดยิ่งใหญ่ใน "Ant-Man and the Wasp" 4 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์