บทความนี้สำหรับคนที่ชม Jurassic World : Fallen Kingdom แล้วนะครับ

           นอกเหนือจากความสนุกสนานของภาคนี้จนทำเงินถล่มทลายไปแล้วนั้น อีกเรื่องที่แฟน ๆ หนังแชร์กันบนสื่อโซเชียลมีเดียก็คือการรำพึงรำพันถึงความโศกเศร้าหนักหนากับฉากจบชีวิตของบราชิโอเซารัส ในขณะที่มนุษย์ต่างก็หนีเอาชีวิตรอดขึ้นเรือได้ทัน แล้วออกเรือทิ้งห่างจากเกาะอิสลา นูบาร์ บนฉากหลังที่มองเห็นเจ้ายักษ์คอยาววิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดมาสุดทางที่ท่าเรือ โอเว็น และ แคลร์ ต่างก็กล้ำกลืนมองบราชิโอเซารัสถูกกลืนหายไปภายใต้ฝุ่นควันของภูเขาไฟ พร้อมกับเสียงร้องโหยหวน เป็นความรู้สึกที่ต้องมองอีกหนึ่งชีวิตจากไปด้วยความปวดใจ โดยที่ทั้งคู่ไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่เพียงแค่ภาพที่ชวนสะเทือนใจเท่านั้น ผู้กำกับยังขยี้ความรู้สึกด้วยการใส่ดนตรีประกอบชวนหดหู่มาซ้ำเติมอีก จวบจนภาพบราชิโอเซารัสเลือนหายไปจากสายตา แล้วเสียงดนตรีประกอบก็พลันเงียบสนิท  เหลือทิ้งไว้เพียงน้ำตาอาบแก้มคนดูทั้งโรง

         ด้วยความสะเทือนใจขั้นรุนแรง เลยได้มีการสอบถาม เจ.เอ. บาโยนา ถึงเบื้องหลังในการถ่ายทำฉากนี้ เจ.เอ. ก็เผยว่าเขาตั้งใจเจาะจงว่าไดโนเสาร์ในฉากนี้จะต้องเป็นบราชิโอเซารัสเท่านั้น เขาต้องการสื่อโดยตรงถึงแฟนๆ Jurassic  Park ที่ติดตามแฟรนไชส์นี้มากว่า 25 ปี เหตุเพราะบราชิโอเซารัส เป็นไดโนเสาร์ตัวแรกที่ปรากฏตัวบนจอใน Jurassic Park เมื่อปี 1993 ฉะนั้นเมื่อถึงจุดอวสานของเกาะอิสลา นูบาร์ ก็จะต้องเป็นบราชิโอเซารัสเท่านั้นที่จะเป็นไดโนเสาร์ ตัวสุดท้ายบนเกาะที่เราได้เห็นกัน "ฉากนี้สื่อให้เห็นจุดจบของความฝันที่เริ่มต้นเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ผมตั้งใจใช้ฉากนี้เล่าถึงวาระสุดท้ายของเกาะ และจุดจบของความฝันนั้น"

ผู้กำกับ เจ.เอ. บาโยนา และ 2 นักแสดงนำ

          ในการถ่ายทำฉากนี้ยังเป็นงานที่ท้าทายผู้กำกับ เจ.เอ. บาโยนา ด้วย ที่จะดึงความรู้สึกของนักแสดงออกมาอย่างไรให้สื่อตรงถึงคนดูได้ เจ.เอ. ให้นักแสดงทั้งหมดมองไปที่ฉาก กรีนสกรีน ที่จะใส่ภาพบราชิโอเซารัสลงไปภายหลัง แล้วใช้ดนตรีของ จอห์น วิลเลียมส์ ที่รับผิดชอบประพันธ์ดนตรีประกอบให้กับหนังของสตีเวน สปิลเบิร์ก มาทุกเรื่อง รวมถึง Jurassic World ภาคแรก และ Jurassic Park III จอห์นเป็นยอดฝีมือที่คว้ามาแล้ว 5 ออสการ์ จึงไม่แปลกที่เราจะสัมผัสได้ว่าดนตรีในฉากนี้มันสะเทือนอารมณ์นัก เช่นเดียวกับนักแสดงในฉากนั้นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน "เพลงที่ผมเปิดคลอไปด้วยตอนนั้นมันทั้งหวานแล้วก็เศร้า ก็เลยมีผลอย่างมากต่อนักแสดง โดยเฉพาะไบรซ์ ที่อยู่ตรงนั้นและสามารถสื่ออารมณ์ร่วมออกมาดีมาก เพลงของจอห์น วิลเลียมส์ นี่ช่วยเร่งเร้าอารมณ์ได้เห็นผลจริงๆ"

ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบ จอห์น วิลเลียมส์

          และแน่นอนว่าฉากนี้ก็จะกลายเป็นที่จดจำในฐานะฉากที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดฉากหนึ่งในแฟรนไชส์ Jurassic Park แล้วก็เป็นฉากที่เกินคาดสำหรับแฟนๆ ที่ต่างตั้งใจไปสัมผัสความตื่นตาตื่นใจกับบรรดาไดโนเสาร์มากมายในภาคนี้  ไม่มีใครคาดคิดว่ามาดูหนังภาคนี้แล้วจะได้เสียน้ำตากัน ผู้ชมหลายๆ คนก็ใช้โซเชียลมีเดียระบายถึงความรู้สึกต่อฉากนี้กัน

ยูสเซอร์ Starlight โพสต์ว่า "ฉันเพิ่งได้ดู "Jurassic World Fallen Kingdom" แล้วฉากบราชิโอเซารัส ก็ทำเอาฉันร้องไห้ฟูมฟายเป็นบ้า"

ยูสเซอร์ Stevenlv 1990 โพสต์หาแนวร่วมว่า "ใครดู Jurassic World Fallen Kingdom แล้วร้องไห้เหมือนผมบ้าง คงไม่ต้องบอกว่าฉากไหนนะ"

ยูสเซอร์ erica from the dpg ท่าทางจะฟูมฟายมาก "ก็ไม่ได้อยากจะดราม่านักหรอกนะ แต่ว่าฉันจะตายให้ได้กับไอ้ฉากบราซิโอเซารัส จากหนัง Jurassic World"

ยูสเซอร์ Draven นี่มาแนวอาฆาตเลย "ใครก็ตามที่คิดใส่ไอ้ฉากนี้ลงไปในหนัง รู้ไว้ด้วยนะ ฉันเกลียดแก"

          เห็นได้ว่าไม่ใช่แค่แฟนหนังบ้านเราที่เสียน้ำตาให้กับฉากนี้ แต่ผู้ชมแทบจะทั่วโลกที่ได้ชม ต่างก็รู้สึกโศกเศร้าไปกับฉากนี้ทั้งนั้น แล้วยิ่งถ้านึกย้อนไปถึงฉากที่แซม นีล และ ลอร่า เดิร์น ต่างอ้าปากค้างตกตะลึงกับวินาทีแรกที่ทั้งคู่ได้เห็นบราชิโอเซารัสปรากฏตัวเป็นๆ มาอยู่เบื้องหน้าพวกเขาใน Jurassic Park (1993) ใครจะไปคาดคิดว่าอีก 25 ปีต่อมา พวกเราจะได้เห็นบราชิโอเซารัสต้องกรีดร้องโหยหวนก่อนจบชีวิตอย่างน่าอนาถ แล้วคนที่ลงมือฆ่ามันด้วยมายาภาพยนตร์นี่ก็ไม่ใช่ใครหรอก เราต้องชี้นิ้วไปที่ ผู้กำกับ เจ.เอ. บาโยน่า ใครสงสารเจ้าบราชิโอเซารัส ก็ต้องโทษคนนี้เท่านั้นล่ะ ใจร้ายจริงๆ